สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้งกับการเล่าประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว ครั้งนี้เป็นการท่องเที่ยวเเบบ adventure ค่ะ ซึ่งเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก ภูกระดึง การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต ห่างจากครั้งแรกประมาณ 9 ปี การเดินทางครั้งนี้ ได้เดินทางไปเที่ยวในช่วง พ.ย 2563 สมาชิกทั้งหมด 4 คนตอนนั้น นทท ยังไม่เยอะ เพราะว่าการท่องเที่ยวติดโควิดเป็นปีแรก ปีนี้เห็นนักท่องเที่ยวออกเดินทางขึ้นภูกันเยอะแยะ เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางกันหน่อยค่ะ 

           สิ่งที่ต้องเตรียมไปด้วย ร่างกายที่เเข็งแรง จิตใจที่เข้มแข็ง รองเท้าผ้าใบแบบเดินป่าได้ ยารักษาโรค power bank และอื่นๆที่จำเป็น ย้ำเอาไปเท่าที่จำเป็นเท่านั้นค่ะ

           ก่อนที่จะเดินขึ้นไปภูกระดึงเราไปพักที่รีสอร์ท บ้านศรีสุนนท์ โฮมสเตย์ อยู่ที่ผานกเค้า ตอนเย็นก็เพิ่มพลังที่ครัวร่มเย็น  พอตอนเช้าทางรีสอร์ทก็มีรถไปส่งที่ทางขึ้นภูกระดึงเลยค่ะ พอไปถึงไม่รอช้า แยกย้ายกันทำหน้าที่ คนนึงไปจองคิวต่อแถวลูกหาบ คนนึงจัดแจงสัมภาระ คนนึงติดต่อจัดการเรื่องที่พักและประกันภัย ซึ่งที่พักได้จองเต้นไว้กับทางอุทยาน เริ่มเดินทางกันได้เลยค่ะ

Day1   การเดินทางกว่าจะไปถึงซำแฮกก็ได้เหงื่ออยู่ค่ะ จะเหนื่อยมากๆ เพราะว่าร่างกายยังไม่ทันได้ปรับตัว แต่พอไปถึงแล้วก็ชื่นใจขึ้นมาหน่อย เพราะได้แตงโมกับน้ำแดง ที่อร่อยที่สุดในโลก ใครที่อยากลองว่าอร่อยแค่ไหนต้องไปกินที่ซำแฮกค่ะ 

พักให้หายเหนื่อยก็เดินทางกันต่อค่ะ ระยะทางอีกยาวไกล เดินไปเรื่อยๆ ถ้าเราเมื่อยเราก็พัก ซึ่งพักทุกซำค่ะ 5555





อาชีพลูกหาบเป็นอาชีพที่น่าทึ่งมากๆค่ะ ถ้าไม่มีความพยายามและอดทนจริงๆ ขึ้นไปไม่ได้นะคะ ขอนับถือจิตใจลูกหาบทุกท่านค่ะ

เดินทางขึ้นภูกระดึงกันตั้งแต่ 07:30 ถึงหลังแป 12:30 รวมทั้งหมด 5 ชั่วโมง เดินชิวๆค่ะ แต่ยังไม่ถึงนะคะ 5555



ถ่ายรูปเสร็จแล้วนั่งพักให้หายเหนื่อย เรายังต้องเดินทางต่อไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอีก 3 กิโลครึ่ง สู้เว้ย เหนื่อยจริ๊ง ระหว่างทางก็ถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ

ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเเล้วไม่รอช้า จัดการเรื่องเต้นท์ เครื่องนอน แล้วก็รอสัมภาระจากลูกหาบ พอได้ของครบแล้ว ก็ต้องขอพักก่อนสักงีบ

เจอกันตอนเย็นเพื่อมากินหมูกะทะบนยอดภูกระดึง อร่อยเวอร์ สำหรับร้านสามารถเลือกได้เลยค่ะ ว่าอยากกินร้านไหน เพราะว่ามีหมูกะทะทุกร้านค่ะ

กินอิ่มนอนหลับ พักผ่อน

Day2  ตื่นเช้ามาเจอกันที่ผานกแอ่นตอนตีห้าค่ะ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันค่ะ เดินไปประมาณ 3 กิโล ค่ะ วันนี้ไม่ค่อยหนาวเยอะค่ะ ไม่มีทะเลหมอกเลยยย

ดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จแล้วได้เวลาเดินทางไกลไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ผาหล่มสัก จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปอีก 9 กิโล ซึ่งระยะทางค่อนข้างไกล เราต้องพกเสบียงไปกินระหว่างทางด้วยเพราะว่าเราจะเดินทางไปโดยเส้นทางสายน้ำตก


 เจอเมเปิ้ลสีแดงอยู่ต้นเดียว ถือว่าไม่เสียเที่ยว เดินทางกันต่อไปยังผาเหยียบเมฆ


เดินไปเรื่อยๆจนถึงผาหล่มสัก ดีใจมากไปถึงมีที่นั่งพักทานข้าว น้ำ กาแฟ ของกินเพียบๆๆๆ ( เมื่อก่อนมีอยู่ร้านเดียว) รอเวลาพระอาทิตย์ตกดิน พระเอกของงานมากี่ครั้งก็ยังสวยเหมือนเดิม

พระอาทิตย์ลูกส้มๆ ถึงเวลาที่มันต้องไป ไปเร็วมากๆ มีเวลาถ่ายรูปกันไม่ถึง 2 นาที ถือว่าคุ้มค่าที่เดินทางมาถึงที่นี่
ถึงเวลาต้องเดินทางกลับเต้นท์แล้ว ระยะทางไกลมาก ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงที่พัก ได้เวลาพักผ่อนแล้ว เดียวเจอกันพรุงนี้เช้าค่ะ

Day3     ได้เวลากลับบ้านเเล้ว เดินทางไกลอีกเช่นเคย ตื่นตีห้าค่ะ มาจองคิวลูกหาบก่อนเลย แล้วค่อยไปหาข้าวเช้ากิน กินเสร็จเรียบร้อยเดินทางกลับกันได้ค่ะ ลาแล้วภูกระดึง ถ้ามีโอกาสและสังขารยังพอมาได้ คงได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่ 3


ลงมาถึงข้างล่างภูกระดึงใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเอ้ง 555

ขอบคุณเพื่อนร่วมทริป และธรรมชาติบนนั้น ที่รังสรรค์สิ่งสวยงามต่างๆ ให้เราได้ขึ้นไปสัมผัส
ขอบคุณมากที่สุดคือลูกหาบ ที่สุดของที่สุด 

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วยค่ะ ^ ^