JJNY : สภาเดินหน้าถกแก้รธน.│หมอสุภัทรเผยความในใจหลังพ่ายศึกATK│จ่าพิชิตอธิบายชัดตาบอด│สภาพัฒน์ชี้ไตรมาส2ว่างงานพุ่ง

สภาเดินหน้าถกแก้รธน.วาระ 2 เลิศรัตน์ ฟันธงมีคนร้องศาลรัฐธรรมนูญแน่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6582673
  

  
รัฐสภาเดินหน้าถกแก้รธน.ฉบับกมธ.ปรับปรุงใหม่ เลิศรัตน์ เชื่อมีคนร้องศาลรัฐธรรมนูญแน่ ภท.ลอยตัว ยันไม่ได้ร่วมแแก้ไขร่างใหม่
 
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 25 ส.ค. 2564 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อจากที่ค้างไว้เมื่อวันที่ 24 ส.ค. โดยเป็นวาระที่ประชุมต้องลงมติอนุญาตการแก้ไขเพิ่มเติมของคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ซึ่งมีการทบทวนเนื้อหาที่ยื่นไว้แล้ว
 
ก่อนลงมติ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ. พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่…) พ.ศ… (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง) รัฐสภา ชี้แจงรายงานของกมธ.ที่มีการแก้ไขใหม่ว่า มีการปรับปรุงและแก้ไขโดยเพิ่มเติมเพียงมาตรา 86 ที่ตามบทบัญญัติเดิมเขียนจำนวนส.ส.ไว้ 350 เขต ในมาตรา 86 เขียนไว้ใน 3 จุด ทางกมธ.เห็นว่า มีคำขอแปรญัตติมาให้จัด 350 เขต เป็น 400 เขต กมธ.จึงแก้ไขมาตรานี้
 
ส่วนมาตราอื่นที่ปรากฎตามเอกสารเดิม และเพิ่มบทเฉพาะกาล ไม่นำบทตามรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาใช้บังคับการเลือกตั้งซ่อม เว้นแต่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป
 
ทั้งนี้ นายชวน ได้ถามที่ประชุมว่า สมาชิกจะขัดข้องหรือไม่ที่ประธานกมธ. จะขออนุญาตนำรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อเข้าพิจารณา
 
พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. อภิปรายว่า การที่กมธ.มีมติอย่างฉุกละหุก เพื่อขอแก้ไขร่างซึ่งตัดไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง เพื่อเสนอให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณา ตนไม่แน่ใจว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกต้องหรือไม่ อาจจะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน
 
การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีคนยื่นศาลแน่นอน จาก 2 มาตราเพื่อนำมาบังคับใช้กับรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เปลี่ยนแปลงจำนวนและวิธีการได้มาซึ่งส.ส. ท่านจะโดนกับดักของกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก ดังนั้น การแก้ไขของกมธ. ควรพิจารณาในที่ประชุม ไม่ใช่ใช้มติกมธ.แก้ไขเปลี่ยนแปลง แล้วให้ที่ประชุมรัฐสภาอนุญาต ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา
 
ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับการบังคับใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 37 เนื่องจากข้อ 37 ต้องเป็นกรณีการถอนญัตติหรือระเบียบการประชุมวาระนี้ออกไปก่อน อีกทั้งในรายงานพบว่า กรณีของผู้แปรญัตติยังมีข้อความที่ผิดอยู่ ฉะนั้น ถ้าจะอ้างการดำเนินการในวันนี้ต่อไป เป็นไปได้หรือไม่ที่จะใช้ข้อบังคับการประชุม ข้อ 37 ซึ่งไม่ใช่การยอมรับหรือเดินหน้า แต่ถอนญัตติแล้วนำกลับไปแก้ไขให้สมบูรณ์ เพื่อป้องกันการมีปัญหาระยะยาวสำหรับสมาชิกทุกคน
 
ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ชี้แจงว่า ตนพร้อมด้วยส.ส.ซึ่งทำหน้าที่อยู่ในกมธ. ไม่ได้เข้าประชุมเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งเรียกประชุมด่วน เนื่องจากเห็นว่าการประชุมไม่ได้ดำเนินการชอบด้วยข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ดังนั้น ขอให้บันทึกว่าถูกหรือผิด แต่พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมด้วย
 
จากนั้นนายชวน ชี้แจงยืนยันว่า เมื่อกมธ.แก้ไขเปลี่ยนแปลง ต้องขออนุญาตการแก้ไขจากที่ประชุมรัฐสภา ข้อ 37 จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ ผลปรากฎว่า เสียงข้างมาก 357 เสียงเห็นด้วยให้กมธ.แก้ไข ไม่เห็นด้วย 42 เสียง งดออกเสียง 86 เสียง ก่อนเข้าสู่การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่..) พ.ศ…. ในวาระที่ 2
 

 
หมอสุภัทร เผยความในใจ หลังพ่ายศึก ATK ฟาดประมูลซื้อ 8.5 ล้านชิ้น แต่แพงกว่าเมืองนอกเท่าตัว
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6582414

หมอสุภัทร เผยความในใจ หลังพ่ายศึก ATK ถามมีที่ไหนในโลก ประมูลซื้อของ 8.5 ล้านชิ้น แพงกว่าขายที่เมืองนอกเป็นเท่าตัว ฟาดระบบราชการ
 
วันที่ 25 ส.ค.64 นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ความว่า 
 
ความในใจของผม…หลังพ่ายศึก ATK
 
ค่ำคืนนี้ (24 สิงหาคม 2564) เป็นวันที่ผมได้พักมากกว่าทุกวันตั้งแต่ 2 สิงหาคม 2564 ที่ผมขึ้นกรุงเทพเข้าร่วมปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกกรุงแล้วก็ตามมาด้วยศึก ATK จนวันนี้ นายกฯประยุทธ์กลับลำ พลิกมติ ครม.ให้จัดซื้อจัดจ้างได้โดยไม่ต้องใช้มาตรฐานองค์การอนามัยโลก ยกแรกศึกนี้ก็เหมือนแพทย์ชนบทกำลังพ่ายศึก ATK
 
ศึกครั้งนี้สั้นๆแต่เข้มข้น เริ่ม 10 ถึง 24 สิงหาคม 2564 เป็น 2 สัปดาห์แห่งการเดินเกมส์เพื่อสู้กับอำนาจรัฐ อำนาจรัฐที่ระดมมาทุกองคพยพเพื่อจะปกป้องระเบียบวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐ
 
คือจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบทีไรได้แต่ของถูกราคาแพง เงินภาษีประชาชนไม่ถูกใช้อย่างคุ้มค่า แน่นอนว่าเราสู้ไม่ไหว กับองคาพยพของระบบราชการที่ไม่สนใจสาระ 
 
ความล้มเหลวสำคัญของกรณี ATK 8.5 ล้านชุดครั้งนี้ ง่ายๆสั้นๆคือ ความเดิม สธ.และ สปสช.สนใจการจัดซื้อ ATK คุณภาพสูงให้โรงพยาบาลใช้ตรวจเชิงรุกและเผื่อแจกให้กลุ่มเสี่ยงกลับไปตรวจตนเองและญาติที่บ้านได้ จึงมีการกำหนดราคากลางที่ 120 บาทเพราะหวังจะได้เกรดดีที่มีมาตรฐานองค์การอนามัยโลก
 
แต่พอถึงขั้นตอนการจัดซื้อจริง ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รพ.ราชวิถีและองค์การเภสัชกรรม มีการตัดคำว่ามาตรฐานองค์การอนามัยโลกออกไป คือลดสเป็คโดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้ล็อคสเป็ค แต่กลับไม่ลดราคากลางลงมาด้วย ตอนนั้น สปสช.ก็คงคิดไม่ทัน ผลก็คือเราก็ได้ผู้ชนะการประมูลที่เสนอราคาต่ำสุดที่ 70 บาท เป็นเกรด home use ไม่ใช่ professional use ตามที่เคยตั้งใจไว้
 
ที่สำคัญ มันเป็นเรื่องตลกที่น่าเศร้าสำหรับประเทศไทย ยี่ห้อที่ประมูลได้ขายปลีกในห้างที่อเมริกาชิ้นละ 1 USD ที่ยุโรปขาย 0.85 ยูโร หรือราว 33 บาท ในเวปอาลีบาบาก็ขาย 1 ล้านชิ้นในราคา 1 USD และยังสามารถต่อรองได้
 
แต่เมืองไทยซื้อทีเดียว 8.5 ล้านชิ้นแต่ได้ราคาชิ้นละ 70 บาท ระบบราชการไทยและผู้บริหารของทั้ง ศบค. สธ. สปสช. อย. อภ.สารพัดองค์กรตัวย่อรวมทั้งรัฐบาล ช่างไม่รู้สึกรู้สาเลยหรือกับระบบระเบียบราชการที่กลไกที่ไร้ประสิทธิภาพที่จัดซื้อจัดจ้างทีไรได้แต่ของถูกราคาแพง
 
ผลประโยชน์และการคอรับชั่นใต้โต๊ะมีไหมนั้น ผมไม่รู้ (คิดว่าไม่มี) แต่ความไร้ประสิทธิภาพของกลไกการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐนั้นเด่นชัดมาก ผมจะไม่ออกมาคัดค้านเลย หากการประมูลครั้งนี้องค์การเภสัชกรรมลดสเป็คแล้วให้เป็นเกรด home use มาตรฐาน อย.ไทยแล้ว มีการลดราคากลางลงมาให้สมเหตุสมผลด้วย แต่นี้ลดแต่สเป็คโดยไม่ลดราคากลาง อันนี้ไม่เอื้อเอกชนก็แสดงถึงความไร้สำนึกพื้นฐานในการปกป้องภาษีประชาชน
 
พวกเราแพทย์ชนบททำงานในโรงพยาบาลชุมชน งบน้อยใช้สอยประหยัดจะได้ดูแลผู้ป่วยได้มากคนที่สุด แต่ดูภาพใหญ่ ยิ่งตอกย้ำว่า ประเทศชาติเราคงไปไม่รอด ไปได้ไม่ไกล
  
ส่วนอีกประเด็นที่ผมเรียนรู้นั้น ผมพบว่า ผมยังไม่นิ่งพอกับบรรดาไอโอและนักวิชาการอีกฝ่ายที่ออกมาเป็นชุดเพื่อโจมตีผมและแพทย์ชนบท ผมอยากจะชี้แจงและตอบโต้ แต่โชคดีที่พี่ๆห้ามไว้ บอกว่าให้มั่นคงในการต่อสู้ให้ตรงประเด็นหลัก อย่าไปเสียสมาธิกับคนที่หาเรื่องใส่ความเรา ภูเขาทองสูงตระหง่านสวยงาม จะมีหมามา.......บ้างก็เป็นธรรมดา
 
ศึก ATK แม้ยกแรกแพทย์ชนบทเราจะพ่ายแพ้ แต่ผมและเพื่อนสมาชิกแพทย์ชนบทยังมีกำลังใจดีมาก เพราะภารกิจของเรานั้นไม่ใช่เรื่องแพ้ชนะ
 
ศึก ATK แล้วเลิก แต่เพื่อใช้กรณี ATK สะท้อนให้สังคมเห็นถึงระบบราชการอันเส็งเคร็งที่ต้องการการรื้อใหญ่ นี่ต่างหากที่เป็นภารกิจหลักของเรา
มีที่ไหนในโลกที่ประมูลซื้อของ 8.5 ล้านชิ้น แล้วซื้อได้ในราคาต่อชิ้นที่แพงกว่าซื้อชิ้นเดียวจากห้างในเยอรมันถึง 2 เท่า มีแต่ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรานี่แหละ
 
https://www.facebook.com/supathasuwannakit/posts/1042641406274653
 

 
จ่าพิชิต อธิบายชัด ตาบอด ไม่ต้องควักลูกตาเสมอไป แจงปมใบรับรองแพทย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_2903491
 
จ่าพิชิต อธิบายชัด ตาบอด ไม่ต้องควักลูกตาเสมอไป แจงปมใบรับรองแพทย์
 
จากกรณี “ไฮโซลูกนัท” หรือ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตาขณะเข้าร่วมการชุมนุม “ม็อบทะลุฟ้า”  เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ต้องเข้ารับการรักษาและมีรายงานในเวลาต่อมาว่าอาการรุนแรงถึงขั้นด้านขวาบอด ก่อนที่นายสิระ เจนจาคะ จะออกมาท้าขอดูใบรับรองแพทย์ ระบุหากตาบอดจริงจะให้เงิน 1 ล้านบาท กระทั่ง นายธนัตถ์ นำใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่า “ตาขวาบอด” มาเปิดเผย อย่างไรก็ตามนายสิระยังคงข้องใจใบรับรองแพทย์ดังกล่าว โดยอ้างว่าหากตาบอดจริงแพทย์จะต้องควักลูกตาออกมา และอ้างว่าถามความเห็นจาก แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภามาแล้ว
 
ล่าสุดเฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict ของ “จ่าพิชิต” หรือ นพ.วิทวัส ศิริประชัย ได้โพสต์ข้อความอธิบายเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการควักลูกตา และ ใบรับรองแพทย์เอาไว้ โดยระบุว่า
 
อ้อ ไม่จำเป็นต้องควักลูกตาออกเสมอไปนะครับถ้าตาบอด
คือการผ่าตัดควักลูกตาออก เราเรียกว่า Enucleation
ปรกติจะทำในกรณีที่ 1.มะเร็งในลูกตา 
2. ตาบอดแล้วมีอาการปวดตารุนแรง
3.ลูกตาฝ่อ
4.ลูกตาติดเชื้อและไม่ตอบสนองต่อยาปฎิชีวนะ
บลาๆ
ถ้าเป็นตาบอดที่ไม่ได้มีอาการปวดรุนแรง ก็ไม่ต้องควักลูกตาออกก็ได้นะครับ สนใจอ่านเอกสารข้อบ่งชี้ได้ตามนี้ครับ
https://medinfo.psu.ac.th/smj2/30_2_2012/06_orapan.pdf
 
นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีใบรับรองแพทย์ที่ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวถึงไว้ด้วยว่า
 
เพิ่มเติมประเด็นใบรับรองแพทย์ที่คุณหมอพรทิพย์ให้สัมภาษณ์ คืองี้ครับ ที่ของคุณลูกนัทเอามาให้ดูเนี่ย อันนั้นคือใบรับรองแพทย์ ที่หมอจะลงผลการวินิจฉัย ว่าป่วยเป็นโรคอะไร มารักษาที่ รพ วันไหนถึงวันไหน บลาๆ อะไรทำนองนี้ ซึ่งก็คือ ใบรับรองแพทย์ แบบที่เราขอตามปรกติ และการลงวินิจฉัยว่า Blindness , Right eye นั้นเป็นศัพท์แพทย์ ถูกต้องแล้ว คือเป็นการระบุโรคตามระบบฐานข้อมูล ICD10
 
ส่วนใบที่คุณหมอพรทิพย์พูดถึง ที่ว่าเป็นใบชันสูตรที่จะบันทึกข้อมูลการบาดเจ็บนั่นเพื่อใช้ในกระบวนการยุติธรรม มันเป็นเอกสารอีกใบ คือเอกสารบันทึกข้อมูลทางนิติเวชน่ะครับ อันนั้นถ้าเขาไปแจ้งความตำรวจเพื่อดำเนินคดี เด๋วก็จะมีใบนี้ส่งมาให้คุณหมอที่รักษาเขาลงข้อมูลอีกที ซึ่งแบบนั้นมันก็จะต้องลงบันทึกโดยละเอียด ว่ามีลักษณะแผลที่ไหน ลักษณะแผลเป็นยังไง แผลน่าจะเกิดจากอะไร บลาๆ เพื่อใช้ประกอบในกระบวนการยุติธรรม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เอกสารที่เอามาโชว์ในตอนแรก ก็คือใบรับรองแพทย์ที่หมอลงวินิจฉัยให้ตามภาษาแพทย์ ตามปรกติน่ะครับ ไม่ได้มีอะไรผิดปรกติอะไรเลย
พูดง่ายๆคือ ใบรับรองแพทย์ทั่วไป กับ ใบรับรองความเห็นของแพทย์ที่จะใช้ประกอบข้อมูลทางนิติเวชในกระบวนการยุติธรรม นั่นเอง
 
https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/10160010636518291
https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/10160010433248291
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่