สวัสดีค่าา หลังจากกระทู้ที่แล้วได้แชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ไปแล้ว กระทู้นี้จะมารีวิวทริปฟินแลนด์ เจ้าของกระทู้จัดทริปเองโดยหาความรู้จากในอินเตอร์เน็ต Pantip และ Youtube ค่าา สำหรับใครที่ต้องการอ่านกระทู้ก่อนหน้านี้
#review ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ ช่วงโควิดด้วยตัวเอง (ธันวาคม2564) >>
https://pantip.com/topic/41236537
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.1 Helsinki-Porvoo >>
https://pantip.com/topic/41312420
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.2 Rovaniemi @Kakslauttanen Arctic Resort ล่าแสงเหนือ,สุนัขลากเลื่อนHusky Safari,ขับSnowmobile >>
https://pantip.com/topic/41317360
ทริปนี้เริ่มต้นจากเราและครอบครัวต้องการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศหลังจากล็อกดาวน์กันมาอย่างยาวนาน จึงได้ทำการเริ่มหาข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ซึ่งช่วงนั้น(ธันวาคม 2564) ยังมีระเบียบข้อบังคับค่อนข้างเยอะค่ะ สุดท้ายแล้วด้วยเรื่องข้อบังคับต่างๆ การฉีดวัคซีน ทำให้ฟินแลนด์เป็นจุดหมายปลายทางของทริปนี้ จัดกระเป๋าไปล่าแสงเหนือกันค่าา
เราเดินทางด้วยสายการบิน Finnair บินตรงจากกรุงเทพถึงเมือง Helsinki, Finland เลยค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง โดยเวลาที่ประเทศฟินแลนด์จะช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมงค่ะ ทริปนี้อยู่ฟินแลนด์ทั้งหมด 8 วัน เจ้าของกระทู้เดินทางช่วง 18 - 26 มกราคม 2565


เมื่อเดินทางถึงสนามบิน ตอนผ่านตม.เราโดนถามแค่ 3 คำถามค่ะ มากี่วัน ไปไหนบ้าง ทำไมถึงมาเที่ยวฟินแลนด์ (แนะนำให้จำข้อมูลตรงนี้มานะคะ เพราะเจ้าของกระทู้เป็นคนเตรียมทริปเอง ข้อมูลแน่นมากก ตอบได้ทุกอย่าง แต่คุณแฟนจำไม่ค่อยได้ ตม.เลยถามยาวเลยค่ะ และขอดูตั๋วเครื่องบินขากลับเพิ่มด้วย คิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว555555) หลังจากรับกระเป๋า สิ่งแรกที่ทำคือซื้อซิมโทรศัพท์ค่ะ เราซื้อจากร้านคล้ายๆ Supermarket ชื่อ Alepa อยู่ในสนามบิน จะมีให้เลือกอยู่ค่ะว่าต้องการใช้จำนวนวันเท่าไร สามารถเข้าไปสอบถามและซื้อที่ cashier ได้เลยค่ะ เดินทางถึงประเทศฟินแลนด์เวลา 16.00 น. ฟ้าก็มืดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อากาศประมาณ -2 องศา พอลมพัดมาระหว่างยืนรอรถไฟต้องรีบหยิบเสื้อโค้ชออกมาใส่กันเลยค่า หนาวมากกกก

นั่งรถไฟจากสนามบินเข้ามาที่ Central Station เพื่อไป Check-in ที่โรงแรม Scandic Grand Central Helsinki โรงแรมจะอยู่ติดสถานีรถไฟเลยค่ะ เดินออกจากประตูด้านข้างของสถานีประมาณ 50 เมตรถึงเลย และหน้าโรงแรมคือสถานีรถบัส Location โรงแรมคือดีมากๆ ทั้งสะดวกต่อการเดินทาง รถไฟ รถราง รถไฟใต้ดิน รถบัส และแค่เดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นห้างและแหล่ง Shopping กลางเมือง เช่น City Center Mall , Stockmann นอกจากนั้นยังมี Supermarket ร้านอาหาร ร้านกาแฟให้เลือกเยอะมากค่า


มุมนี้ถ่ายจากหน้าโรงแรมค่ะ หอนาฬิกาคือสถานีรถไฟ Central Station บอกเลยว่าใกล้มากๆ ส่วนที่จัดไฟทางฝั่งตรงข้ามคือโซน Shopping และห้างที่บอกเลยค่าาา
ห้องที่เลือกพักเป็นโซนปรังปรุงใหม่ของโรงแรมค่ะ โดยเราจะพักที่โรงแรมScandic Grand Central Helsinki จำนวน 2 คืน ราคาคืนละ 6,200 บาท

เช้าวันต่อมา เริ่มต้นวันกันด้วยอาหารเช้าโรงแรม ขออวยยศให้กับอาหารเช้าของโรงแรมที่นี่ อร่อยมากเลยค่าา มีอาหารหลากหลายมากๆ โดยรวมแล้วประทับใจทุกอย่างเลย


สำหรับวันที่สองของเราจะไปเที่ยวเมือง Porvoo ค่ะ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดเราจึงตัดสินใจเช่ารถเพื่อใช้สำหรับการเดินทางในวันนี้ โดยขับรถจาก Helsinki ไปเมือง Porvoo ใช้เดินทางเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราจอดรถที่ลานจอดหน้าโรงแรม Runo ค่ะ(เสียค่าจอดรถ) เพราะบริเวณนี้สามารถเดินไปถ่ายรูปย่าน Old town ได้สะดวกมากๆค่าา

ย่าน Old town ของเมือง Porvoo มีเอกลักษณ์คือบ้านเรือนจะมีสีสันน่ารักมากๆ ตรงบริเวณนี่จะมี Museumเล็กๆและโบสถ์ให้เข้าชมด้วยค่ะ

เมื่อถ่ายรูปกันมาพอสมควร มือจะแข็งแล้วค่า5555555 วันนั้นมีลมค่ะ ทำให้อุณภิม -2 ยิ่งรู้สึกหนาวขึ้นไปอีก ทางเราจึงเข้ามาหลบหนาวที่ร้านกาแฟใต้โรงแรม Runo และสั่ง Hot chocolate มาช่วยคลายหนายว ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ

ต่อมากองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราได้หาข้อมูลร้านอาหารในเมือง Porvoo มาก่อนหน้านี้แล้วและได้เลือกร้าน Rafael's ขับรถมาจากโซน Old town ประมาณ 5 นาทีค่ะ อาหารอร่อยมาก เราสั่งเบอเกอร์ที่เป็น Signature ของทางร้าน คุณแม่สั่งซี่โครงอบ และคุณแฟนสั่งสเต็กเนื้อ Tenderloin อร่อยทุกอย่างค่ะ มื้อนี้ค่าเสียหายอยู่ที่ 3,400 บาทค่ะ จากนั้นขับรถกลับ Helsinki และคืนรถค่ะ แพลนเที่ยวช่วงเย็นวันนี้สบายๆค่ะ เดินเที่ยวรอบๆโรงแรม Shopping ตามอัธยาศัยค่าาา
เช้าวันต่อมา วันนี้แพลนเที่ยวของเราคือเก็บสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมือง Helsinki ค่ะ เรา Check-out และฝากกระเป๋าที่โรงแรม เพื่อที่ตอนเย็นจะกลับมาเอาของและขึ้นรถไฟได้เลยค่ะ แต่อุปสรรคแรกของวันนี้ก็คือหิมะตกค่าาา อากาศวันนี้ประมาณ -1 องศา หนาวไม่พอยังต้องเปียกอีก T_T การที่หิมะตกทำให้แผนการเดินทางของเราต้องใช้เวลาเดินทางไปสถานที่ต่างๆมากขึ้นค่ะ รูปถ่ายที่ออกมาก็จะได้บรรยากาศอีกอารมณ์นึงเลยยย


สถานที่แรกของเราวันนี้ The National Museum of Finland มุมมหาชนค่ะ ต้องมาเก็บภาพกับน้องหมีตัวนี้

ต่อมา Sibelius Monument ขอบอกว่าทางเดินเข้าไปพื้นลื่นมากค่ะ เกือบจะสไลด์ไปหลายครั้งเลย55555

สถานที่ต่อมาเป็น Indoor ขอเข้ามาหลบหนาวกันหน่อยค่า คือ Temppeliaukion Church
จากนั้นพักกินมื้อเที่ยงแถวสถานีรถไฟ Central Station ค่ะ

หลังจากเติมพลังกันแล้ว ไปต่อกันที่ Helsinki Central Library Oodi เป็นสถานที่เปิดใหม่ไม่กี่ปีค่ะ มีทั้งห้องสมุด ห้องซ้อมดนตรี ฟีลคล้ายๆกับ coworking space ค่ะ ปล.ขอยืมคุณแม่มาเป็นนางแบบหน่อยค่า อิอิ

ไปกันต่อที่ Helsinki Cathedral บันไดที่นี้แอบน่ากลัวมากค่ะ55555 ตกลงมาหักแน่ๆค่ะ TT"

และสถานที่สุดท้ายของวันนี้ก็คือ Uspenski Cathedral ค่าาา เกือบไม่ทันซะแล้ว พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าพอดีเลยค่ะ หนาวที่สุดดด

หนาวเมื่อไรให้คิดถึง Hot Chocolate และตรงเข้าร้านกาแฟเลยค่ะ ทริปนี้น้ำตาลพุ่งแน่นอน555555 จากนั้นกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมและรอเวลาขึ้นรถไฟขบวน Intercity265 ต้นทางจาก Helsinki ไปลงที่ Rovaniemi ที่จองไว้เป็นแบบมีห้องน้ำในตัว(สามารถอาบน้ำได้ด้วย) ห้องแบบนี้จะอยู่ชั้น 2 ของขบวนค่าา ราคา 119 ยูโร หรือ ประมาณ 4,500 บาท สามารถนอนได้ 2 คนค่ะ
เราจองรถไฟล่วงหน้าผ่านเว็บ
https://www.vr.fi/en/ และโหลดแอพไว้ในมือถือ เมื่อรถไฟออกไปได้สักพัก เจ้าหน้าที่จะขึ้นมาเคาะห้องเพื่อตรวจตั๋ว เราสามารถเปิดตั๋วที่อยู่ในแอพมือถือโชว์ได้เลยค่ะ บนรถไฟจะมีขบวนที่เป็นห้องอาหาร สามารถทานอาหารได้ค่ะ ราคาอาหารพอๆกับข้างนอกเลย
รถไฟออกเวลา 19.29 น. และจะถึงปลายทาง Rovaniemi เช้าอีกวันเวลา 07.30 น. นอนยาวๆได้เลยค่าา
EP.ต่อไป จะเป็นpartของโซน Lapland แล้วค่ะ กระทู้หน้ามาลุ้นกันนะคะว่าเจ้าของกระทู้จะได้เจอแสงเหนือมั้ยน้าา
เดี๋ยวจะมาสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ด้วยค่า ฝากติดตามด้วยนะคะ
#review ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ ช่วงโควิดด้วยตัวเอง (ธันวาคม2564) >>
https://pantip.com/topic/41236537
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.1 Helsinki-Porvoo >>
https://pantip.com/topic/41312420
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.2 Rovaniemi @Kakslauttanen Arctic Resort ล่าแสงเหนือ,สุนัขลากเลื่อนHusky Safari,ขับSnowmobile >>
https://pantip.com/topic/41317360
[CR] #review เที่ยวฟินแลนด์ ep.1 Helsinki-Porvoo
#review ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ ช่วงโควิดด้วยตัวเอง (ธันวาคม2564) >> https://pantip.com/topic/41236537
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.1 Helsinki-Porvoo >> https://pantip.com/topic/41312420
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.2 Rovaniemi @Kakslauttanen Arctic Resort ล่าแสงเหนือ,สุนัขลากเลื่อนHusky Safari,ขับSnowmobile >> https://pantip.com/topic/41317360
ทริปนี้เริ่มต้นจากเราและครอบครัวต้องการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศหลังจากล็อกดาวน์กันมาอย่างยาวนาน จึงได้ทำการเริ่มหาข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ซึ่งช่วงนั้น(ธันวาคม 2564) ยังมีระเบียบข้อบังคับค่อนข้างเยอะค่ะ สุดท้ายแล้วด้วยเรื่องข้อบังคับต่างๆ การฉีดวัคซีน ทำให้ฟินแลนด์เป็นจุดหมายปลายทางของทริปนี้ จัดกระเป๋าไปล่าแสงเหนือกันค่าา
เราเดินทางด้วยสายการบิน Finnair บินตรงจากกรุงเทพถึงเมือง Helsinki, Finland เลยค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง โดยเวลาที่ประเทศฟินแลนด์จะช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมงค่ะ ทริปนี้อยู่ฟินแลนด์ทั้งหมด 8 วัน เจ้าของกระทู้เดินทางช่วง 18 - 26 มกราคม 2565
เมื่อเดินทางถึงสนามบิน ตอนผ่านตม.เราโดนถามแค่ 3 คำถามค่ะ มากี่วัน ไปไหนบ้าง ทำไมถึงมาเที่ยวฟินแลนด์ (แนะนำให้จำข้อมูลตรงนี้มานะคะ เพราะเจ้าของกระทู้เป็นคนเตรียมทริปเอง ข้อมูลแน่นมากก ตอบได้ทุกอย่าง แต่คุณแฟนจำไม่ค่อยได้ ตม.เลยถามยาวเลยค่ะ และขอดูตั๋วเครื่องบินขากลับเพิ่มด้วย คิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว555555) หลังจากรับกระเป๋า สิ่งแรกที่ทำคือซื้อซิมโทรศัพท์ค่ะ เราซื้อจากร้านคล้ายๆ Supermarket ชื่อ Alepa อยู่ในสนามบิน จะมีให้เลือกอยู่ค่ะว่าต้องการใช้จำนวนวันเท่าไร สามารถเข้าไปสอบถามและซื้อที่ cashier ได้เลยค่ะ เดินทางถึงประเทศฟินแลนด์เวลา 16.00 น. ฟ้าก็มืดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อากาศประมาณ -2 องศา พอลมพัดมาระหว่างยืนรอรถไฟต้องรีบหยิบเสื้อโค้ชออกมาใส่กันเลยค่า หนาวมากกกก
นั่งรถไฟจากสนามบินเข้ามาที่ Central Station เพื่อไป Check-in ที่โรงแรม Scandic Grand Central Helsinki โรงแรมจะอยู่ติดสถานีรถไฟเลยค่ะ เดินออกจากประตูด้านข้างของสถานีประมาณ 50 เมตรถึงเลย และหน้าโรงแรมคือสถานีรถบัส Location โรงแรมคือดีมากๆ ทั้งสะดวกต่อการเดินทาง รถไฟ รถราง รถไฟใต้ดิน รถบัส และแค่เดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นห้างและแหล่ง Shopping กลางเมือง เช่น City Center Mall , Stockmann นอกจากนั้นยังมี Supermarket ร้านอาหาร ร้านกาแฟให้เลือกเยอะมากค่า
มุมนี้ถ่ายจากหน้าโรงแรมค่ะ หอนาฬิกาคือสถานีรถไฟ Central Station บอกเลยว่าใกล้มากๆ ส่วนที่จัดไฟทางฝั่งตรงข้ามคือโซน Shopping และห้างที่บอกเลยค่าาา
ห้องที่เลือกพักเป็นโซนปรังปรุงใหม่ของโรงแรมค่ะ โดยเราจะพักที่โรงแรมScandic Grand Central Helsinki จำนวน 2 คืน ราคาคืนละ 6,200 บาท
เช้าวันต่อมา เริ่มต้นวันกันด้วยอาหารเช้าโรงแรม ขออวยยศให้กับอาหารเช้าของโรงแรมที่นี่ อร่อยมากเลยค่าา มีอาหารหลากหลายมากๆ โดยรวมแล้วประทับใจทุกอย่างเลย
สำหรับวันที่สองของเราจะไปเที่ยวเมือง Porvoo ค่ะ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดเราจึงตัดสินใจเช่ารถเพื่อใช้สำหรับการเดินทางในวันนี้ โดยขับรถจาก Helsinki ไปเมือง Porvoo ใช้เดินทางเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราจอดรถที่ลานจอดหน้าโรงแรม Runo ค่ะ(เสียค่าจอดรถ) เพราะบริเวณนี้สามารถเดินไปถ่ายรูปย่าน Old town ได้สะดวกมากๆค่าา
ย่าน Old town ของเมือง Porvoo มีเอกลักษณ์คือบ้านเรือนจะมีสีสันน่ารักมากๆ ตรงบริเวณนี่จะมี Museumเล็กๆและโบสถ์ให้เข้าชมด้วยค่ะ
เมื่อถ่ายรูปกันมาพอสมควร มือจะแข็งแล้วค่า5555555 วันนั้นมีลมค่ะ ทำให้อุณภิม -2 ยิ่งรู้สึกหนาวขึ้นไปอีก ทางเราจึงเข้ามาหลบหนาวที่ร้านกาแฟใต้โรงแรม Runo และสั่ง Hot chocolate มาช่วยคลายหนายว ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
ต่อมากองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราได้หาข้อมูลร้านอาหารในเมือง Porvoo มาก่อนหน้านี้แล้วและได้เลือกร้าน Rafael's ขับรถมาจากโซน Old town ประมาณ 5 นาทีค่ะ อาหารอร่อยมาก เราสั่งเบอเกอร์ที่เป็น Signature ของทางร้าน คุณแม่สั่งซี่โครงอบ และคุณแฟนสั่งสเต็กเนื้อ Tenderloin อร่อยทุกอย่างค่ะ มื้อนี้ค่าเสียหายอยู่ที่ 3,400 บาทค่ะ จากนั้นขับรถกลับ Helsinki และคืนรถค่ะ แพลนเที่ยวช่วงเย็นวันนี้สบายๆค่ะ เดินเที่ยวรอบๆโรงแรม Shopping ตามอัธยาศัยค่าาา
เช้าวันต่อมา วันนี้แพลนเที่ยวของเราคือเก็บสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมือง Helsinki ค่ะ เรา Check-out และฝากกระเป๋าที่โรงแรม เพื่อที่ตอนเย็นจะกลับมาเอาของและขึ้นรถไฟได้เลยค่ะ แต่อุปสรรคแรกของวันนี้ก็คือหิมะตกค่าาา อากาศวันนี้ประมาณ -1 องศา หนาวไม่พอยังต้องเปียกอีก T_T การที่หิมะตกทำให้แผนการเดินทางของเราต้องใช้เวลาเดินทางไปสถานที่ต่างๆมากขึ้นค่ะ รูปถ่ายที่ออกมาก็จะได้บรรยากาศอีกอารมณ์นึงเลยยย
สถานที่แรกของเราวันนี้ The National Museum of Finland มุมมหาชนค่ะ ต้องมาเก็บภาพกับน้องหมีตัวนี้
ต่อมา Sibelius Monument ขอบอกว่าทางเดินเข้าไปพื้นลื่นมากค่ะ เกือบจะสไลด์ไปหลายครั้งเลย55555
สถานที่ต่อมาเป็น Indoor ขอเข้ามาหลบหนาวกันหน่อยค่า คือ Temppeliaukion Church
จากนั้นพักกินมื้อเที่ยงแถวสถานีรถไฟ Central Station ค่ะ
หลังจากเติมพลังกันแล้ว ไปต่อกันที่ Helsinki Central Library Oodi เป็นสถานที่เปิดใหม่ไม่กี่ปีค่ะ มีทั้งห้องสมุด ห้องซ้อมดนตรี ฟีลคล้ายๆกับ coworking space ค่ะ ปล.ขอยืมคุณแม่มาเป็นนางแบบหน่อยค่า อิอิ
ไปกันต่อที่ Helsinki Cathedral บันไดที่นี้แอบน่ากลัวมากค่ะ55555 ตกลงมาหักแน่ๆค่ะ TT"
และสถานที่สุดท้ายของวันนี้ก็คือ Uspenski Cathedral ค่าาา เกือบไม่ทันซะแล้ว พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าพอดีเลยค่ะ หนาวที่สุดดด
หนาวเมื่อไรให้คิดถึง Hot Chocolate และตรงเข้าร้านกาแฟเลยค่ะ ทริปนี้น้ำตาลพุ่งแน่นอน555555 จากนั้นกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมและรอเวลาขึ้นรถไฟขบวน Intercity265 ต้นทางจาก Helsinki ไปลงที่ Rovaniemi ที่จองไว้เป็นแบบมีห้องน้ำในตัว(สามารถอาบน้ำได้ด้วย) ห้องแบบนี้จะอยู่ชั้น 2 ของขบวนค่าา ราคา 119 ยูโร หรือ ประมาณ 4,500 บาท สามารถนอนได้ 2 คนค่ะ
เราจองรถไฟล่วงหน้าผ่านเว็บ https://www.vr.fi/en/ และโหลดแอพไว้ในมือถือ เมื่อรถไฟออกไปได้สักพัก เจ้าหน้าที่จะขึ้นมาเคาะห้องเพื่อตรวจตั๋ว เราสามารถเปิดตั๋วที่อยู่ในแอพมือถือโชว์ได้เลยค่ะ บนรถไฟจะมีขบวนที่เป็นห้องอาหาร สามารถทานอาหารได้ค่ะ ราคาอาหารพอๆกับข้างนอกเลย
รถไฟออกเวลา 19.29 น. และจะถึงปลายทาง Rovaniemi เช้าอีกวันเวลา 07.30 น. นอนยาวๆได้เลยค่าา
EP.ต่อไป จะเป็นpartของโซน Lapland แล้วค่ะ กระทู้หน้ามาลุ้นกันนะคะว่าเจ้าของกระทู้จะได้เจอแสงเหนือมั้ยน้าา
เดี๋ยวจะมาสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ด้วยค่า ฝากติดตามด้วยนะคะ
#review ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ ช่วงโควิดด้วยตัวเอง (ธันวาคม2564) >> https://pantip.com/topic/41236537
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.1 Helsinki-Porvoo >> https://pantip.com/topic/41312420
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.2 Rovaniemi @Kakslauttanen Arctic Resort ล่าแสงเหนือ,สุนัขลากเลื่อนHusky Safari,ขับSnowmobile >> https://pantip.com/topic/41317360
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้