บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ประกาศส่งงบการเงินประจำปี 2564 แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2565) โดยรายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 5,435 ล้านบาท และมีกำไรรวมประจำปีอยู่ที่ 828 ล้านบาท รายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าโฆษณาและประชาสัมพันธ์ รวมถึงค่าลิขสิทธิ์ตามแพลตฟอร์มต่างๆ อีกด้วย
.
สำหรับรายได้ในปี 2564 ถูกแบ่งรายได้เป็น
รายได้จากการขายสินค้า 140,860,000 บาท
รายได้จากการบริการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ 2,881,553,000 บาท
รายได้รับจ้างผลิตและบริการ 316,839,000 บาท
รายได้จากการจัดกิจกรรมและบริหารกิจกรรม 37,385,000 บาท
รายได้จากค่าเช่าเวลาออกอากาศ 113,966,000 บาท
รายได้จากการบริหารศิลปิน 400,877,000 บาท
รายได้จากการผลิตรายการวิทยุ 188,582,000 บาท
รายได้จากค่าบริการสตูดิโอ 22,525,000 บาท
รายได้จากการเป็นที่ปรึกษา 16,000 บาท
และรายได้ค่าลิขสิทธิ์ 1,244,186,000 บาท
.
ซึ่งทำให้รายได้ที่ทำสัญญาต่อลูกค้า 5,346,789,000 บาท
มากกว่าปี 2563 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,126,775,000 บาท
.
เมื่อรวมรายได้อื่นๆ อีก 89,028,155 บาท ทำให้รายได้รวมอยู่ที่ 5,435,816,857 บาท มากกว่าปี 2563 ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,215,098,964 บาท เมื่อหักลบค่าใช้จ่ายแล้วทำให้มีกำไรอยู่ที่ 828,424,001 บาท มากกว่าปี 2563 ที่มีกำไรเพียง 631,258,049 บาท
.
โดยหลังจาก ONEE ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว กลุ่มบริษัทฯ ได้ชำระเงินกู้คืนจำนวน 2,200 ล้านบาทไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 และบริษัทยังมีกระแสเงินสดที่สามารถชำระหนี้เงินกู้ได้ในระยะยาวได้อีกบางส่วน และทำให้เงินกู้ยืมเหลือ 311.5 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564
.
สำหรับรายได้จาก ONEE ที่เพิ่มขึ้นนั้น มาจากสาเหตุได้แก่ รายได้ค่าบริการโฆษณาบนช่องทางโทรทัศน์เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของช่องวัน 31 และช่องจีเอ็มเอ็ม 25 รวมถึงการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์และการให้สิทธิ์ออกอากาศบนแพลตฟอร์มต่างๆในเครือ นอกจากนี้ค่าโฆษณาวิทยุก็ยังส่งผลทำให้รายได้มากขึ้น เนื่องจากรับรู้แบบเต็มปีอีกด้วย ในส่วนของการรับจ้างผลิตรายการก็มีรายได้สูงขึ้น โดยมาจาก Change2561 และ GMM STUDIO เป็นหลัก และการต่อยอดธุรกิจจากศิลปินของ GMMTV
.
CONTENT : KRITTHANAN D.
-----
ขอบคุณข่าวจาก
https://www.facebook.com/105711950893323/posts/527052418759272/?d=n
#INSIGHT ช่องวันโกยรายได้ทะยาน 5,400 ล้านบาท – หอบกำไร 828 ล้านบาท!
.
สำหรับรายได้ในปี 2564 ถูกแบ่งรายได้เป็น
รายได้จากการขายสินค้า 140,860,000 บาท
รายได้จากการบริการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ 2,881,553,000 บาท
รายได้รับจ้างผลิตและบริการ 316,839,000 บาท
รายได้จากการจัดกิจกรรมและบริหารกิจกรรม 37,385,000 บาท
รายได้จากค่าเช่าเวลาออกอากาศ 113,966,000 บาท
รายได้จากการบริหารศิลปิน 400,877,000 บาท
รายได้จากการผลิตรายการวิทยุ 188,582,000 บาท
รายได้จากค่าบริการสตูดิโอ 22,525,000 บาท
รายได้จากการเป็นที่ปรึกษา 16,000 บาท
และรายได้ค่าลิขสิทธิ์ 1,244,186,000 บาท
.
ซึ่งทำให้รายได้ที่ทำสัญญาต่อลูกค้า 5,346,789,000 บาท
มากกว่าปี 2563 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,126,775,000 บาท
.
เมื่อรวมรายได้อื่นๆ อีก 89,028,155 บาท ทำให้รายได้รวมอยู่ที่ 5,435,816,857 บาท มากกว่าปี 2563 ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,215,098,964 บาท เมื่อหักลบค่าใช้จ่ายแล้วทำให้มีกำไรอยู่ที่ 828,424,001 บาท มากกว่าปี 2563 ที่มีกำไรเพียง 631,258,049 บาท
.
โดยหลังจาก ONEE ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว กลุ่มบริษัทฯ ได้ชำระเงินกู้คืนจำนวน 2,200 ล้านบาทไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 และบริษัทยังมีกระแสเงินสดที่สามารถชำระหนี้เงินกู้ได้ในระยะยาวได้อีกบางส่วน และทำให้เงินกู้ยืมเหลือ 311.5 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564
.
สำหรับรายได้จาก ONEE ที่เพิ่มขึ้นนั้น มาจากสาเหตุได้แก่ รายได้ค่าบริการโฆษณาบนช่องทางโทรทัศน์เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของช่องวัน 31 และช่องจีเอ็มเอ็ม 25 รวมถึงการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์และการให้สิทธิ์ออกอากาศบนแพลตฟอร์มต่างๆในเครือ นอกจากนี้ค่าโฆษณาวิทยุก็ยังส่งผลทำให้รายได้มากขึ้น เนื่องจากรับรู้แบบเต็มปีอีกด้วย ในส่วนของการรับจ้างผลิตรายการก็มีรายได้สูงขึ้น โดยมาจาก Change2561 และ GMM STUDIO เป็นหลัก และการต่อยอดธุรกิจจากศิลปินของ GMMTV
.
CONTENT : KRITTHANAN D.
-----
ขอบคุณข่าวจาก
https://www.facebook.com/105711950893323/posts/527052418759272/?d=n