ชาว BLINK ที่ชอบ.ลิซ่า เตรียม เฮ! ลิซ่า.BLACK PINK มาแน่ มาพร้อมกับ แอนเดรีย โบเซลลี // ใครไม่มา ลิซ่า.มา
.
.
16 ตุลาคม 2564 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงความชัดเจนกรณีที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ติดต่อ ลิซ่า แบล็กพิงก์ หรือ ลลิษา มโนบาล ศิลปินเคป็อปชื่อดังระดับโลกชาวไทย
.
ที่กินเนสส์บุ๊กประกาศสถิติใหม่อย่างเป็นทางการ ว่า ลิซ่า BLACKPINK ทำสถิติใหม่ เป็นศิลปินหญิงเดี่ยวที่มียอดคนดูในยูทูปภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงสูงสุด จากเพลงซิงเกิล Lalisa ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 จำนวนการดูที่สูงถึง 73.6 ล้านครั้ง รวมถึงการติดต่อ แอนเดรีย โบเซลลี นักร้องโอเปร่าชื่อดังของโลกที่พิการทางสายตา มาร่วมกิจกรรมเคาต์ดาวน์ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 ที่จังหวัดภูเก็ต
.
โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า..
.ได้รับคำยืนยันจากเอเจนซี่ที่ติดต่อนักร้องชื่อดังทั้งสองคนว่าทั้งสองคนจะมาร่วมงานเคาต์ดาวน์ที่ประเทศไทยแน่นอน.. โดยเฉพาะลิซ่า BLACKPINK ที่ยืนยันว่าจะมาเปิดการแสดงที่ภูเก็ต การติดต่อดังกล่าว เป็นการให้เอเจนซี่เป็นผู้ประสาน ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ไม่ได้เป็นผู้ประสานเอง
.
.

.
“แน่นอนครับ ขณะนี้ยังไม่ได้ถูกปฏิเสธ เพราะเท่าที่ติดต่อตั้งแต่เมื่อ 14 ตุลาคมจนถึงวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม ยังยืนยันอยู่ว่าเขามาชัวร์ โดยลิซ่าจะมาลงที่ภูเก็ต โดยอาจจะมาลงคู่กันกับ แอนเดรีย โบเซลลี แต่ผมกำลังบอกไปว่า ขอให้แยกทั้งสองคนให้ไปจัดคนละสถานที่ เพราะอย่างที่เคยบอกคือต้องการให้ แอนเดรีย โบเซลลี ไปเปิดการแสดงที่ท้องสนามหลวง โดยมีฉากหลัง คือ วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะอลังการ แล้วเราทำแสง สี เสียงให้สวยงาม เพราะกรุงเทพมหานครตอนนั้นเปิดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมแล้ว
.
เมื่อถามว่าในส่วนของแอนเดรีย โบเชลลี ก็คอนเฟริม์จะมาด้วยเช่นกันใช่หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา..กล่าวว่า ถ้ามา เขาจะมาคู่กับลิซ่า BLACKPINK แต่ถ้าไม่มา ก็คือไม่มาเลย เขาแพ็คกัน อันนี้คือเอเจนซี่แจ้งมา..
.
“เอเจนซี่แจ้งมาล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ตุลาคม 2564..ว่าโอเค เขามา และมาแบบแพ็คคู่ ผมก็กำลังขอเจรจาว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะแยกสถานที่ ให้ไปจัดกันคนละสถานที่ แต่ไม่แน่ใจว่าทางเอเจนซี่เขาจะยอมหรือไม่ เพราะทั้งสองคนกลุ่มผู้ฟังจะเป็นคนละกลุ่มกัน และถ้าทุกอย่างไปกระจุกอยู่ที่ภูเก็ตหมด เกรงว่าภูเก็ตเอง จะรับไม่ไหว อยากให้แชร์ไปที่จังหวัดอื่นบ้าง”
.
เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์เรื่องงบประมาณค่าใช้จ่ายในการจ้างทั้งสองคนมาแสดงคอนเสิร์ตเคาต์ดาวน์ที่เป็นเงินหลายร้อยล้านบาท ขั้นต่ำอาจต้องใช้อย่างน้อย 200 ล้านบาท
.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตนเองอาจคิดไม่เหมือนคนอื่น วิธีคิดคือ ตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นเพียงตัวเลขหนึ่ง แต่ถ้าเป็นตัวเลขเชิงนโยบาย เชิงความเชื่อถือ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งประเมินค่าไม่ได้ นักร้อง ลิซ่า BLACKPINK เขาเป็นเยาวชน เป็นไอดอลของเยาวชน เมื่อเขาเปิดการแสดงแล้วเขาพูดสักคำว่า เยาวชนคนไทย เรามีดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว พยายามหาจุดลงตัวที่สุดของตัวเองแล้วเอามาใช้ โดยสำคัญที่สุดขอให้ “ลด-ละ-เลิก ยาเสพติด”
.
ถ้าตรงนั้น ถามว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจ ถ้าเราจะจ้างเขามาสัก 100-200 ล้านบาท มูลค่า 100-200 ล้านบาท สำหรับเยาวชนเรา ที่จะไม่เสพยาเสพติด มันประเมินค่าไม่ได้เลย
.
ส่วน แอนเดรีย โบเซลลี ที่เป็นศิลปินที่พิการทางสายตา ก็อยากจะนำเขามาเป็นต้นแบบ ให้กับคนที่ด้อยโอกาสทางสังคม ก็จะบอก-ประกาศให้คนทั้งประเทศไทยรู้ว่า นักร้องระดับโลก แม้เขาจะพิการทางสายตา แต่เขายังสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองดังระดับโลกได้ขนาดนี้ เพราะฉะนั้นคนไทยที่มีปัญหาเรื่องของสุขภาพ เรื่องทางร่างกาย ทำไมพวกเราไม่เอาแรงบันดาลใจตรงนั้นมาสร้างความฮึกเหิมแล้วทำให้ได้อย่างเขา
.
“การที่คุณจะจ่ายเงินไป หนึ่งร้อยล้านหรือสองร้อยล้านบาท แต่ถ้าคุณสามารถสร้างแรงบันดาลใจ และฉุดให้คนที่อยู่ในอาการซึมเศร้าเพราะว่าเขาเกิดมาไม่เหมือนคนอื่น เขาเกิดมาอวัยวะไม่ครบ 32 ถ้าเราสามารถสร้างและฉุดกระชากตรงนี้ออกมาได้ เราอาจเจอไข่มุกแบบลิซ่าอีกก็ได้
.
ซึ่งเราก็เห็นอยู่ตามถนนหนทาง ตามร้านอาหาร ว่านักร้องที่สายตาพิการเดินร้องเพลงแล้วก็มีคนหยอดเงินให้กับเขา ซึ่งบางคนร้องเพลงดีมากๆ ทำไมเราไม่จุดประกายให้กับคนเหล่านี้ได้ต่อสู้ ให้ลุกขึ้นมาสู้ และออกมาสร้างชื่อเสียง
.
โดยให้เอเจนซี่หรือบริษัทต่างๆ ดันเขาให้ถึงจุดสุดยอดให้ได้ แล้วเราอาจได้อะไรดีๆจากพวกเขาก็ได้ สิ่งเหล่านี้ต่างหากคือสิ่งที่มีมูลค่า ซึ่งประเมินค่าไม่ได้
.
“ผมไม่สนว่าผมจะจ่ายเงินสองคนรวมกันแล้วสักร้อย สองร้อย สามร้อยล้านก็แล้วแต่ มีสื่อถามผมว่า จ่ายไปมันจะคุ้มค่าทางเศรษฐกิจหรือไม่ ผมบอก คุ้มหรือไม่คุ้ม ผมไม่ได้สนใจ แต่ผมคิดว่ามันเป็นความคุ้มค่าทางจิตใจสำหรับคนสายตาพิการและในการปลุกกระแสเยาวชน ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ที่ผ่านมา เราใช้งบประมาณไปกับการแก้ปัญหายาเสพติดไปปีละเท่าไหร่ และที่ผ่านมาแต่ละปี ยาเสพติดที่ลักลอบเข้ามาขายในประเทศไทยและกอบโกยเงินไปจากประเทศไทยปีละเป็นหมื่นๆล้านบาท เงินร้อยสองร้อยล้านบาท อย่าไปสนใจมันเลย
.
ถ้าเราสามารถนำเขามาเป็นต้นแบบ แล้วทำให้เยาวชนเราลด -ละ -เลิกเรื่องยาเสพติดได้ นี้คือวิธีคิดของผม ผมไม่สนว่าใครจะคอมเมนต์อย่างไร ให้ผมไปเปิดเวทีแถลงข่าวเรื่องนี้ ผมก็จะพูดแบบที่ให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ว่าสิ่งที่ผมคิดคือแบบนี้
.
ผมกล้าลงทุนเพราะแบบนี้ ทำไมละ เรามีโอกาสแล้ว เยาวชนของเราดังระดับโลกแบบนี้ แต่คนจะดรามายังไงก็เรื่องของเขา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าว
.
.
// สรุป ..ลิซ่า BLACKPINK จะมาพร้อมกับ แอนเดรีย โบเซลลี // ลิซ่า BLACKPINK จะมาภูเก็ตแน่นอน คนที่ได้รับผลดี ก็คือ ประชาชนในจังหวัดภูเก็ต กับ คนดูจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะจาก พังงา สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระยอง, 4 จังหวัดติดภูเก็ต มาจังหวัดละ 5 พันคน ก็ 2 หมื่นคน คนก็ทะลักแล้ว ภูเก็ตมีห้องพัก 1 แสนห้อง ตอนนี้ถ้ามาพักแค่ 20% ของจำนวนห้องทั้งหมด หรือ 2 หมื่นห้อง พนักงานโรงแรมก็หัวหมุ่นแล้ว แต่ภูเก็ตก็จะอ่วมๆ กันหน่อยเพราะอยู่ในภาวะที่ไม่พร้อม แฟนคลับลิซ่าที่อยู่ไกลหน่อย เช่น กรุงเทพมหานคร หรือ จังหวัดอื่นๆ ก็ดูถ่ายทอดสด
.
.
// เรื่องความปลอดภัยก็ไม่น่ากังวลเพราะนอกจาก รปภ. ส่วนตัว แล้ว ตำรวจ ทหารเรือ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ระดมกำลังมากันหมด
.
// 200 ล้านบาท คุ้มไหม งานนี้น่าจะคุ้มเพราะ (1) สปอนเซอร์เอกชน.เข้าหาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหมด เอกชนบางเจ้าก็จะดีใจหน่อยๆ ที่ ลิซ่าตัวจริงมา เช่น AIS, เดนทิสเต้, ธนาคารกสิกรไทย หรือเอกชนที่มี ลิซ่า เป็น พรีเซ็นเตอร์ ก็เข้าหาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหมด หรือ เอกชนจะที่คิดว่าอยากให้ลิซ่ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็สามารถใช้โอกาสนี้ติดต่อได้
.
(2) ภูเก็ต จะได้เริ่มฟื้นตัว
.
(3) เป็นแรงบันดาลใจกับเสริมสร้างพลังใจ
.
งานนี้ ใครไม่มา แต่ลิซ่ามา
.
.
.
.
.
.
.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(3) งานนี้ไม่ใช่ว่าคนไทยไม่มีเงินซะเลย บางคนขอแต่ถูกใจ เปย์ไม่อั้น ดังที่ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายท่านหนึ่ง.. ได้ให้ความเห็นก่อนมีข่าวลิซ่าว่า..ในทางเศรษฐกิจสิ่งแรกที่ผมคิดคือจะเชิญน้อง Lalisa มาโปรโมทประเทศ ถ้าคนชอบขายได้หมดทุกอย่าง ไทยมีดีขายให้เป็น
ชาว BLINK ที่ชอบ.ลิซ่า เตรียม เฮ! ลิซ่า.BLACK PINK มาแน่ มาพร้อมกับ แอนเดรีย โบเซลลี // ใครไม่มา ลิซ่า.มา
.
ที่กินเนสส์บุ๊กประกาศสถิติใหม่อย่างเป็นทางการ ว่า ลิซ่า BLACKPINK ทำสถิติใหม่ เป็นศิลปินหญิงเดี่ยวที่มียอดคนดูในยูทูปภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงสูงสุด จากเพลงซิงเกิล Lalisa ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 จำนวนการดูที่สูงถึง 73.6 ล้านครั้ง รวมถึงการติดต่อ แอนเดรีย โบเซลลี นักร้องโอเปร่าชื่อดังของโลกที่พิการทางสายตา มาร่วมกิจกรรมเคาต์ดาวน์ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 ที่จังหวัดภูเก็ต
.
โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า...ได้รับคำยืนยันจากเอเจนซี่ที่ติดต่อนักร้องชื่อดังทั้งสองคนว่าทั้งสองคนจะมาร่วมงานเคาต์ดาวน์ที่ประเทศไทยแน่นอน.. โดยเฉพาะลิซ่า BLACKPINK ที่ยืนยันว่าจะมาเปิดการแสดงที่ภูเก็ต การติดต่อดังกล่าว เป็นการให้เอเจนซี่เป็นผู้ประสาน ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ไม่ได้เป็นผู้ประสานเอง
.
“แน่นอนครับ ขณะนี้ยังไม่ได้ถูกปฏิเสธ เพราะเท่าที่ติดต่อตั้งแต่เมื่อ 14 ตุลาคมจนถึงวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม ยังยืนยันอยู่ว่าเขามาชัวร์ โดยลิซ่าจะมาลงที่ภูเก็ต โดยอาจจะมาลงคู่กันกับ แอนเดรีย โบเซลลี แต่ผมกำลังบอกไปว่า ขอให้แยกทั้งสองคนให้ไปจัดคนละสถานที่ เพราะอย่างที่เคยบอกคือต้องการให้ แอนเดรีย โบเซลลี ไปเปิดการแสดงที่ท้องสนามหลวง โดยมีฉากหลัง คือ วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะอลังการ แล้วเราทำแสง สี เสียงให้สวยงาม เพราะกรุงเทพมหานครตอนนั้นเปิดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมแล้ว
.
เมื่อถามว่าในส่วนของแอนเดรีย โบเชลลี ก็คอนเฟริม์จะมาด้วยเช่นกันใช่หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา..กล่าวว่า ถ้ามา เขาจะมาคู่กับลิซ่า BLACKPINK แต่ถ้าไม่มา ก็คือไม่มาเลย เขาแพ็คกัน อันนี้คือเอเจนซี่แจ้งมา..
.
“เอเจนซี่แจ้งมาล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ตุลาคม 2564..ว่าโอเค เขามา และมาแบบแพ็คคู่ ผมก็กำลังขอเจรจาว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะแยกสถานที่ ให้ไปจัดกันคนละสถานที่ แต่ไม่แน่ใจว่าทางเอเจนซี่เขาจะยอมหรือไม่ เพราะทั้งสองคนกลุ่มผู้ฟังจะเป็นคนละกลุ่มกัน และถ้าทุกอย่างไปกระจุกอยู่ที่ภูเก็ตหมด เกรงว่าภูเก็ตเอง จะรับไม่ไหว อยากให้แชร์ไปที่จังหวัดอื่นบ้าง”
.
เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์เรื่องงบประมาณค่าใช้จ่ายในการจ้างทั้งสองคนมาแสดงคอนเสิร์ตเคาต์ดาวน์ที่เป็นเงินหลายร้อยล้านบาท ขั้นต่ำอาจต้องใช้อย่างน้อย 200 ล้านบาท
.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตนเองอาจคิดไม่เหมือนคนอื่น วิธีคิดคือ ตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นเพียงตัวเลขหนึ่ง แต่ถ้าเป็นตัวเลขเชิงนโยบาย เชิงความเชื่อถือ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งประเมินค่าไม่ได้ นักร้อง ลิซ่า BLACKPINK เขาเป็นเยาวชน เป็นไอดอลของเยาวชน เมื่อเขาเปิดการแสดงแล้วเขาพูดสักคำว่า เยาวชนคนไทย เรามีดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว พยายามหาจุดลงตัวที่สุดของตัวเองแล้วเอามาใช้ โดยสำคัญที่สุดขอให้ “ลด-ละ-เลิก ยาเสพติด”
.
ถ้าตรงนั้น ถามว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจ ถ้าเราจะจ้างเขามาสัก 100-200 ล้านบาท มูลค่า 100-200 ล้านบาท สำหรับเยาวชนเรา ที่จะไม่เสพยาเสพติด มันประเมินค่าไม่ได้เลย
.
ส่วน แอนเดรีย โบเซลลี ที่เป็นศิลปินที่พิการทางสายตา ก็อยากจะนำเขามาเป็นต้นแบบ ให้กับคนที่ด้อยโอกาสทางสังคม ก็จะบอก-ประกาศให้คนทั้งประเทศไทยรู้ว่า นักร้องระดับโลก แม้เขาจะพิการทางสายตา แต่เขายังสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองดังระดับโลกได้ขนาดนี้ เพราะฉะนั้นคนไทยที่มีปัญหาเรื่องของสุขภาพ เรื่องทางร่างกาย ทำไมพวกเราไม่เอาแรงบันดาลใจตรงนั้นมาสร้างความฮึกเหิมแล้วทำให้ได้อย่างเขา
.
“การที่คุณจะจ่ายเงินไป หนึ่งร้อยล้านหรือสองร้อยล้านบาท แต่ถ้าคุณสามารถสร้างแรงบันดาลใจ และฉุดให้คนที่อยู่ในอาการซึมเศร้าเพราะว่าเขาเกิดมาไม่เหมือนคนอื่น เขาเกิดมาอวัยวะไม่ครบ 32 ถ้าเราสามารถสร้างและฉุดกระชากตรงนี้ออกมาได้ เราอาจเจอไข่มุกแบบลิซ่าอีกก็ได้
.
ซึ่งเราก็เห็นอยู่ตามถนนหนทาง ตามร้านอาหาร ว่านักร้องที่สายตาพิการเดินร้องเพลงแล้วก็มีคนหยอดเงินให้กับเขา ซึ่งบางคนร้องเพลงดีมากๆ ทำไมเราไม่จุดประกายให้กับคนเหล่านี้ได้ต่อสู้ ให้ลุกขึ้นมาสู้ และออกมาสร้างชื่อเสียง
.
โดยให้เอเจนซี่หรือบริษัทต่างๆ ดันเขาให้ถึงจุดสุดยอดให้ได้ แล้วเราอาจได้อะไรดีๆจากพวกเขาก็ได้ สิ่งเหล่านี้ต่างหากคือสิ่งที่มีมูลค่า ซึ่งประเมินค่าไม่ได้
.
“ผมไม่สนว่าผมจะจ่ายเงินสองคนรวมกันแล้วสักร้อย สองร้อย สามร้อยล้านก็แล้วแต่ มีสื่อถามผมว่า จ่ายไปมันจะคุ้มค่าทางเศรษฐกิจหรือไม่ ผมบอก คุ้มหรือไม่คุ้ม ผมไม่ได้สนใจ แต่ผมคิดว่ามันเป็นความคุ้มค่าทางจิตใจสำหรับคนสายตาพิการและในการปลุกกระแสเยาวชน ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ที่ผ่านมา เราใช้งบประมาณไปกับการแก้ปัญหายาเสพติดไปปีละเท่าไหร่ และที่ผ่านมาแต่ละปี ยาเสพติดที่ลักลอบเข้ามาขายในประเทศไทยและกอบโกยเงินไปจากประเทศไทยปีละเป็นหมื่นๆล้านบาท เงินร้อยสองร้อยล้านบาท อย่าไปสนใจมันเลย
.
ถ้าเราสามารถนำเขามาเป็นต้นแบบ แล้วทำให้เยาวชนเราลด -ละ -เลิกเรื่องยาเสพติดได้ นี้คือวิธีคิดของผม ผมไม่สนว่าใครจะคอมเมนต์อย่างไร ให้ผมไปเปิดเวทีแถลงข่าวเรื่องนี้ ผมก็จะพูดแบบที่ให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ว่าสิ่งที่ผมคิดคือแบบนี้
.
ผมกล้าลงทุนเพราะแบบนี้ ทำไมละ เรามีโอกาสแล้ว เยาวชนของเราดังระดับโลกแบบนี้ แต่คนจะดรามายังไงก็เรื่องของเขา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าว
.
.
// สรุป ..ลิซ่า BLACKPINK จะมาพร้อมกับ แอนเดรีย โบเซลลี // ลิซ่า BLACKPINK จะมาภูเก็ตแน่นอน คนที่ได้รับผลดี ก็คือ ประชาชนในจังหวัดภูเก็ต กับ คนดูจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะจาก พังงา สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระยอง, 4 จังหวัดติดภูเก็ต มาจังหวัดละ 5 พันคน ก็ 2 หมื่นคน คนก็ทะลักแล้ว ภูเก็ตมีห้องพัก 1 แสนห้อง ตอนนี้ถ้ามาพักแค่ 20% ของจำนวนห้องทั้งหมด หรือ 2 หมื่นห้อง พนักงานโรงแรมก็หัวหมุ่นแล้ว แต่ภูเก็ตก็จะอ่วมๆ กันหน่อยเพราะอยู่ในภาวะที่ไม่พร้อม แฟนคลับลิซ่าที่อยู่ไกลหน่อย เช่น กรุงเทพมหานคร หรือ จังหวัดอื่นๆ ก็ดูถ่ายทอดสด
.
// เรื่องความปลอดภัยก็ไม่น่ากังวลเพราะนอกจาก รปภ. ส่วนตัว แล้ว ตำรวจ ทหารเรือ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ระดมกำลังมากันหมด
.
// 200 ล้านบาท คุ้มไหม งานนี้น่าจะคุ้มเพราะ (1) สปอนเซอร์เอกชน.เข้าหาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหมด เอกชนบางเจ้าก็จะดีใจหน่อยๆ ที่ ลิซ่าตัวจริงมา เช่น AIS, เดนทิสเต้, ธนาคารกสิกรไทย หรือเอกชนที่มี ลิซ่า เป็น พรีเซ็นเตอร์ ก็เข้าหาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหมด หรือ เอกชนจะที่คิดว่าอยากให้ลิซ่ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็สามารถใช้โอกาสนี้ติดต่อได้
.
(2) ภูเก็ต จะได้เริ่มฟื้นตัว
.
(3) เป็นแรงบันดาลใจกับเสริมสร้างพลังใจ
.
.
.
.
.
.
.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้