ครอบครัวใครแบบคล้ายๆ แบบนี้บ้าง ?

เกิดมาโดยโดนกำหนดการใช้ชีวิต เหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่เช็ทการทำงานไว้ เมื่อพังหรือใช้งานไม่ได้ก็ทิ้ง หรือไม่สนใจ  

              เป็นผู้ชายนะ แต่ทั้งแต่เด็ก ป.1 - ป.6 แม่ไม่ให้ไปเล่นร้านเกมส์เลย จนต้องโกหกว่าไปทำงานกับเพื่อน แต่พอจับได้ ถูกด่าเหมือนทำตัวเป็นเด็กเลว เพราะแค่อยากเล่นเกมส์กับเพื่อนๆ แค่นั้น - โตมาหน่อย ม.1 - ม.6 อยากไปนอนเล่นบ้านเพื่อน แต่พ่อแม่ไม่ให้เลย บอกจะไปนอนต้องให้เพื่อนมานอนบ้าน อืมม .. (อันนี้พอรู้ครับว่าแม่กลัวเสียคนแล้วเป็นเด็กติดเกมส์ อย่างว่าผมรู้ตัวผมดีว่าเล่นไม่เกิน Limit ตัวเอง) ตอนเด็กพูดก็เท่านั้นใครจะไปเชื่อ
              พอจะเรียนต่อมหาลัย พอดีสอบGAT-PAT คะแนนเคมีสูงมาก ติด มข. อยากเรียนสายนี้ สานเคมี แต่พ่ออยากให้เรียนบริหารธุรกิจ เพราะอยู่บ้านทำธุรกิจขนาดกลางอยู่ พ่อบอกว่า ไม่ต้องเรียน ไปเข้า มหาลัยอื่น ในสาขาวิชานี้ สรุปต้องเรียนตาม (ปกติ เป็นคนที่ชอบดนตรี ศิลปะ เล่นดนตรีเป็นหลายอย่าง แข่งวงดนตรีสากล ทั้งวงลูกทุ่ง ตลอด ม.4 - ม.6 เข้าทางดนตรีสะส่วนใหญ่ เคมีก็ชอบ มันเป็นวิชาที่สนุกกับการทดลองต่างๆ ไม่น่าเบื่อ ยิ่งเป็นเคมีของยา)

ความตั้งใจ ผมอยากทำงานอยู่บ้านช่วยพ่อแม่ให้เขาสบายอยู่แล้วแหละ แต่มันมีหลายจุดที่เราเริ่มคิดกลับกันเยอะไปหมด และ เริ่มทำให้ผมรักพ่อ... น้อยลงไป....

              จุดเปลี่ยนคือหลังจากเข้าไปทำงานที่บ้าน แรกๆก็ดี (ต้องเกริ่นก่อน พ่อผม เป็นคนที่เชื่อแต่ตัวเอง ฟังเสียงคนนอกมากกว่าในครอบครัว) พ่อผิดอะไร สุดท้ายเราก็ต้องเป็นคนผิด เราทำงานถูกแต่ด่าเรา พอทำตามได้ถูกไม่ผิดอะไร แต่ก็จะหาคำอื่นสารพัดมา ทำไมไม่ทำแบบนี้ต่อ ไม่ทำแบบนี้อีก คืออะไรอะ แบบเห็นค่าในตัวเราหน่อยที่เรามาช่วย เพราะเราเลือกได้นะที่จะไปที่ไหนอะ (แต่ยากสำหรับเราแหละเพราะโดนตีกรอบการใช้ชีวิตมาตลอดการออกจากบ้านไปยากมาก อันนี้ยอมรับว่าอ่อนแอเอง) บ้างทีโดยด่าจนพ่อไล่ออกจากบ้าน "จะไปทำธุรกิจอะไรก็ทำไป คิดว่ามันง่ายมากหรือไง ออกไปทำที่ไหนเขาก็ไม่เอาหรอก" เราเข้าใตทุกอย่างนะว่าธุรกิจมันไม่ง่าย แต่ยังไม่ลองเลย ก็ดูถูกสะแล้ว แบบดูถูกสุดๆ ผมมีธุรกิจที่อยากทำอยู่ แต่มันน่าสนใจมากๆ แต่มันเป็นการเรื่องต้นใหม่เองหมด ไม่มีแฟชน์ไชส์ แต่จะทำอะไรแบบนี้ขาดคนสนันสนุนไม่ได้หรอก พอไม่สนันสนุนถ้าทำพลาดก็คงด่าเรากระจอก
 
                 อีกอันที่โคตร งง พ่อบอกพูดว่า งง อะไรเข้ามาถามเลย ชอบให้คนมาถาม .... อะๆ พอเรามีคำถามอยากจะไปถามเรื่องงาน มีทั้งรู้อยู่แล้วแต่ถามเพื่อความชัว แต่ไม่รู้เลย แต่สิ่งที่ได้กลับมาแค่ ทำหน้าโมโหใส่ ชอบมาเครียดใส่ เช่น เครียดงานอื่นแต่มา โมโหใส่เรา พอถามไป เราไม่เข้าใจก็ถามใหม่ แต่คำตอบที่ได้คือ " เอ้าแค่นี้ยังไม่เข้าใจหรอ" นับจากนั้นมา ก็พยายามไม่เข้าไปถามเข้าไปหา แต่เชื่อมั้ย พ่อไม่เคยรู้เลยว่าทำเองทำอะไรไป หรืออาจจะรู้แต่ไม่สนใจ 

                เขายังเคยพูดเลยว่า "กูเป็นของกูแบบนี้ อยู่ไม่ได้ก็ออกจากบ้านไป" ดูนะครับสิ่งที่พ่อพูดกับลูกแท้ๆของตัวเอง มีวิธีปรับเข้าหากันถามกันว่าเป็นอะไร ต่างๆนาๆ เขาไม่เคยเข้าหาเลย เวลาทะเลาะหรือพ่อทำผิด แต่ต้องเป็นคนที่ถูกเสมอ ตอนนี้ผม 20 กว่าปีละ ไม่เคยได้ยินคำว่า " ขอโทษ " ที่พูดกับครอบครัวเลยสักคำ มองเราเป็นของตาย จะทำไรทำมันก็ได้ มันไม่ได้ไหนหรอก เรื่องของมัน 5555 สงสัยครับ ผมเก็บกดมาก บ่นเรื่องพ่อเกือบทุกวัน อันบาปมั้ยครับ กลับกันสิ่งที่พ่อทำกับผมมาทั้งชีวิตเขาบาปมั้ยครับ ทั้งการด่าถึงกับร้องไห้หลายต่อหลายรอบ พ่อเขาจะบาปบ้างมั้ย มีแต่ได้ยินว่า ทำพ่อแม่เสียน้ำตา จะบาปมาก ? ปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนี้ ไม่รู้ทำไมตอนนี้อยู่ไกลพ่อแล้วทำให้เรารู้สึกสบายใจ บาปสินะที่คิดแบบนี้ 
                เราก็อาจจะเป็นคนที่เป็นโรคซึมเศร้านะแต่ยังดีที่มีแฟนอยู่ข้างและแม่ เพราะเราคิดบ่อยว่าตายได้ก็ดี ตอนโดนด่าคิดนั้นหัวเสมอเลย เอามืดมาแทงตัวเองตายเลยดีมั้ย หรือ กระโดดตึก 55555 คิดไปต่างๆนาๆ แต่หน้าแม่กับแฟนก็ลอยมา และที่สำคัญออกจากไม่ออกจากบ้านไปเพราะสงสารแม่ 

อยากให้ใครก็ได้ที่พ่อนับถือ หรือบอกพ่อได้ว่า การทำบุญที่ดีที่สุดคือกับทำบุญกับครอบครัว ทำบุญร้อยวัน หลายวัด ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมากหรอก 
ไม่ปรับเข้าหาใครเลย เรา ต้องปรับเข้าหา 100% เลย อย่างที่เขาพูดว่า ครอบครัวไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยที่สุด 

ท้ายที่สุด เรื่องราวของแต่ละคนไม่เหมือนกันทุกคน แต่ก็จะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองเจอน่ะหนักสุดๆหนักมากๆ แต่ก็มีคนที่หนักว่าเราคิด ผมก็เช่นกัน อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนๆนั้นไปเลยก็ได้ ปัญหาครอบครัวมีทุกที 

ขอบคุณที่อ่านนะครับ กระทู้นี้เป็นการบ่นเรื่องชีวิตสะมากกว่า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่