วัคซีน HPV ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุยังน้อย

มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในโรคที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของผู้หญิงทั่วโลก
โดยสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา (Human Papillomavirus: HPV)
ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุยังน้อย
การให้วัคซีนตั้งแต่วัยเด็กเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกในอนาคต
วันนี้พี่หมอฝั่งธน..จะมาให้ความรู้ ideaวัคซีน HPV และประโยชน์ของการฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุยังน้อย idea
ideaHPV เป็นกลุ่มของไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยมีประมาณ 14 สายพันธุ์
ที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดมะเร็ง โดยเฉพาะ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18
ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกมากกว่าร้อยละ 70 นอกจากนั้น HPV ยังสามารถทำให้เกิดโรคอื่น ๆ
เช่น มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศ และหูดหงอนไก่

วัคซีน HPV เป็นวัคซีนที่พัฒนาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อให้เกิดมะเร็ง
วัคซีนนี้ทำงานโดยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สร้างแอนติบอดีเพื่อต่อสู้กับเชื้อ HPV ที่อาจเข้าสู่ร่างกายในอนาคต
ปัจจุบันมีวัคซีน HPV หลายชนิด ได้แก่
วัคซีน 2 สายพันธุ์ (Cervarix) - ป้องกัน HPV สายพันธุ์ 16 และ 18
วัคซีน 4 สายพันธุ์ (Gardasil) - ป้องกัน HPV สายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18
วัคซีน 9 สายพันธุ์ (Gardasil 9) - ป้องกัน HPV สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58
ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งจาก HPV ได้มากขึ้น



ideaการฉีดวัคซีน HPV ตั้งแต่วัยเด็กมีข้อดีหลายประการ ได้แก่
มีประสิทธิภาพสูงสุด: วัคซีนจะได้ผลดีที่สุดเมื่อฉีดก่อนที่จะมีการติดเชื้อ HPV โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีดในช่วงอายุ 9-14 ปี
สร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง: การฉีดวัคซีนตั้งแต่เด็กช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งกว่าการฉีดในวัยผู้ใหญ่
ลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกในอนาคต: การฉีดวัคซีนสามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 90% หากฉีดครบตามกำหนด
ป้องกันโรคอื่น ๆ ที่เกิดจาก HPV: เช่น หูดหงอนไก่ และมะเร็งชนิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ HPV
ใครควรฉีดวัคซีน HPV และฉีดเมื่อไร exclaim
ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) วัคซีน HPV ควรฉีดให้กับ:
เด็กหญิงและเด็กชายอายุ 9-14 ปี: เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากยังไม่มีการติดเชื้อ HPV
วัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้น (15-26 ปี): หากยังไม่เคยฉีดมาก่อน ควรเข้ารับวัคซีนให้ครบโดส
ผู้ที่มีอายุ 27-45 ปี: สามารถรับวัคซีนได้หากแพทย์เห็นว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ HPV

ideaวิธีการฉีดวัคซีน HPV
สำหรับผู้ที่อายุ 9-14 ปี: ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยเว้นระยะห่าง 6-12 เดือน
สำหรับผู้ที่อายุ 15 ปีขึ้นไป: ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยเข็มที่สองฉีดหลังเข็มแรก 1-2 เดือน และเข็มที่สามฉีดหลังเข็มแรก 6 เดือน

ideaผลข้างเคียงของวัคซีน HPV
วัคซีน HPV มีความปลอดภัยสูง และผลข้างเคียงที่พบมักเป็นเพียงอาการเล็กน้อย
เช่น ปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด มีไข้ต่ำ ๆ เวียนศีรษะ หรืออ่อนเพลียชั่วคราว
ในกรณีที่มีอาการรุนแรง เช่น แพ้วัคซีน ควรรีบพบแพทย์ทันที

ideaข้อเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัคซีน HPV
แม้ว่าวัคซีน HPV จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดที่พบบ่อย เช่น:
วัคซีน HPV มีไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น - ความจริงแล้วผู้ชายก็ควรฉีดเช่นกัน
เพราะ HPV สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งที่อวัยวะเพศและทวารหนักได้
ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก - วัคซีนช่วยลดความเสี่ยงแต่ไม่ได้ป้องกันได้ 100%
ดังนั้นจึงยังต้องตรวจคัดกรองตามปกติ
วัคซีน HPV ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก - ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนเรื่องนี้
วัคซีน HPV ปลอดภัยและไม่มีผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์

exclaimการฉีดวัคซีน HPV ตั้งแต่วัยเด็กเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกและโรคอื่น ๆ ที่เกิดจาก HPV
การได้รับวัคซีนในช่วงเวลาที่เหมาะสมช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงในอนาคต
ดังนั้น พ่อแม่และผู้ปกครองควรให้ความสำคัญกับการพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีน HPV ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

ความรู้เพิ่มเติม
https://www.thonburihospital.com/package/pk_hpv_vaccine2025/
https://www.tiktok.com/@thonburi_hospital/video/7478579881870183696
https://www.tiktok.com/@thonburi_hospital/video/7480363252266945808

lovelovelove

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่