วันนี้เรามีชาเลนจ์เล็กๆที่เราทำกับแม่มาแชร์กับทุกคนค่ะ เผื่อใครอยากร่วมแจมด้วยก็ได้น้า เพื่อสุขภาพของคุณแม่ล้วนๆเลย นั่นก็คือออออออออ
“ชาเลนจ์จับแม่ดูแลสุขภาพ ให้กลับมาฟิตเปรี๊ยะในวัย 50+” นั่นเองงง เองๆๆๆ

ปกติเราจะเป็นสายสปอยล์มากๆค่ะ แม่อยากกินอะไร อยากทำอะไร อยากเที่ยวไหน เราตามใจเต็มที่ คิดว่าด้วยความที่แม่เลี้ยงเรามาแบบฟรีสไตล์เหมือนกันด้วยมั้ง แม่จะไม่ค่อยบังคับเรา อะไรที่เราทำแล้วแฮปปี้แบบไม่เดือดร้อนตัวเองและคนอื่นแม่ไม่เคยขัด พอตอนนี้เราโตแล้วก็เลยตามใจแม่ด้วยเหมือนกัน เรากับแม่สนิทกันมากค่ะ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า เพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน แข่งกันตามใจเลยว่าง่ายๆ
แม่เราเป็นคนที่กินเก่งมาก แต่เค้าจะไม่ค่อยอ้วนค่ะ คือถ้าเทียบกับคนรุ่นเดียวกันอาจจะดูไม่ได้อ้วน ดูไม่แก่มากหรือไม่ได้มีปัญหาสุขภาพอะไร เลยใช้ชีวิตเต็มที่ กินตามใจฉันสุดๆ ทำตัววัยสะรุ่นมากกก ของชอบแม่ก็มีแต่ของอร่อยๆ ของแซ่บๆ และไม่ค่อยดีต่อสุขภาพทั้งน้านนน แต่เมื่อแม่บอกอยากกิน เราที่อยากให้แม่แฮปปี้ก็ไม่เคยขัด แต่ไม่ทันคิดว่า มันจะไม่ดีต่อสุขภาพระยะยาว จะว่ารักแม่ไม่ถูกทางก็ได้ T_T

เปรมเค้าล่ะะะ แต่ละอย่าง
ก็ใช้ชีวิตกันมาแบบนี้หลายปีไม่มีปัญหาอะไร แม่เองก็แทบไม่ค่อยป่วยอะไรกับเค้า ก็นั่นแหละ ทำให้เราลืมไปว่าจริงๆแล้วแม่อายุ 51 แล้วนะะะะ พูดตรงๆว่าเริ่มเป็นผู้สูงอายุแล้วอ่ะ จนมาวันนึงที่ทำให้เราคิดได้ว่าแม่ต้องเริ่มดูแลตัวเองได้แล้ว คือวันนั้นไปไหว้พระกันที่กาญฯ แล้วต้องขึ้นบันไดสูงมากกก แม่เคยมาวัดนี้แล้ว ขึ้นได้ไม่มีปัญหา แต่รอบนั้นคือขึ้นไปได้ไม่ถึงครึ่งทางแม่บ่นเหนื่อยมาก และปวดเข่าผิดปกติ กว่าจะขึ้นไปถึงคือหอบแฮ่ก ไหว้เสร็จลงมาแม่หมดแรง เหนื่อยมาก ปวดขา ปวดเข่ามาก ตอนนั้นเลยเริ่มคิดแล้วว่า เออ หรือร่างกายมันเริ่มฟ้องนะ ว่าเธออายุมากแล้วนาา ดูแลตัวเองหน่อย หลังจากวันนั้นก็เริ่มบ่นปวดเข่าอยู่เรื่อยๆ ทำอะไรก็ไม่คล่องตัวเหมือนเดิม เราเองก็สังเกตว่าช่วงนี้แม่เริ่มอวบๆขึ้นน้าา อายุก็เริ่มเยอะแล้ว จะปล่อยตัวเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เดี๋ยวโรคภัยอื่นๆจะถามหาละแย่เลย ก็เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชาเลนจ์นี้ค่ะ
จริงๆเราก็ไม่ได้บังคับอะไรมากหรอกค่ะ ก็คุยกับเค้าว่าต่อไปนี้เรามาดูแลสุขภาพกันเถอะ เธอก็อายุเยอะแล้ว เห็นมั้ยเหนื่อยง่าย ปวดขาปวดเข่าแบบนี้ ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น และเราก็จะทำไปพร้อมๆกับแม่ด้วย เป็นเพื่อนกัน ซึ่งแม่ก็ยอมเข้าร่วมชาเลนจ์แต่โดยดี 🎉
ด่านแรกคือการควบคุมอาหาร ก็ไม่ได้บังคับหักดิบนะคะ ไม่ได้เข้มขนาดนั้น แต่ลดปริมาณของที่ไม่มีประโยชน์ ของที่อันตรายต่อสุขภาพ แล้วไปเพิ่มส่วนที่ดีๆ มีประโยชน์เข้าไปแทน ของทอดของมัน ของหวาน เครื่องดื่มชงๆน้ำหวานต่างๆลดลง จากที่กินเกือบทุกวัน อนุญาตให้กินได้แค่อาทิตย์ละ 1 วันเท่านั้น โดยส่วนมากจะเป็นวันเสาร์หรือไม่ก็อาทิตย์ค่ะ

ดูสีหน้าคนทำชาเลนจ์วันแรก คิ้วขมวดเชียว ไม่ยิ้มเหมือนตอนกินลูกชิ้นทอดเลย 5555
ตั้งแต่เข้าชาเลนจ์นี้อาหารหลักก็จะเปลี่ยนไปเป็นพืชผัก และเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายๆซะส่วนใหญ่ คุมแป้ง น้ำตาล ลดทอด ลดมัน ลดหวาน พยายามปรุงน้อยๆ รสชาติเพลนๆเข้าไว้
ด่านสองคือออกกำลังกาย ด่านนี้จำเป็นมากแต่ก็ต้องระวังมากเป็นพิเศษเช่นกันค่ะ เพราะคนสูงอายุจะมีข้อจำกัดหลายๆอย่างในการออกกำลังกาย โดยเฉพาะคนที่ปกติไม่ได้ออกกำลังกายแล้วเพิ่งมาออกเนี่ยต้องหาข้อมูลดีๆเลย การออกกำลังหายของผู้สูงอายุจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงทนต่อการใช้งานได้ดีขึ้น ช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนดี ช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆยืดหยุ่นได้ดีขึ้น เดินเหินคล่องตัวขึ้น แล้วก็ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วยค่ะ คนสูงอายุที่มีปัญหานอนไม่หลับหรือความเครียดควรออกกำลังกายเป็นประจำเลย
การออกกำลังกายของผู้สูงอายุก็ไม่ต้องหนักหน่วงรุนแรงมากค่ะ เป็นพวกกายบริหาร ยืด เหยียดร่างกาย ข้อต่อต่างๆให้คล่องตัวขึ้น ให้พอเลือดลมไหลเวียนเป็นปกติก็ได้ อย่างของแม่เราจะเป็นการเดินเล่นในหมู่บ้าน หมุนๆ บิดๆ ส่วนต่างๆ มีฮูล่าฮูปบ้าง เต้นแอโรบิกกันเองแบบง่ายๆบ้าง ให้พอเหงื่อซึม เลือดลมสูบฉีด แต่ช่วงแรกๆนี่แทบไม่ได้เลยค่ะ อย่างที่บอกว่าคนไม่เคยออกเลย แถมปวดขา ปวดเข่าอีก ก็เลยต้องเริ่มจากการแก้ไขเรื่องปวดเข่าก่อน ไม่งั้นเดินนานไม่ได้ วิ่งไม่ไหว ต้องทา counterpain บรรเทาเวลาปวด แล้วพันเข่าไว้ตลอด แล้วก็มีกิน naturecal แก้ปวดเข่ามันจะเป็นคอลลาเจน+แคลเซียมแล้วก็พวกวิตามินค่ะ ช่วยเรื่องข้อต่อเรื่องกระดูกคนสูงอายุนี่แหละ แล้วก็ทำกายบริหารท่าเข่าตามในยูทูบทุกวันค่ะ พอหายปวดเข่าก็ถึงเริ่มจ็อกกิ้ง เริ่มวิ่งกันได้ พอได้ออกกำลังกายแล้วแม่ดูสดชื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ วิ่งไป แวะเม้ากับเพื่อนไป กว่าจะครบ 1 รอบหมู่บ้านก็เป็นชั่วโมง ถือว่าคลายเครียดไปในตัว

ช่วงแรกพันเข่า หลังๆไม่ต้องละ หายปวดเข่าก็วิ่งฉิวเลยจ้าาา

อันนี้เป็นตัวที่แม่กินแล้วช่วยเรื่องปวดเข่านะคะ naturecal ที่กล่องสีฟ้าๆ แล้วก็จะมีที่เป็นกระปุกนั่นของ blackmores เป็นเลซิตินอันนี้ก็ให้แม่กินเหมือนกันค่ะ ก็ดูมาว่าคนสูงอายุควรเสริมตัวไหนบ้างเค้าบอกเลซิตินช่วยลดการดูดซึมไขมันและคอเลสเตอรอลได้ดีแล้วก็ช่วยบำรุงพวกระบบประสาทและสมองด้วย ปกติแม่จะมีกินวิตามินซีแค่อย่างเดียว ก็เลยจัดมาให้แม่กินคู่กันไป อะไรที่ดีกับสุขภาพก็จัดไปจ้าแม่จ๋า
ชาเลนจ์นี้ผ่านมา 3 เดือนแล้วถ้าถามว่าเห็นผลความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างมั้ยก็บอกตรงๆว่า ณ เวลานี้ ยังไม่ได้แตกต่างมากแบบโอ้โหหหว้าวไรงี้นะคะ เพราะอย่างที่บอกว่าภาพรวมแม่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพเยอะมาก แต่ที่ชัดเจนคือแม่ดูแฮปปี้ขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้านี้ น่าจะเพราะสุขภาพดีขึ้น คล่องตัวขึ้น พอได้ออกกำลังกาย กินอาหารดีๆ แล้วก็คงเบาสบายตัว เลือดลมสะอาดไหลเวียนดีขึ้น แม่ดูสดใส และหลับสบายขึ้นค่ะ เราว่าสิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้มันจะรวมกันกลายเป็นสุขภาพที่ดีในระยะยาวให้แม่ได้แน่ๆเลย ก็จะดูแลสุขภาพกันแบบนี้ต่อไปค่ะ
ถ้าใครอ่านกระทู้นี้แล้วอยากมาร่วมชาเลนจ์ด้วยกันก็จะดีใจมากๆเลย แต่ละบ้านดูแลสุขภาพคุณแม่คุณพ่อยังไงกันบ้าง มาแชร์กันนะคะ จะเก็บเอาไว้เป็นแนวทางในชาเลนจ์ของเรากับแม่ด้วย ^^
วันนี้ไปแล้ว สวัสดีทุกคนค่าาา 👋🥰
เริ่มเลอ! ชาเลนจ์จับแม่ดูแลสุขภาพ ให้กลับมาฟิตเปรี๊ยะในวัย 50+
“ชาเลนจ์จับแม่ดูแลสุขภาพ ให้กลับมาฟิตเปรี๊ยะในวัย 50+” นั่นเองงง เองๆๆๆ
ปกติเราจะเป็นสายสปอยล์มากๆค่ะ แม่อยากกินอะไร อยากทำอะไร อยากเที่ยวไหน เราตามใจเต็มที่ คิดว่าด้วยความที่แม่เลี้ยงเรามาแบบฟรีสไตล์เหมือนกันด้วยมั้ง แม่จะไม่ค่อยบังคับเรา อะไรที่เราทำแล้วแฮปปี้แบบไม่เดือดร้อนตัวเองและคนอื่นแม่ไม่เคยขัด พอตอนนี้เราโตแล้วก็เลยตามใจแม่ด้วยเหมือนกัน เรากับแม่สนิทกันมากค่ะ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า เพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน แข่งกันตามใจเลยว่าง่ายๆ
แม่เราเป็นคนที่กินเก่งมาก แต่เค้าจะไม่ค่อยอ้วนค่ะ คือถ้าเทียบกับคนรุ่นเดียวกันอาจจะดูไม่ได้อ้วน ดูไม่แก่มากหรือไม่ได้มีปัญหาสุขภาพอะไร เลยใช้ชีวิตเต็มที่ กินตามใจฉันสุดๆ ทำตัววัยสะรุ่นมากกก ของชอบแม่ก็มีแต่ของอร่อยๆ ของแซ่บๆ และไม่ค่อยดีต่อสุขภาพทั้งน้านนน แต่เมื่อแม่บอกอยากกิน เราที่อยากให้แม่แฮปปี้ก็ไม่เคยขัด แต่ไม่ทันคิดว่า มันจะไม่ดีต่อสุขภาพระยะยาว จะว่ารักแม่ไม่ถูกทางก็ได้ T_T
เปรมเค้าล่ะะะ แต่ละอย่าง
ก็ใช้ชีวิตกันมาแบบนี้หลายปีไม่มีปัญหาอะไร แม่เองก็แทบไม่ค่อยป่วยอะไรกับเค้า ก็นั่นแหละ ทำให้เราลืมไปว่าจริงๆแล้วแม่อายุ 51 แล้วนะะะะ พูดตรงๆว่าเริ่มเป็นผู้สูงอายุแล้วอ่ะ จนมาวันนึงที่ทำให้เราคิดได้ว่าแม่ต้องเริ่มดูแลตัวเองได้แล้ว คือวันนั้นไปไหว้พระกันที่กาญฯ แล้วต้องขึ้นบันไดสูงมากกก แม่เคยมาวัดนี้แล้ว ขึ้นได้ไม่มีปัญหา แต่รอบนั้นคือขึ้นไปได้ไม่ถึงครึ่งทางแม่บ่นเหนื่อยมาก และปวดเข่าผิดปกติ กว่าจะขึ้นไปถึงคือหอบแฮ่ก ไหว้เสร็จลงมาแม่หมดแรง เหนื่อยมาก ปวดขา ปวดเข่ามาก ตอนนั้นเลยเริ่มคิดแล้วว่า เออ หรือร่างกายมันเริ่มฟ้องนะ ว่าเธออายุมากแล้วนาา ดูแลตัวเองหน่อย หลังจากวันนั้นก็เริ่มบ่นปวดเข่าอยู่เรื่อยๆ ทำอะไรก็ไม่คล่องตัวเหมือนเดิม เราเองก็สังเกตว่าช่วงนี้แม่เริ่มอวบๆขึ้นน้าา อายุก็เริ่มเยอะแล้ว จะปล่อยตัวเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เดี๋ยวโรคภัยอื่นๆจะถามหาละแย่เลย ก็เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชาเลนจ์นี้ค่ะ
จริงๆเราก็ไม่ได้บังคับอะไรมากหรอกค่ะ ก็คุยกับเค้าว่าต่อไปนี้เรามาดูแลสุขภาพกันเถอะ เธอก็อายุเยอะแล้ว เห็นมั้ยเหนื่อยง่าย ปวดขาปวดเข่าแบบนี้ ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น และเราก็จะทำไปพร้อมๆกับแม่ด้วย เป็นเพื่อนกัน ซึ่งแม่ก็ยอมเข้าร่วมชาเลนจ์แต่โดยดี 🎉
ด่านแรกคือการควบคุมอาหาร ก็ไม่ได้บังคับหักดิบนะคะ ไม่ได้เข้มขนาดนั้น แต่ลดปริมาณของที่ไม่มีประโยชน์ ของที่อันตรายต่อสุขภาพ แล้วไปเพิ่มส่วนที่ดีๆ มีประโยชน์เข้าไปแทน ของทอดของมัน ของหวาน เครื่องดื่มชงๆน้ำหวานต่างๆลดลง จากที่กินเกือบทุกวัน อนุญาตให้กินได้แค่อาทิตย์ละ 1 วันเท่านั้น โดยส่วนมากจะเป็นวันเสาร์หรือไม่ก็อาทิตย์ค่ะ
ดูสีหน้าคนทำชาเลนจ์วันแรก คิ้วขมวดเชียว ไม่ยิ้มเหมือนตอนกินลูกชิ้นทอดเลย 5555
ตั้งแต่เข้าชาเลนจ์นี้อาหารหลักก็จะเปลี่ยนไปเป็นพืชผัก และเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายๆซะส่วนใหญ่ คุมแป้ง น้ำตาล ลดทอด ลดมัน ลดหวาน พยายามปรุงน้อยๆ รสชาติเพลนๆเข้าไว้
ด่านสองคือออกกำลังกาย ด่านนี้จำเป็นมากแต่ก็ต้องระวังมากเป็นพิเศษเช่นกันค่ะ เพราะคนสูงอายุจะมีข้อจำกัดหลายๆอย่างในการออกกำลังกาย โดยเฉพาะคนที่ปกติไม่ได้ออกกำลังกายแล้วเพิ่งมาออกเนี่ยต้องหาข้อมูลดีๆเลย การออกกำลังหายของผู้สูงอายุจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงทนต่อการใช้งานได้ดีขึ้น ช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนดี ช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆยืดหยุ่นได้ดีขึ้น เดินเหินคล่องตัวขึ้น แล้วก็ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วยค่ะ คนสูงอายุที่มีปัญหานอนไม่หลับหรือความเครียดควรออกกำลังกายเป็นประจำเลย
การออกกำลังกายของผู้สูงอายุก็ไม่ต้องหนักหน่วงรุนแรงมากค่ะ เป็นพวกกายบริหาร ยืด เหยียดร่างกาย ข้อต่อต่างๆให้คล่องตัวขึ้น ให้พอเลือดลมไหลเวียนเป็นปกติก็ได้ อย่างของแม่เราจะเป็นการเดินเล่นในหมู่บ้าน หมุนๆ บิดๆ ส่วนต่างๆ มีฮูล่าฮูปบ้าง เต้นแอโรบิกกันเองแบบง่ายๆบ้าง ให้พอเหงื่อซึม เลือดลมสูบฉีด แต่ช่วงแรกๆนี่แทบไม่ได้เลยค่ะ อย่างที่บอกว่าคนไม่เคยออกเลย แถมปวดขา ปวดเข่าอีก ก็เลยต้องเริ่มจากการแก้ไขเรื่องปวดเข่าก่อน ไม่งั้นเดินนานไม่ได้ วิ่งไม่ไหว ต้องทา counterpain บรรเทาเวลาปวด แล้วพันเข่าไว้ตลอด แล้วก็มีกิน naturecal แก้ปวดเข่ามันจะเป็นคอลลาเจน+แคลเซียมแล้วก็พวกวิตามินค่ะ ช่วยเรื่องข้อต่อเรื่องกระดูกคนสูงอายุนี่แหละ แล้วก็ทำกายบริหารท่าเข่าตามในยูทูบทุกวันค่ะ พอหายปวดเข่าก็ถึงเริ่มจ็อกกิ้ง เริ่มวิ่งกันได้ พอได้ออกกำลังกายแล้วแม่ดูสดชื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ วิ่งไป แวะเม้ากับเพื่อนไป กว่าจะครบ 1 รอบหมู่บ้านก็เป็นชั่วโมง ถือว่าคลายเครียดไปในตัว
ช่วงแรกพันเข่า หลังๆไม่ต้องละ หายปวดเข่าก็วิ่งฉิวเลยจ้าาา
อันนี้เป็นตัวที่แม่กินแล้วช่วยเรื่องปวดเข่านะคะ naturecal ที่กล่องสีฟ้าๆ แล้วก็จะมีที่เป็นกระปุกนั่นของ blackmores เป็นเลซิตินอันนี้ก็ให้แม่กินเหมือนกันค่ะ ก็ดูมาว่าคนสูงอายุควรเสริมตัวไหนบ้างเค้าบอกเลซิตินช่วยลดการดูดซึมไขมันและคอเลสเตอรอลได้ดีแล้วก็ช่วยบำรุงพวกระบบประสาทและสมองด้วย ปกติแม่จะมีกินวิตามินซีแค่อย่างเดียว ก็เลยจัดมาให้แม่กินคู่กันไป อะไรที่ดีกับสุขภาพก็จัดไปจ้าแม่จ๋า
ชาเลนจ์นี้ผ่านมา 3 เดือนแล้วถ้าถามว่าเห็นผลความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างมั้ยก็บอกตรงๆว่า ณ เวลานี้ ยังไม่ได้แตกต่างมากแบบโอ้โหหหว้าวไรงี้นะคะ เพราะอย่างที่บอกว่าภาพรวมแม่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพเยอะมาก แต่ที่ชัดเจนคือแม่ดูแฮปปี้ขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้านี้ น่าจะเพราะสุขภาพดีขึ้น คล่องตัวขึ้น พอได้ออกกำลังกาย กินอาหารดีๆ แล้วก็คงเบาสบายตัว เลือดลมสะอาดไหลเวียนดีขึ้น แม่ดูสดใส และหลับสบายขึ้นค่ะ เราว่าสิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้มันจะรวมกันกลายเป็นสุขภาพที่ดีในระยะยาวให้แม่ได้แน่ๆเลย ก็จะดูแลสุขภาพกันแบบนี้ต่อไปค่ะ
ถ้าใครอ่านกระทู้นี้แล้วอยากมาร่วมชาเลนจ์ด้วยกันก็จะดีใจมากๆเลย แต่ละบ้านดูแลสุขภาพคุณแม่คุณพ่อยังไงกันบ้าง มาแชร์กันนะคะ จะเก็บเอาไว้เป็นแนวทางในชาเลนจ์ของเรากับแม่ด้วย ^^
วันนี้ไปแล้ว สวัสดีทุกคนค่าาา 👋🥰