กระแสlet the earth breath ในtwitterไทยนี่wokeจนเกินเหตุหรือป่าว?

รายละเอียดเรื่องwokeสามารถอ่านได้ตามลิงค์นะครับ: https://pantip.com/topic/41121991

โดยกระแสlet the earth breathเป็นกระแสที่เริ่มต้นมาจากประเทศอังกฤษที่คัดค้านการตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิล โดยประชาชนส่วนหนึ่ง NGOด้านสิ่งแวดล้อม กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ออกมาเคลื่อนไหวให้ข้อมูลในเรื่องของclimate changeจนกลายเป็นsoft powerมาถึงไทยให้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งข้อมูลบางอย่างอาจจะมีการพูดให้เกินจริงบ้างขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคลในการเสพข่าวสาร

ซึ่งถามว่าดีไหม ตอบเลยว่าอาจจะดีในเรื่องของการสร้างแรงดึงดูดให้คนมาสนใจด้าน "การจัดการสิ่งแวดล้อม" และมองปัญหาในหลายๆมิติมากขึ้นมากขึ้นทั้งมุมมองในส่วนของฝ่ายโรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิลเองหรือกลุ่มNGOอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก็ตาม โดยมุมมองส่วนตัวของผมมองด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมถือว่าเป็นอุดมการณ์ที่แต่ล่ะคนให้ความเห็นที่ต่างกันออกไป

ส่วนตัวผมมองว่าพลังงานฟอสซิลยังไงก็ยังจำเป็นอยู่เพราะราคาถูกและการปล่อยมลพิษในปัจจุบันถือว่าน้อยมากแล้ว แต่ถ้าหันไปใช้พลังงานหมุนเวียนค่าไฟบ้านเราจะแพงมากและจะไม่เพียงพอต่อการบริโภคทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม แต่ถ้าอนาคตสามารถทำให้พลังงานหมุนเวียนราคถูกและผลิตพอทั้งประเทศได้จริงก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าของชาติอย่างมากเลย

แต่ถ้าบางคนแยกแยะไม่ได้ผมเชื่ออย่างสุดใจว่าส่วนใหญ่จะเกลียดและต่อต้านโรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิลไปตลอดชีวิตโดยจะยกตัวอย่างเหตุการแม่เมาะมาอ้างได้ทุกปีและตลอดกาลโดยไม่คิดจะรับข้อมูลข่าวสารเข้ามาเพิ่มเลยและจะกลายเป็นคนที่ใช้twitterในการขับเคลื่อนต่อไป

ซึ่งเท่าที่ตามอ่านในtwitterมานี่อย่างwokeเลย แชร์ข่าวก็มีแต่fake new ตัวอย่าง
กทม.จะจมน้ำใน4-5ปี
โลกจะอยู่ได้อีกแค่4-5ปี 
ต้องหันไปใช้พลังงานหมุนเวียน100%(ยากมากๆๆๆๆ) 
บอกเกษตรกรให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมีทั้งที่ตัวเองไม่มีความรู้เรื่องต้นทุนเลย 
บอกให้ลดโรงงานอุตสาหกรรมลงแต่หารู้ใหม่ว่าทุกประเทศไม่มีชาติไหนทำและทุกปีโรงงานก็ผุดเพิ่มขึ้นมาตลอด 
โยงเข้าหานายทุนTOP10ได้ตลอดเวลาว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโลกร้อน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่