จงวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ทั้งการใช้คำ ภาพพจน์ และรสวรรณคดี อธิบายพร้อมยกบทประพันธ์ประกอบให้ชัดเจน จากเนื้อหาต่อไปนี้
ได้พบกับวิยากรที่โด่งดังคนหนึ่ง ชื่อว่ามายาวิน เขามีความรู้เกี่ยวกับวิชาของฤาษี รู้จักการใช้วิชทสะกดจิตไปผูกกับหัวใจของคน ถึงแม้ว่าคนนั้นจะอยู่ไกล ก็ร่ายมนต์เรียกมาได้
สุเทษณ์ : อ๊ะ! จริงหรอ
จิตระรถ: ข้าบาทได้เห็นแล้ว
สุเทษณ์: ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเขาก็เป็นสิ่งมี่มีค่า!
จิตระรถ: ข้าบาทรู้แล้ว ถึงกล้าพาตัวเขามา
สุเทษณ์: พามาแล้วหรอ?
จิตระรถ: เขามาแล้ว รออยู่ที่ข้างนอกลาน ขอให้เขาได้แสดงวิชาความรู้ให้ท่านดูสักครั้ง
สุเทษณ์: เจ้าพูดทำได้ฉันหวัง ถ้าทำไม่ได้อย่างที่พูดจะทำยังไง?
จิตระรถ: ข้าบาทเชื่อว่าทำได้อยู่แล้ว จึงกล้าพามาเข้าเฝ้าพระองค์ ขอโปรดลองดูวิชาของเขาก่อน เผื่อจะทำให้ได้ดั่งที่พระองค์คิดไว้
สุเทษณ์: ได้,เรียกเขาเข้ามา จะดีหรือชั่วก็ต้องลองให้เห็น
(จิตระรถถวายบังคมแล้วเข้าโรงไป)
จิตระเสน: พระองค์ ข้าสงสัยมาก.แต่ไม่อยากทักท้วงต่อหน้าผู้ฝึก เวทมนตร์เขาที่เรียกใครมาได้นั้นอาจจะมีจริง.แต่จะบังคับหัวใจให้นักนั้นข้าก็ยังระเเวง ถ้าหากเรียกผู้หญิงสวยๆมาแล้วไม่จงรักภักดีอยู่เป็นคนรับใช้ ก็จะกลายเป็นการเสื่อมเสียเกีรยติอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
สุเทษณ์: เจ้าพูดถูกทุกอย่าง แต่เราอัดอั้นอกด้วยรักที่ร้อนใจ ถึงอย่างไรเพียงให้ได้เห็นใบหน้าที่สวยงามของมัทนาก็อาจจะมีความปลื้มใจสมแก่ความคิดถึง
(จิตระรถพามายาวินออกมา,มายาวินเป็นวิทยาธร นุ่งห่มหนังสือ)
จิตระรถ: พระองค์,นี่คือมายาวิน มาเฝ้าพระองค์ดวยความภักดี
สุเทษณ์: ขอบใจที่มาครั้งนี้ ได้ยินว่าท่านมีวิชาสะกดจิต ถ้าหากเราขอให้ท่าน ช่วยนำความรำคาญใขของเราออกไปจะได้หรือไม่ ว่ามา
มายาวิน: พระองค์,วิชาเวทย์ที่ข้าเรียนรู้มา เต็มใจที่จะช้ทดแทนพระเดชพระคุณลอองธุลีพระบาท จนสุดความสามรถ
สุเทษณ์: ท่านมีเวทมนตร์คาถา อาจจะทำให้ดลใจใครๆได้หมดใช่ไหม?
มายาวิน: จะบอกพระองค์ว่าอย่างนั้นก็จะดูถือตัวเกินไป,[ภุชงค์คัปปะยาตร์,12.]
จะถามเรื่องราวที่เป็นความลับก็ไม่กล้าถาม พระองค์ได้โปรดยกโทษให้ข้าที่จะบอกเรื่องราวของพระองค์และความจริงวิชาาานี้ก็มีอยู่ในตัว อาถรรพ์พระเวทย์ก็มีอยู่ และมนตร์ครูก็ได้สน.
มัทนะพาธา 52-53
ได้พบกับวิยากรที่โด่งดังคนหนึ่ง ชื่อว่ามายาวิน เขามีความรู้เกี่ยวกับวิชาของฤาษี รู้จักการใช้วิชทสะกดจิตไปผูกกับหัวใจของคน ถึงแม้ว่าคนนั้นจะอยู่ไกล ก็ร่ายมนต์เรียกมาได้
สุเทษณ์ : อ๊ะ! จริงหรอ
จิตระรถ: ข้าบาทได้เห็นแล้ว
สุเทษณ์: ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเขาก็เป็นสิ่งมี่มีค่า!
จิตระรถ: ข้าบาทรู้แล้ว ถึงกล้าพาตัวเขามา
สุเทษณ์: พามาแล้วหรอ?
จิตระรถ: เขามาแล้ว รออยู่ที่ข้างนอกลาน ขอให้เขาได้แสดงวิชาความรู้ให้ท่านดูสักครั้ง
สุเทษณ์: เจ้าพูดทำได้ฉันหวัง ถ้าทำไม่ได้อย่างที่พูดจะทำยังไง?
จิตระรถ: ข้าบาทเชื่อว่าทำได้อยู่แล้ว จึงกล้าพามาเข้าเฝ้าพระองค์ ขอโปรดลองดูวิชาของเขาก่อน เผื่อจะทำให้ได้ดั่งที่พระองค์คิดไว้
สุเทษณ์: ได้,เรียกเขาเข้ามา จะดีหรือชั่วก็ต้องลองให้เห็น
(จิตระรถถวายบังคมแล้วเข้าโรงไป)
จิตระเสน: พระองค์ ข้าสงสัยมาก.แต่ไม่อยากทักท้วงต่อหน้าผู้ฝึก เวทมนตร์เขาที่เรียกใครมาได้นั้นอาจจะมีจริง.แต่จะบังคับหัวใจให้นักนั้นข้าก็ยังระเเวง ถ้าหากเรียกผู้หญิงสวยๆมาแล้วไม่จงรักภักดีอยู่เป็นคนรับใช้ ก็จะกลายเป็นการเสื่อมเสียเกีรยติอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
สุเทษณ์: เจ้าพูดถูกทุกอย่าง แต่เราอัดอั้นอกด้วยรักที่ร้อนใจ ถึงอย่างไรเพียงให้ได้เห็นใบหน้าที่สวยงามของมัทนาก็อาจจะมีความปลื้มใจสมแก่ความคิดถึง
(จิตระรถพามายาวินออกมา,มายาวินเป็นวิทยาธร นุ่งห่มหนังสือ)
จิตระรถ: พระองค์,นี่คือมายาวิน มาเฝ้าพระองค์ดวยความภักดี
สุเทษณ์: ขอบใจที่มาครั้งนี้ ได้ยินว่าท่านมีวิชาสะกดจิต ถ้าหากเราขอให้ท่าน ช่วยนำความรำคาญใขของเราออกไปจะได้หรือไม่ ว่ามา
มายาวิน: พระองค์,วิชาเวทย์ที่ข้าเรียนรู้มา เต็มใจที่จะช้ทดแทนพระเดชพระคุณลอองธุลีพระบาท จนสุดความสามรถ
สุเทษณ์: ท่านมีเวทมนตร์คาถา อาจจะทำให้ดลใจใครๆได้หมดใช่ไหม?
มายาวิน: จะบอกพระองค์ว่าอย่างนั้นก็จะดูถือตัวเกินไป,[ภุชงค์คัปปะยาตร์,12.]
จะถามเรื่องราวที่เป็นความลับก็ไม่กล้าถาม พระองค์ได้โปรดยกโทษให้ข้าที่จะบอกเรื่องราวของพระองค์และความจริงวิชาาานี้ก็มีอยู่ในตัว อาถรรพ์พระเวทย์ก็มีอยู่ และมนตร์ครูก็ได้สน.