สวัสดีครับ วันก่อนคุณก้อง(ในฐานะคนไข้) มาเล่าเรื่องประสบการณ์ติดเชื้อ โควิด-19 แบบไม่รู้ตัวไปแล้ว วันนี้ผม(ในฐานะหมอ)เลยมาเล่าประสบการณ์การรักษา โควิด-19 ให้ฟังบ้าง
ผู้ป่วยเป็นหญิง อายุ 43 ปี อาชีพเจ้าของร้านค้า มาพบผมโดยการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลรัฐบาลเมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยอาการไข้ ปวดศรีษะ มาก่อน 1วัน ประกอบกับมีพนักงานในร้านตรวจพบว่าเป็นโควิด-19 และยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด จึงได้รับการตรวจ RT-PCR พบว่าเป็นโควิท-19 ค่าอยู่ที 16 copy (เป็นโรคเมื่อ ค่าต่ำกว่า 35 ลงมา) ผู้ป่วยแสดงความจำนงค์จะมารักษาโรงพยาบาลเอกชน จึงถูกส่งตัวมา
วันแรกที่มาถึง มีไข้ ปวดศรีษะ ไม่ไอ ไม่มีน้มูก ไม่มีอาการเหนื่อย ผลการตรวจ CBC พบว่ามีเพียงเม็ดเลือดขาวต่ำ(3500) ซึ่งเป็นลักษณะที่พบในการติดเชื้อไวรัสทั่วๆไป x-ray ปอดจากโรงพยาบาลรัฐบาลปกติ ผลการตรวจเกลือแร่ ค่าไต และตับปกติ ค่าออกซิเจนปลายนิ้วอยู่ที่ 97%
ภาพที่ 1
ในภาพมีเงาของซิลิโคน จากการเสริมหน้าอก ทำให้เห็นเงาปอดได้ไม่หมด
การรักษาวันแรกให้เพียงการรักษาตามอาการและให้ฟ้าทะลายโจรขนาด 160มก./วัน แบ่งให้วันละ 4 ครั้ง ให้ 5วัน มีการเสริมวิตามินซี วิตามินดี ธาตุสังกะสี โปรไบโอติกและโปรตีน เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
วันที่สอง ไข้ไม่ลดลง ค่าออกซิเจนปลายนิ้วยังปกติ และดูจากค่า RT-PCR พบว่ามีเชื้อมากพอสมควร(16 copy) จึงตัดสินใจให้ favipiravir(200mg) 9x2 วันแรก วันต่อมา 4x2 กะให้ 5วัน แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นจะให้จนครบ 10วัน
ข้อสังเกต มีการให้ ฟ้าทะลายโจร ร่วมกับ favipiravir ที่ทางกระทรวงแนะนำว่าไม่ควรให้ร่วมกัน ผู้ป่วยรายนี้ให้ร่วมกัน และมีการเช็ค ค่าตับหลังให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ AST 16 ALT 57 (ค่านี้สูงกว่าปกติเล็กน้อย)
ผู้ป่วยมีไข้ตลอด ทั้ง 4วัน จึงมีการใไห้ Antibiotic(ยาฆ่าเชื้อ) Azithromycin (250mg.) 2x1 กะให้ 5วัน
วันที่5 ผู้ป่วยไข้ยังไม่ลด ค่าออกซิเจนปลายนิ้วยังปกติ ได้ x-ray ปอดซ้ำ พบว่ามีผ้าขาวๆที่ปอดทั้ง 2 ข้าง จึงเริ่มให้ Dexamethasone 6mg. IV OD
ภาพที่ 2
วันที่6 ไข้ไม่ลด ผู้ป่วยเรื่มมีอาการเหนื่อย จึงเริ่มให้ ออกซิเจนทางจมูก 3L/min ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว 92% จึงให้ ออกซิเจนทางจมูก 5L/min ค่าออกซิเจนปลายนิ้วขึ้นมาแค่ 94% ทางโรงพยาบาล ไม่มีเครื่องให้ออกซิเจนชนิด High Flow จึงให้แบบ Mask with Bag 10-12L/min ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว อยู่ทื่
95-*96% และเพิ่ม Dexamethasone เป็น 10mg. IV ทุก 12 ชั่วโมง
และส่งทำ CT-Chest พบว่าเชื้อกินปอดไปราว 40%
ภาพที่ 3 4 และ 5 ใน viewต่างๆ
เนื่องจากทางโรงพยาบาล ไม่มีห้องความดันลบ และ เครื่องให้ออกซิเจนชนิด High Flow จึงตัดสินใจส่งตัวไปรักษา โรงพยาบาลที่มีเครื่องมือพร้อมกว่า
ปรากฏว่าโรงพยาบาลรัฐ 3 แห่ง ไม่มีที่ใดยอมรับ มีโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งสนใจ แต่พอเห็นอาการผู้ป่วยแล้วก็เปลี่ยนใจ
ทางเราจึงต้องดูแลต่อ และคิดว่าเชื้อน่าจะดื้อต่อยาที่เราให้ จึงเปลี่ยน favipiravir เป็น remdesivir .ให้ 200 mg. IV drip วันแรก วันต่อมา 100 mg.IV drip OD ให้จนครบ 10 วัน และให้ Lopinavir/Ritonavir (100/25) 4x2 จนครบ 10 วัน
หลังจากเปลี่ยนยาได้ 1 วัน ไข้ก็เริ้มลด ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว ดีขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นมาเป็น 100% ในวันที่ 2 จึงลดออกซิเจนลงเรื่อบๆ จนเมื่อลดถึง 5L/min ในวันที่4 ก็เปลี่ยนกลับมาเป็น ออกซิเจนทางจมูก(nasal canular) 5L/min 4L/min 3L/min 2L/min จนเอาออกซิจนออกได้ มาหายใจ room air ได้ในวันที่ 8 ออกซิเจนปลายนิ้ว อยู่ที่ 96-97% ได้ tail off steroid แล้วให้ผู้ป่วยบริหารปอดโดยการดูด Triflow บ่อยๆและทุกวัน จนสามารถทำให้ลูกบอลลอยได้ถึง 3 ลูก
ทำการตรวจ CT-Chest ซ้ำ ห่างจากครั้งแรก 9 วัน ปรากฎว่า ดีขึ้นจนนาตกใจ
ภาพที่ 6 7 และ 8
ผู้ป่วยได้กลับบ้าน หลังจากรักษาตัวในโรงพยาบาล 19 วัน
ประสบการณ์การรักษา โควิด-19
ผู้ป่วยเป็นหญิง อายุ 43 ปี อาชีพเจ้าของร้านค้า มาพบผมโดยการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลรัฐบาลเมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยอาการไข้ ปวดศรีษะ มาก่อน 1วัน ประกอบกับมีพนักงานในร้านตรวจพบว่าเป็นโควิด-19 และยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด จึงได้รับการตรวจ RT-PCR พบว่าเป็นโควิท-19 ค่าอยู่ที 16 copy (เป็นโรคเมื่อ ค่าต่ำกว่า 35 ลงมา) ผู้ป่วยแสดงความจำนงค์จะมารักษาโรงพยาบาลเอกชน จึงถูกส่งตัวมา
วันแรกที่มาถึง มีไข้ ปวดศรีษะ ไม่ไอ ไม่มีน้มูก ไม่มีอาการเหนื่อย ผลการตรวจ CBC พบว่ามีเพียงเม็ดเลือดขาวต่ำ(3500) ซึ่งเป็นลักษณะที่พบในการติดเชื้อไวรัสทั่วๆไป x-ray ปอดจากโรงพยาบาลรัฐบาลปกติ ผลการตรวจเกลือแร่ ค่าไต และตับปกติ ค่าออกซิเจนปลายนิ้วอยู่ที่ 97%
ภาพที่ 1
ในภาพมีเงาของซิลิโคน จากการเสริมหน้าอก ทำให้เห็นเงาปอดได้ไม่หมด
การรักษาวันแรกให้เพียงการรักษาตามอาการและให้ฟ้าทะลายโจรขนาด 160มก./วัน แบ่งให้วันละ 4 ครั้ง ให้ 5วัน มีการเสริมวิตามินซี วิตามินดี ธาตุสังกะสี โปรไบโอติกและโปรตีน เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
วันที่สอง ไข้ไม่ลดลง ค่าออกซิเจนปลายนิ้วยังปกติ และดูจากค่า RT-PCR พบว่ามีเชื้อมากพอสมควร(16 copy) จึงตัดสินใจให้ favipiravir(200mg) 9x2 วันแรก วันต่อมา 4x2 กะให้ 5วัน แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นจะให้จนครบ 10วัน
ข้อสังเกต มีการให้ ฟ้าทะลายโจร ร่วมกับ favipiravir ที่ทางกระทรวงแนะนำว่าไม่ควรให้ร่วมกัน ผู้ป่วยรายนี้ให้ร่วมกัน และมีการเช็ค ค่าตับหลังให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ AST 16 ALT 57 (ค่านี้สูงกว่าปกติเล็กน้อย)
ผู้ป่วยมีไข้ตลอด ทั้ง 4วัน จึงมีการใไห้ Antibiotic(ยาฆ่าเชื้อ) Azithromycin (250mg.) 2x1 กะให้ 5วัน
วันที่5 ผู้ป่วยไข้ยังไม่ลด ค่าออกซิเจนปลายนิ้วยังปกติ ได้ x-ray ปอดซ้ำ พบว่ามีผ้าขาวๆที่ปอดทั้ง 2 ข้าง จึงเริ่มให้ Dexamethasone 6mg. IV OD
ภาพที่ 2
วันที่6 ไข้ไม่ลด ผู้ป่วยเรื่มมีอาการเหนื่อย จึงเริ่มให้ ออกซิเจนทางจมูก 3L/min ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว 92% จึงให้ ออกซิเจนทางจมูก 5L/min ค่าออกซิเจนปลายนิ้วขึ้นมาแค่ 94% ทางโรงพยาบาล ไม่มีเครื่องให้ออกซิเจนชนิด High Flow จึงให้แบบ Mask with Bag 10-12L/min ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว อยู่ทื่
95-*96% และเพิ่ม Dexamethasone เป็น 10mg. IV ทุก 12 ชั่วโมง
และส่งทำ CT-Chest พบว่าเชื้อกินปอดไปราว 40%
ภาพที่ 3 4 และ 5 ใน viewต่างๆ
เนื่องจากทางโรงพยาบาล ไม่มีห้องความดันลบ และ เครื่องให้ออกซิเจนชนิด High Flow จึงตัดสินใจส่งตัวไปรักษา โรงพยาบาลที่มีเครื่องมือพร้อมกว่า
ปรากฏว่าโรงพยาบาลรัฐ 3 แห่ง ไม่มีที่ใดยอมรับ มีโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งสนใจ แต่พอเห็นอาการผู้ป่วยแล้วก็เปลี่ยนใจ
ทางเราจึงต้องดูแลต่อ และคิดว่าเชื้อน่าจะดื้อต่อยาที่เราให้ จึงเปลี่ยน favipiravir เป็น remdesivir .ให้ 200 mg. IV drip วันแรก วันต่อมา 100 mg.IV drip OD ให้จนครบ 10 วัน และให้ Lopinavir/Ritonavir (100/25) 4x2 จนครบ 10 วัน
หลังจากเปลี่ยนยาได้ 1 วัน ไข้ก็เริ้มลด ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว ดีขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นมาเป็น 100% ในวันที่ 2 จึงลดออกซิเจนลงเรื่อบๆ จนเมื่อลดถึง 5L/min ในวันที่4 ก็เปลี่ยนกลับมาเป็น ออกซิเจนทางจมูก(nasal canular) 5L/min 4L/min 3L/min 2L/min จนเอาออกซิจนออกได้ มาหายใจ room air ได้ในวันที่ 8 ออกซิเจนปลายนิ้ว อยู่ที่ 96-97% ได้ tail off steroid แล้วให้ผู้ป่วยบริหารปอดโดยการดูด Triflow บ่อยๆและทุกวัน จนสามารถทำให้ลูกบอลลอยได้ถึง 3 ลูก
ทำการตรวจ CT-Chest ซ้ำ ห่างจากครั้งแรก 9 วัน ปรากฎว่า ดีขึ้นจนนาตกใจ
ภาพที่ 6 7 และ 8
ผู้ป่วยได้กลับบ้าน หลังจากรักษาตัวในโรงพยาบาล 19 วัน