ท้องผูก ทานอาหารเสริมที่เป็น probiotic หรือ fiber ได้ผลกว่ากันคะ

พอดีเราทานยาทางจิตเวชแล้วมีผลทำให้ท้องผูก ถ่ายได้แค่ครั้งละนิดหน่อย และอุจจาระเป็นก้อนแข็ง เจอว่ามีอาหารเสริม มีทั้ง probiotic และ fiber ไม่แน่ใจว่าควรจะทานแบบไหนดี แบบไหนที่ได้ผลดีกว่ากัน และไม่มีผลเสียในระยะยาวคะ ถ้าทานอาหารเสริมพวกนี้ไปนานๆ จะทำให้ลำไส้ไม่ค่อยทำงานได้เองมั้ยคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
คนละอย่างเลย แทนกันไม่ได้ครับ เทียบไม่ได้ด้วย

ไฟเบอร์กินได้ทุกวัน ไม่ได้ทำให้ท้องผูกมากขึ้น และไม่ได้ทำให้ท้องร่วงมากขึ้น คือสมดุลในตัวมันเอง
ความเป็นกาก จะผสานอุจาระ ให้แข็งแต่พอดี
ความเป็นกาก จะปัดกวาด ทำความสะอาดลำไส้ เศษที่ค้างไว้ ให้ขับถ่ายออกมาง่ายขึ้น
แต่ก็เป็นแค่กาก ไม่ได้เป็นยาระบาย ไม่ได้เป็นยากันท้องเสีย เป็นแค่คาร์โบไฮเดรตที่ส่วนมากไม่ผ่านการดูดซึม
หากกระเพาะ ลำไส้ เปรียบดั่งเครื่องซักผ้า ไฟเบอร์ก็เป็นลูกบอล ที่ลงไปช่วยให้ผ้าไม่ติดกัน หมุนได้สะดวกเฉยๆ

โปรไบโอติก เป็นแบตทีเรีย มีชีวิตจริง ยังไม่ตาย กินแล้วช่วยย่อยอาหารที่เรากินได้อีกที อิอิ มหัสจรรย์!
ไม่ได้หมายความว่า กระเพาะ หรือลำไส้ ไม่ต้องทำงาน หรือจะหยุดทำงานนะ ไม่ต้องกลัว
มันจะหยุดทำงาน ก็ต่อเมื่อ เราหยุดหายใจครับ 5555555
หากกระเพาะ ลำไส้ เปรียบดั่งเครื่องซักผ้า โปรไบโอติก ก็เป็นน้ำยาซักผ้าที่เข้มข้น เติมลงไปอีกให้มันสะอาดแรงขึ้น!
การเติมมากไป ผ้าอาจซักแล้วยังลื่นๆ เพราะล้างไม่หมด เปรียบได้กับท้องเสียอะครับ 5555

ศึกษาแยกกันได้เลยครับ ไฟเบอร์จะธรรมชาติกว่า ปลอดภัยสุดๆ ทุกวันเราก็กินอยู่แล้วไม่รู้ตัว มีในคาร์โบไฮเดรตเกือบทุกชนิด
มากน้อยต่างกันในอาหารครับ ส่วนมากอยู่ในผัก การตั้งใจกินไฟเบอร์เพิ่มโดยตรง ไม่ได้มีผลเสีย ระยะยาวกินได้เลยครับ

โปรไพโอติกจะต้องดูเรื่องความสมดุลของระบบย่อยอาหารเรา หากเรากำลังท้องผูกรุนแรงเพราะขาดแบตทีเรียดีในกระเพาะ
การกินเข้าไปก็อาจจะแก้ปัญหาได้ตรงกว่า แก้สมดุลให้ปกติ แต่หากเราปกติอยู่แล้ว เราก็อาจขับถ่ายง่ายขึ้น หรือหากรับมากเกินไปจนเลยจุดสมดุล ก็อาจท้องร่วง ท้องเสีย ท้องอืด ท้องผูก ปวดท้อง คิดว่าเป็นไปได้หมดนะส่วนมากก็คงท้องเสีย

พยายามสังเกตุ อุจาระ ไม่แข็งไป ไม่นิ่มไป สังเกตุท้องไส้ ไม่ปั่นป่วน ไม่ปวดท้อง ตราบใดที่สมดุล ok ก็กินได้เลย บางคนไม่ต้องกินเลย
บางคนต้องกินทุกวัน บางคนกินอาทิตย์ละครั้ง บางคนกินวันเว้นวัน จุดสมดุลแต่ละคนไม่เท่ากันครับ เพราะชนิดอาหารที่ชอบกินแต่ละคนไม่เหมือนกัน แถมพันธุกรรมยังต่างกันด้วย ระยะยาวกินได้ แต่ต้องดูเรื่องสมดุลนี้ครับว่ามันเหมาะกับเรารึป่าว ส่วนมากกินน้อยๆ เอาแต่พอดี จะ work สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่