พอดีผมเกษียณแล้ว ก็แปลกใจว่าทำไม่เด็กสมัยนี้กำลังเป็นผู้ใหญอายุ 30-35 ปี จึงมีเป้าหมายเงินเก็บมากว่า 10 ล้านบาท ไม่รวมทรัพย์สินอื่นบ้านและรถที่ดินคอนโด ส่วนตัวเราที่เกษียณแล้วจะให้มีเงินสดเก็บสัก 2-3 ล้านบาทหลังเกษียณก็ยากลำบากแล้ว ทั้งที่อยู่ในระดับงานบริหารเงินเดือนกลางๆ ถึง 20 กว่าปี โดยลืมนึกค่าตัวเลขการคำนวณตามช่วงเวลาจริงที่เปลี่ยนไป.ต่อไปเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบ.
สมมุตติว่าเมื่อ 23 ปีที่แล้ว นายx อายุ 38 ปีทำงานได้ขึ้นตำแหน่งบริหารเงินเดือนกลางๆ เริ่มที่ 25,000 บาทต่อเดือน โบนัสปีละ 2-3 เดือนต่อปี เป็นการเริ่มตั้งตัว เงินเขาก็ขึ้นตามปกติจนเกษียณ 60 ปีจบอยู่ที่ 52,000 บาทต่อเดือน กินเงินเดือนนี้เป็นเวลา 10 ปีกว่า แต่ช่วงหลัง 6 ปี ไม่มีโบนัสแล้ว
จึ่งต้องหาว่าในเวลา 23 ปีก็จะมีเงินได้รวมเท่าไร ผมตีคร่าวๆ อยู่ที่ปีเดือนละ 40,000 บาท(รวมเฉลี่ยโบนัสแล้วทั้ง 23 ปี)ต่อเดือน
ก็จะได้นาย x ทำงานระดับบริหารเงินเดือนกลางๆ 23 ปี รวมรายได้อยู่ที่ 40,000x12x23 = 11,040,000 บาท
ดังนั้นนาย X ที่เกษียณไปแล้วมีโอกาสเก็บเงินได้ถึง 5 ล้านบาท โดยไม่รวมทรัพย์สินอื่น ด้วยมีครอบครัวและลูก 2 คน จึงมองเห็นสรุปว่า ยากนักเมื่อเทียบกับตนเอง
แต่เมื่อนาย X เห็นลูกตนเองกับยุคปัจจุบันอายุ 34 ปีตำแหน่งบริหารเริ่มต้นที่เงินเดือนที่ 7x,xxxx บาทต่อเดือนโบนัสก็ 2-3 เดือนต่อปี จะเกษียณเมื่ออายุ 55 ปี ก็อีก 21 ปี ถ้าการขึ้นเงินเดือนคล้ายนาย X ก็คงถึง 1.5 แสนบาทต่อเดือนยังไม่รวมโบนัส เมื่อตีคร่าวๆ เฉลียเงินได้รวมต่อเดือน 110,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 21 ปี
ดังนั้นลูกนาย X ก็จะมีรายได้รวม 21 ปีจนเกษียณ 110,000 X 12 X 21 ปี = 27,720,000 บาท
สรุป คนรุ่นใหม่(เด็กสำหรับผม)อายุ 30-40 ปี ที่มีงานตำแหน่งดีเงินเดือนค่อนข้างดีขึ้นไป ประเมินตั้งเป้าที่จะมีเงินเก็บ 10 ล้านบาทขึ้นไป ไม่รวมทรัพย์สินอื่นๆ เมื่อเกษียณก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องเกินเลยไปสำหรับคนยุคนี้ที่อายุ 30-40 ปี ที่คนแก่เกษียณแล้วตาค้างเป็นไปได้เหรอ! แต่เมื่อวิเคราะห์แล้ว.. ตัวเลขและการคำนาณไม่ได้โกหกเราเลย.
และถ้าเขาเหล่านั้นได้ลงทุนต่างๆ ทั้งหุ้นและอื่นๆ อีกเพราะปัจจุบันมีการลงทุนได้หลายรูปให้ศึกษา ก็พอเป็นไปได้ที่เขามีเงินเก็บถึง 20 ล้านกว่าบาทขึ้นไปได้ไม่รวมทรัพย์สินอื่นสำหรับคนที่มีพื้นฐานการงานและเงินเดือนดี.
ผมเข้าใจแล้วว่า เด็กที่พื้นฐานการการงานที่ดีช่วงอายุ 30-35 ปีปัจจุบันมีเป้าเงินเก็บเกษียณที่ 10 ล้านขึ้นไม่รวมทรัพสินอิน
สมมุตติว่าเมื่อ 23 ปีที่แล้ว นายx อายุ 38 ปีทำงานได้ขึ้นตำแหน่งบริหารเงินเดือนกลางๆ เริ่มที่ 25,000 บาทต่อเดือน โบนัสปีละ 2-3 เดือนต่อปี เป็นการเริ่มตั้งตัว เงินเขาก็ขึ้นตามปกติจนเกษียณ 60 ปีจบอยู่ที่ 52,000 บาทต่อเดือน กินเงินเดือนนี้เป็นเวลา 10 ปีกว่า แต่ช่วงหลัง 6 ปี ไม่มีโบนัสแล้ว
จึ่งต้องหาว่าในเวลา 23 ปีก็จะมีเงินได้รวมเท่าไร ผมตีคร่าวๆ อยู่ที่ปีเดือนละ 40,000 บาท(รวมเฉลี่ยโบนัสแล้วทั้ง 23 ปี)ต่อเดือน
ก็จะได้นาย x ทำงานระดับบริหารเงินเดือนกลางๆ 23 ปี รวมรายได้อยู่ที่ 40,000x12x23 = 11,040,000 บาท
ดังนั้นนาย X ที่เกษียณไปแล้วมีโอกาสเก็บเงินได้ถึง 5 ล้านบาท โดยไม่รวมทรัพย์สินอื่น ด้วยมีครอบครัวและลูก 2 คน จึงมองเห็นสรุปว่า ยากนักเมื่อเทียบกับตนเอง
แต่เมื่อนาย X เห็นลูกตนเองกับยุคปัจจุบันอายุ 34 ปีตำแหน่งบริหารเริ่มต้นที่เงินเดือนที่ 7x,xxxx บาทต่อเดือนโบนัสก็ 2-3 เดือนต่อปี จะเกษียณเมื่ออายุ 55 ปี ก็อีก 21 ปี ถ้าการขึ้นเงินเดือนคล้ายนาย X ก็คงถึง 1.5 แสนบาทต่อเดือนยังไม่รวมโบนัส เมื่อตีคร่าวๆ เฉลียเงินได้รวมต่อเดือน 110,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 21 ปี
ดังนั้นลูกนาย X ก็จะมีรายได้รวม 21 ปีจนเกษียณ 110,000 X 12 X 21 ปี = 27,720,000 บาท
สรุป คนรุ่นใหม่(เด็กสำหรับผม)อายุ 30-40 ปี ที่มีงานตำแหน่งดีเงินเดือนค่อนข้างดีขึ้นไป ประเมินตั้งเป้าที่จะมีเงินเก็บ 10 ล้านบาทขึ้นไป ไม่รวมทรัพย์สินอื่นๆ เมื่อเกษียณก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องเกินเลยไปสำหรับคนยุคนี้ที่อายุ 30-40 ปี ที่คนแก่เกษียณแล้วตาค้างเป็นไปได้เหรอ! แต่เมื่อวิเคราะห์แล้ว.. ตัวเลขและการคำนาณไม่ได้โกหกเราเลย.
และถ้าเขาเหล่านั้นได้ลงทุนต่างๆ ทั้งหุ้นและอื่นๆ อีกเพราะปัจจุบันมีการลงทุนได้หลายรูปให้ศึกษา ก็พอเป็นไปได้ที่เขามีเงินเก็บถึง 20 ล้านกว่าบาทขึ้นไปได้ไม่รวมทรัพย์สินอื่นสำหรับคนที่มีพื้นฐานการงานและเงินเดือนดี.