ผู้ที่ตั้งความปรารถนานิพพาน ต้องเจอกับบททดสอบระดับจิตใจที่มากกว่าคนอื่นจริงหรือไม่

ผู้ที่ตั้งความปรารถนานิพพาน หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด

มักจะต้องเผชิญกับบททดสอบระดับจิตใจ เช่น สิ่งต่างๆที่เข้ามากระทบกับจิตใจ

ที่มากกว่าคนที่ยังยึดติดกับโลก ยังยึดติดกับสิ่งสวยงามในโลก

( หรือ ที่เรียกว่ายังเป็นปุถุชนนั่นแหละ ) จะจริงหรือเท็จประการใดคะ

ใครมีประสบการณ์ หรือ ความคิดเห็นเช่นไร แขร์กันมาได้เลยเจ้าค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ขออนุญาตเสนอความเห็นนะครับ

ผมภูมิธรรมยังไม่ถึง แต่อยากเสนอความเห็นได้ไหมครับ

คนทั่วไปอย่างเราๆ ท่านๆ ที่ใช้ชีวิตตามกระแสโลก ตามสัญชาตญาณ
   หิวเราก็ทาน อร่อยก็กลับมาทานซ้ำ ไม่อร่อยก็ทานร้านอื่นในครั้งหน้า
   เห็นสินค้าออกใหม่ ก็อยากมีอยากได้

แต่สำหรับผู้ที่ต้องการหลุดจากการเวียนว่ายตายเกิด
   ต้องเดินทวนกระแสโลก ฝึกสติให้มีกำลังพอที่จะประพฤติขัดแย้งกับสัญชาตญาณ
   หิวเราก็ทาน อร่อยหรือไม่อร่อย ก็วางใจกลางๆ ไม่ให้ติดในรสชาติ
   เห็นสินค้าออกใหม่ ก็ดูประโยชน์ใช้สอย จำเป็นก็ซื้อ ไม่จำเป็นก็ไม่ซื้อ

ผู้ที่ต้องการหลุดพ้น มองทุกอย่างเป็นการทดสอบจิตใจ
   พยายามลด ละ และปล่อยวาง กิเลสต่างๆ

ส่วนคนทั่วไปเราๆ ท่านๆ มองว่า ทุกอย่างเป็นธรรมดา ธรรมชาติของการใช้ชีวิต
   ทำให้ เรามักไม่ทันสังเกต
   เพราะคนอื่นๆ คนรอบข้าง ก็เป็นเหมือนเรา ใช้ชีวิตเหมือนเรา
   ซึ่งก็เป็นปกติ ไม่แปลกอะไร ดำเนินชีวิตกันไป
   ได้ดี ก็ดีใจ ไม่ดี ก็เสียใจ

สรุป คือ ธรรมชาติของชีวิต ก็เป็นแบบนี้
             เพียงแต่ คนที่ต้องการหลุดพ้น จะเห็นว่าการเดินตามสัญชาตญาณ ทำให้เรายังเวียนว่ายตายเกิด
             ฝึกสติให้เห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง เห็นแล้วเข้าใจธรรมชาติของชีวิต เห็นแล้วปล่อยวาง

             มีข้อยกเว้น เช่น หากในอดีต เคยทำกรรมไว้เยอะ
             หากเจ้ากรรมนายเวรท่านจะมาทำให้เกิดวิบากมากกว่าปกติ ก็อาจจะเจอบททดสอบมากกว่าปกติ

อ่านผ่านๆก็พอนะครับ อย่าถือเป็นจริงเป็นจัง
หากผมเข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อนประการใด ก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่