JJNY : สธ.ส่งไฟเซอร์พบให้ศูนย์หมอ ยงเป็นหน.ด้วย│ปัตตานี รอข้าวแจกประทังชีวิต│'สมชัย'เตือนแก้รธน.│ธปท.หั่นจีดีพีโตแค่0.7%

สธ.ส่งไฟเซอร์ฉีดบุคลากรการแพทย์ พบส่งให้ศูนย์ที่หมอ ยงเป็นหัวหน้าด้วย
https://prachatai.com/journal/2021/08/94304
  
สธ.ส่งไฟเซอร์ฉีดบุคลากรการแพทย์ 76 จว. รอบแรก 322,800 โดส กทม. 1.2 แสนโดส พบส่งให้ศูนย์ที่หมอ ยง เป็นหัวหน้าด้วย 
 
4 ส.ค.2564 มติชนออนไลน์ รายงานว่า นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันนี้ (4 ส.ค.) ตนได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุดเลขที่ สธ.0410.3/ว 516 ส่งถึงผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1-12 แจ้งการนำส่งวัคซีนไฟเซอร์ รอบแรกเดือน ส.ค.2564 ระหว่างวันที่ 4-6 ส.ค.2564 จำนวนรวม 322,800 โดส เพื่อฉีดให้บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกคนที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 จากการปฏิบัติงานทั่วประเทศ โดยหลักการคือฉีดให้กับ
 
1. บุคลากรที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็ม อย่างน้อย 1 เดือน พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์กระตุ้น 1 เข็ม
 
2. บุคลากรที่ได้รับวัคซีนใดๆ มาแล้วเพียง 1 เข็ม พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 โดยระยะเวลาระหว่างโดสตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก
 
3. บุคลากรที่เคยได้รับเชื้อโควิด-19 และไม่เคยได้รับวัคซีน พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็ม โดยมีระยะห่างจากวันที่พบการติดเชื้ออย่างน้อย 1 เดือน และประเภทที่ 2 บุคคลที่ไม่เคยได้รับวัคซีนใดๆ มาก่อน พิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์
 
เอกสารการนำส่งวัคซีนไฟเซอร์มีการจัดสรรวัคซีนให้แต่ละจังหวัด 322,800 โดส สำหรับ กรุงเทพมหานคร จัดส่งไปที่สถานพยาบาล รพ.ทั้งภาครัฐและเอกชน รวม 162 แห่งทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งหมด 120,000 โดส
 
โดยมีรายการที่น่าสนใจคือ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยาคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่มี ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ ได้รับ 20 โดส ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ศ.นพ.ยง เคยออกมาพูดว่า 

ขณะนี้มีการศึกษาอยู่ เช่น หากเราต้องการให้ภูมิต้านทานสูงขึ้น อาจต้องให้แอสตร้าฯ เข็ม 2 เร็วขึ้นหรือแม้กระทั่งซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม เมื่อฉีด 2 เข็มแล้ว ภูมิต้านทานอาจต่ำอยู่ จึงต้องกระตุ้นเข็ม 3 เข้าไป ซึ่งเราเชื่อว่าเข็ม 3 จะกระตุ้นให้สูงเป็นน้องๆ ไฟเซอร์ 
 
สำหรับ การจัดสรรกรุงเทพมหานคร จัดส่งไปที่สถานพยาบาล รพ.ทั้งภาครัฐและเอกชน รวม 162 แห่งทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งหมด 120,000 โดส มีดังนี้
 
 

ย่านเศรษฐกิจเป็นเมืองร้าง ‘ปัตตานี’ ติดเชื้อใหม่ 228 ตาย 8 ชาวบ้านรอข้าวแจกประทังชีวิต
https://www.dailynews.co.th/news/126124/

ปัตตานีติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 228 ราย เสียชีวิต 8 ราย ย่านเศรษฐกิจกลายเป็นเมืองร้าง ติดป้ายให้เช่ากันระนาว ขณะที่หนุ่ม 23 เจอพิษโควิดต้องปิดกิจการ ผันตัวมาขายข้าวกล่อง 25 บาทริมทาง หาเงินช่วยลูกน้อง และขายถูกช่วยชาวบ้าน
 
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยังคงระบาดอย่างหนักต่อเนื่อง โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่วันที่ 4 ส.ค. เพิ่ม 228 ราย เสียชีวิต 8 ราย ขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสม 10,511 รักษาหาย 6,967 และเสียชีวิตสะสม 143 ราย ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ และประชาชนจังหวัดปัตตานี ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ชาวบ้านหลายคนรอความหวังอย่างเดียวให้มีคนมาแจกข้าวกล่องประทังชีวิต
 
ทั้งนี้ ตามที่มีมาตรการไม่ให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน ทำให้บรรยากาศบนถนนสาย มอ.ปัตตานี ย่านเศรษฐกิจชื่อดัง ตกอยู่ในสภาวะเงียบเหงา กลายเป็นเมืองร้าง เกือบทุกร้านแบกภาระไม่ไหว ถอดใจปิดร้าน ติดป้ายให้เช่า เซ้งร้านในราคาที่ถูกลง หวังนำเงินมาจุนเจือค่าใช้จ่ายในครอบครัว บางร้านปล่อยทิ้งรกจนต้นไม้ขึ้น ซึ่งรายได้เกือบทุกร้านที่หล่อเลี้ยงพ่อค้าแม่ค้า 90% ก็มาจากประชาชนที่รับประทานอาหารในร้าน
 
เช่นเดียวกับหนุ่มวัย 23 ปี ที่เคยมีร้านอาหารเป็นของตนเอง แต่วันนี้ต้องปิดกิจการลง เนื่องจากพิษโควิด และมาตรการไม่ให้นั่งในร้าน ส่งผลให้ไม่มีลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้มีพนักงาน 15 คน ก็ไม่มีเงินจะจ้าง จึงเลือกจ้างพนักงานเพียง 3 คน และออกมาทำข้างกล่อง 25 บาท มานั่งขายริมทาง บนถนนสาย มอ.ปัตตานี โดยไม่หวังผลกำไร เพียงนำเงินเลี้ยงลูกน้อง 3 คนอยู่รอด และช่วยชาวบ้านที่ต้องการข้าวราคาถูกๆ รับประทานกัน จากเดิมที่เปิดร้านขายได้วันละ 50,000 บาท แต่ตอนนี้ขายข้าวกล่องริมทางได้วันละ 2,000 บาทเท่านั้น.
 

 
'สมชัย' เตือนแก้รธน. รายมาตราแบบขัดรธน. ระวังถูกถอดถอนทั้งคณะ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2867910
 
‘สมชัย’ เตือนแก้รธน.รายมาตราแบบขัดรธน. ระวังถูกถอดถอนทั้งคณะ
 
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ระบุว่า
 
ขยับแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราแบบขัดรัฐธรรมนูญ ระวังถูกถอดถอนยกคณะ
 
กรณี ไพบูลย์ นิติตะวัน แห่งพลังประชารัฐ เป็นหัวหอกแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ในประเด็นแก้บัตรเลือกตั้งเป็นสองใบ ดูจะดึงดันเดินหน้า ทั้งๆ ที่ร่างที่ผ่านในวาระที่ 1 ของ ปชป. มีแค่สองมาตรา คือ มาตรา 83 และ 91 เป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากหากจะแก้จริงต้องแก้มาตราทั้งหมด 8 มาตรา คือ 83,85,86,90,91,92,93 และ 94
 
การอ้างข้อบังคับการประชุมข้อ 124 วรรคท้ายว่า สามารถแปรญัตติล้วงกลับไปแก้ในมาตราที่เกี่ยวข้องหากสอดคล้องกับหลักการที่รับในวาระที่ 1 นั้น กล้ามากและด้านมาก
 
หากมาตราดังกล่าว ไม่เคยเป็นวาระที่เคยพิจารณาในวาระที่ 1 มาก่อนคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ 6 มาตราดังกล่าว เป็นมาตราที่รัฐสภาเคยลงมติไม่รับหลักการไปแล้วเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 การแปรญัตติเพื่อฟื้นเอาสิ่งที่ไม่รับหลักการไม่น่าจะเป็นไปได้ และถือว่าขัดรัฐธรรมนูญและวิธีการทางนิติบัญญัติ
กรรมาธิการที่มีนายไพบูลย์ เป็นประธาน คงเดินหน้าไม่สนใจและใช้เสียงข้างมากผลักดันให้แก้จนได้
 
สำหรับกรรมาธิการเสียงข้างน้อย คงต้องบันทึกไว้ในรายงานการประชุมว่าไม่เห็นด้วยครับ เพราะเรื่องนี้มีคนร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน ว่า กมธ. ทำผิดรัฐธรรมนูญ ถึงขั้นถอดถอน
 
ส.ส. คนไหนลงมติ ส.ว.คนไหนลงมติ ก็ถอดถอนคนนั้นแหละครับ ไม่ยาก
 
พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย เตรียมยื่นคำร้องได้เลย ถามมาทางผมได้ อย่าให้พวกทำลายกระบวนการนิติบัญญัติเขาอยู่สบายเกิน
 
https://www.facebook.com/Somchai.Srisutthiyakorn/posts/4059225380793501
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่