ปรามาสพระโดยไม่ได้ตั้งใจ

คนส่วนมากจะเป็นบ่อยอาการนี้
จากแต่ก่อนไม่เคยรู้ทันความคิด ปล่อยไปตามกระแสโลก
พอมาเริ่มทำบุญ ทำความดี ปฏิบัติธรรม พยายามทำให้ตัวเองให้ดีขึ้น
เวลาไปพบเจอคนมีอภิญญา หรือพระ ที่มีคุณธรรมสูง
อาการปรามาสพระก็จะเกิดขึ้นมาทันที โดยอัตโนมัติ เรียกว่าทำให้แทบเป็นบ้ากับความคิดที่ผุดขึ้นมานี้
บางคนถึงกับต้องพึ่งหมอพึ่งยากันเลยทีเดียว 

สาเหตุมาจาก
การที่เป็นคนชอบตำหนิ ติเตียน เพ่งโทษผู้อื่น จนเป็นนิสัยทำจนเป็นอาจิณ
พอไปเห็นพระก็ตำหนิพระ หาเรื่องสารพัดเรื่องมาตำหนิท่าน ไม่ว่าจะตั้งใจ มากน้อยแค่ไหนก็ตาม
เรียกว่าเป็นคนที่มีความคิดมีทัศนคติในด้านลบมาก

มีอยู่ใหญ่ๆ 2 พวก
1.พวกคนทั่วๆ ไป ที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรม ก็จะตามกระแสไปเรื่อย เห็นใครด่าพระ ก็ด่าตาม คนแบบนี้มักจะไม่ค่อยรู้ใจตัวเอง
2.พวกที่ชอบเรียกตัวเองว่าพุทธแท้ คือ ผู้ที่ อ่านตำรามาก แต่ปฏิบัติธรรมน้อย พวกนี้จะมีธงในใจว่าพระดี พระแท้ต้องตรงตามตำรา
ที่ตนศึกษามาเท่านั้น ถ้าพระองค์ไหนทำอะไรที่ไม่ตรงตามตำราก็จะตำหนิ ว่าเป็น อลัชชี ทันที
โดยพวกนี้ไม่เคยไปกราบฟังธรรม หรือใกล้ชิด พระอริยะของจริงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ได้แต่นั่งมโนไปเรื่อยๆ
คนแบบนี้อาจจะไม่รู้ใจตัวเอง หรือรู้แต่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เพราะปักใจเชื่อไปแล้ว

วิธีแก้
ง่ายๆ ก็ให้เลิกด่าพระ รวมถึงเลิกติเตียน เพ่งโทษผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส
ไม่ว่าท่านจะทำผิด หรือทำถูก แต่ไม่ถูกใจท่าน ไม่ตรงตามตำราที่ท่านรู้มา อย่างไร หรือไม่ก็ตาม
ให้วางใจเป็นกลางๆ 

วิธีคิดง่ายๆ เพราะคนที่ตำหนิพระ ท่านก็ยังไม่หมดกิเลส ยังไม่ได้แม้แต่อริยะขั้นต้น หรือได้อภิญญาอะไร
แล้วจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าพระองค์ไหนเป็นพระอริยะ หรือไม่เป็นอริยะ
ให้สอนตนเตือนตนเสมอ เวลาที่อาการปรามาสพระกำเริบ ว่าเรายังดีไม่พอ ถึงไปคิดตำหนิผู้อื่น
เราต้องแก้ไขที่ตนเองเป็นหลัก ไม่ใช่ไปแก้ไขที่ภายนอกที่ผู้อื่น แก้ที่คนอื่นยังไงเรื่องก็ไม่จบ คนมีไม่รู้ตั้งกี่เท่าไหร่
จะให้เป็นดั่งใจเรา ถูกใจเรา ไปทั้งหมดได้อย่างไร

"ขนาดพระพุทธองค์ยังเปลี่ยนใจคนทั้งโลกไม่ได้ แล้วเจ้าเป็นใคร ทำได้หรือ"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่