น้ำท่วมโลกครั้งใหญ่ สมัยนบีนูหฺ (โนอาห์) บทเรียนเตือนให้มนุษย์กลับตัว

แม้เหตุการณ์น้ำท่วมในยุคนี้จะไม่รุนแรงเท่าน้ำท่วมโลกในยุคประวัติศาสตร์ แต่ก็เป็นบทเรียนเตือนใจให้เรากลับเนื้อกลับตัว อัลลอฮฺจะไม่ทรงให้บททดสอบเป็นภัยพิบัติมาให้ในพื้นที่ใด เว้นแต่หวังให้มนุษย์กลับเนื้อกลับตัว หากพื้นที่นั้นมีการทำผิดบาปอย่างมากมาย และไม่มีการตักเตือน ก็เสี่ยงที่จะเจอภัยพิบัติตามมา วัลอิยาซุบิลลาฮฺ (ฉันขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ (ให้ห่างไกลจากสิ่งนี้))

น้ำท่วมในครั้งประวัติศาสตร์ เป็นเพราะปฏิเสธพระเจ้า และมนุษย์เริ่มทำรูปปั้นมาเคารพและคิดว่าเป็นพระเจ้าเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านั้นสมัยนบีอาดัม มนุษย์คนแรกของโลก และลูกหลานต่อจากนั้นเคารพในพระเจ้าองค์เดียว คือ อัลลอฮฺ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่แท้จริง ไม่มีตัวแทน ไม่ใช่สิ่งถูกสร้าง เป็นผู้เดียวที่ตอบรับการขอพรของมนุษย์ เป็นผู้เดียวที่ทรงสร้างมนุษย์ โลก และจักรวาล และเป็นเจ้าของสวรรค์-นรก
น้ำท่วมสมัยนบีนูหฺ 
ในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลเกาะมัร 9-17 ระบุเหตุการณ์น้ำท่วมสมัยนบีนูหฺอย่างชัดเจน เตือนใจเราอย่างดี
“ก่อนหน้าพวกเขานั้น หมู่ชนของนูหฺได้ปฏิเสธ พวกเขาได้ปฏิเสธบ่าวของเราโดยกล่าวว่าเขา (นูหฺ) เป็นคนบ้า และถูกขู่บังคับ เขาจึงวิงวอนขอต่อพระเจ้าของเขาว่า แท้จริงข้าพระองค์ถูกพิชิตเสียแล้ว ได้โปรดช่วยเหลือ(ข้าพระองค์)ด้วย ดังนั้น เราจึงได้เปิดประตูแห่งชั้นฟ้าให้น้ำฝนเทลงมาอย่างหนัก และเราได้ทำให้แผ่นดินแยกออกเป็นตาน้ำไหลพุ่ง ดังนั้น น้ำฝนและตาน้ำได้มาบรรจบกันตามกิจการที่ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว"

"และเราได้บรรทุกเขาไว้บนเรือที่ทำด้วยแผ่นไม้กระดาน และตอกติดด้วยตะปู มัน (เรือ) ได้แล่นไปต่อหน้าเรา (ภายใต้การคุ้มครองของเรา) เป็นการตอบแทนแก่ผู้ที่ถูกปฏิเสธ และโดยแน่นอนเราได้ทิ้งมันไว้เป็นสัญญาณหนึ่ง แต่มีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น ดังนั้น การลงโทษของเราและการตักเตือนของเราเป็นเช่นใดบ้าง? และโดยแน่นอน เราได้ทำให้อัลกุรอานนี้เป็นที่เข้าใจง่ายแก่การรำลึก แล้วมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น”


- - -
น้ำท่วมสมัยนบีนูหฺ – ก่อนน้ำท่วม นบีเตือน อัลลอฮฺให้โอกาสกลับตัว
ในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺนูหฺ 1-20 ระบุถึงการเรียกร้องเชิญชวนสู่การศรัทธาต่ออัลลอฮฺ พระเจ้ามีเพียงองค์เดียวเท่านั้น ผู้ทรงประทานความโปรดปรานมาให้มนุษย์อย่างมากมาย (ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับแห่งประเทศไทย)
"แท้จริงเราได้ส่งนูหฺไปยังหมู่ชนของเขา (โดยบัญชาว่า) เจ้าจงกล่าวตักเตือนหมู่ชนของเจ้า ก่อนที่การลงโทษอันเจ็บปวดจะมาถึงพวกเขา เขากล่าวว่า โอ้ หมู่ชนของฉัน! แท้จริงฉันคือผู้ตักเตือนอันชัดแจ้งของพวกท่าน พวกท่านจงเคารพภักดีอัลลอฮฺเถิด และจงยำเกรงพระองค์ และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามฉัน พระองค์จะทรงอภัยโทษให้แก่พวกท่านในความผิดของพวกท่าน และจะทรงผ่อนผัน พวกท่านจนกระทั่งถึงวาระที่ถูกกำหนดไว้ แท้จริงวาระของอัลลอฮฺนั้น เมื่อมาถึงแล้วมันจะไม่ยืดเวลาต่อไปอีก หากพวกท่านได้รู้"

"เขากล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงข้าพระองค์ได้เรียกร้องเชิญชวนหมู่ชนของข้าพระองค์ทั้งกลางคืนและกลางวัน แต่การเรียกร้องเชิญชวนของข้าพระองค์มิได้เพิ่มพูนสิ่งใดแก่เขานอกจากการหลบหนี และแท้จริงทุกครั้งที่ข้าพระองค์เรียกร้องเชิญชวนพวกเขาเพื่อที่พระองค์ท่านจะได้อภัยโทษให้แก่พวกเขา พวกเขาก็เอานิ้วมืออุดรูหูของพวกเขา และเอาเสื้อผ้าของพวกเขาคลุมโปง และพวกเขายังดื้อรั้น และหยิ่งยะโสด้วยความจองหอง ครั้นแล้วข้าพระองค์ได้เรียกร้องเชิญชวนพวกเขาอย่างเปิดเผย แล้วข้าพระองค์ก็ได้ประกาศแก่พวกเขาอย่างเปิดเผยอีกทั้งข้าพระองค์ยังได้บอกกล่าวแก่พวกเขาอย่างลับๆ อีกด้วย"

"ข้าพระองค์ได้กล่าวว่า พวกท่านจงขออภัยโทษต่อพระเจ้าของพวกท่านเถิด เพราะแท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยโทษอย่างแท้จริง พระองค์จะทรงหลั่งน้ำฝนอย่างมากมายแก่พวกท่าน และพระองค์จะทรงเพิ่มพูนทรัพย์สินและลูกหลานแก่พวกท่าน และจะทรงทำให้มีสวนมากหลายแก่พวกท่าน และจะทรงทำให้มีลำน้ำมากหลายแก่พวกท่าน ทำไมพวกท่านจึงไม่สำนึกถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺ และโดยแน่นอน พระองค์ทรงสร้างพวกท่านตามลำดับขั้นตอน พวกเจ้าไม่เห็นดอกหรือว่าอัลลอฮฺทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งเจ็ดเป็นชั้นๆ อย่างไร? และทรงทำให้ดวงจันทร์ในชั้นฟ้าเหล่านั้นมีแสงสว่าง และทรงทำให้ดวงอาทิตย์มีแสงจ้า และอัลลอฮฺทรงบังเกิดพวกท่านจากแผ่นดินเช่นพืชผัก แล้วจะทรงให้พวกท่านกลับคืนสู่ในแผ่นดิน และจะทรงให้พวกท่านออกมาอีกเพื่อคืนชีพ และอัลลอฮฺทรงทำให้แผ่นดินนี้ราบเรียบกว้างใหญ่สำหรับพวกท่าน เพื่อพวกท่านจะได้สัญจรไปมาตามพื้นที่โล่งกว้างนั้น


- - -
น้ำท่วมสมัยนบีนูหฺ – หมู่ชนปฏิเสธ สาเหตุน้ำท่วมโลก
ในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺนูหฺ 21-28 ระบุถึงคำวิงวอนของท่านนบีนูหฺต่ออัลลอฮฺ เนื่องจากหมู่ชนของท่าน จากรุ่นพ่อแม่จนถึงลูกหลาน เคารพรูปปั้นที่พวกเขาประดิษฐ์ขึ้นมาเอง ไม่ใช่พระเจ้าที่แท้จริง ปฏิเสธศรัทธาเป็นเวลา 950 ปี  และดุอาอฺขออภัยโทษแก่ผู้ศรัทธา (ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับแห่งประเทศไทย)
"นูหฺได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงพวกเขาได้ฝ่าฝืนข้าพระองค์และเชื่อฟังผู้ที่ทรัพย์สินของเขา และลูกหลานของเขามิได้เพิ่มพูนอันใดแก่เขานอกจากการขาดทุน และพวกเขาได้วางแผนร้ายอันยิ่งใหญ่ และพวกเขาได้กล่าวว่า พวกท่านอย่าได้ทอดทิ้งพระเจ้าทั้งหลายของพวกท่านเป็นอันขาด พวกท่านอย่าได้ทอดทิ้งวัดดฺ และสุวาอฺ และยะฆูษ และยะอู๊ก และนัซรฺ เป็นอันขาด"

"และโดยแน่นอน พวกเขาได้ทำให้หมู่ชนจำนวนมากหลง ดังนั้นขอพระองค์ท่านอย่าได้เพิ่มอันใดแก่พวกอธรรมเหล่านั้น นอกจากกการหลงผิดเท่านั้น (ตัฟซีร: พวกเขาได้กล่าวเตือนว่า พวกท่านอย่าได้ทอดทิ้งพระเจ้าทั้งหลายของพวกท่าน ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมให้มีความรังเกียจต่อการเรียกร้องของนบีนูหฺขึ้นในจิตใจของพวกเขา และได้เจาะจงกล่าวถึงชื่อบรรดาเจว็ด เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้เกิดความรู้สึกขึ้นในจิตใจของหมู่ชนทั่วไป บรรดาผู้นำที่หลงผิดจะรวบรวมพลพรรคให้เรียงรายล้อมรอบรูปปั้นและเจว็ดที่เป็นกรวดหินดินทราย รูปปั้นที่เป็นตัวบุคคลและรูปปั้นเจว็ดทางแนวความคิด ทั้งหมดนี้อยู่ในสภาพเดียวกันหมด เพื่อจะปิดกั้นมิให้หันหน้าเข้าหาการเรียกร้องสู่อัลลอฮฺ และเพื่อโน้มน้าวจิตใจให้หันห่างจากการเรียกร้องเชิญชวนด้วยการวางแผนร้ายอันยิ่งใหญ่ ด้วยเล่ห์กลและการผนึกกำลัง ดังนั้นขอพระองค์ท่านได้โปรดให้พวกอธรรมเหล่านั้นจมอยู่แต่ในการหลงผิดเท่านั้น) อันเนื่องมาจากความผิดมากหลายของพวกเขา พวกเขาจึงถูกจมน้ำตาย และจะถูกให้เข้าอยู่ในไฟนรก ดังนั้นพวกเขาจะไม่ได้พบผู้ช่วยเหลือสำหรับพวกเขาอื่นจากอัลลอฮฺ"

"และนูหฺได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงอย่าปล่อยให้พวกปฏิเสธศรัทธาหลงเหลืออยู่ในแผ่นดินนี้เลย เพราะแท้จริง หากพระองค์ทรงปล่อยให้พวกเขาหลงเหลืออยู่ พวกเขาก็จะทำให้ปวงบ่าวของพระองค์หลงผิด และพวกเขานั้นนะให้กำเนิดแต่พวกเลวทราม พวกปฏิเสธศรัทธาเท่านั้น ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่ข้าพระองค์ และพ่อแม่ของข้าพระองค์ และผู้ที่เข้ามาในบ้านของข้าพระองค์เป็นผู้ศรัทธา และบรรดาผู้ศรัทธาชาย และบรรดาผู้ศรัทธาหญิง และพระองค์ท่านอย่าได้เพิ่มอันใดแก่พวกอธรรมเหล่านั้น นอกจากความพินาศหายนะเท่านั้น"


- - -
น้ำท่วมสมัยนบีนูหฺ – ผู้ศรัทธาเท่านั้นที่ได้นั่งเรือ 
ในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺฮูด 36-43 ระบุถึงผู้ที่โดยสารเรือ และสาเหตุที่ลูกชายของนบีนูห์ไม่ได้โดยสารเรือ (ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับแห่งประเทศไทย)
"และได้มีวะฮีแก่นูหฺว่า “แท้จริงจะไม่มีผู้ใดจากหมู่ชนของเจ้าศรัทธา เว้นแต่ผู้ที่ได้ศรัทธาแล้ว ดังนั้น เจ้าอย่าเศร้าหมองในสิ่งที่พวกเขากระทำ และเจ้าจงสร้างเรือต่อหน้าเราและตามคำบัญชาของเรา และอย่ามาพูดกับข้า ถึงบรรดาผู้อธรรม แท้จริงพวกเขาจะถูกจมน้ำตาย และเขาได้สร้างเรือ และคราใดที่บุคคลชั้นนำจากหมู่ชนของผ่านเขา(นูห์) พวกเขาก็เยาะเย้ยเขา เขาก็จะกล่าวว่า “หากพวกท่านเยาะเย้ยพวกเรา แท้จริงเราก็จะเยาะเย้ยพวกท่านเช่นเดียวกับที่พวกท่านเยาะเย้ย แล้วพวกท่านก็จะรู้ว่าผู้ใดที่การลงโทษอันอัปยศจะมายังเขา และการลงโทษอันยั่งยืนจะประสบแก่เขา"

"จนกระทั่งเมื่อคำบัญชาของเราได้มา และบนพื้นแผ่นดินน้ำได้พวยพุ่งขึ้น เรากล่าวว่า “จงบรรทุกไว้ในเรือจากทุกชนิดเป็นคู่ๆ (ตัฟซีร: ทุกชนิดของสิ่งที่มีชีวิต ชนิดละ 1 คู่ เพศผู้และเพศเมีย) และครอบครัวของเจ้าด้วย เว้นแต่ผู้ที่พระดำรัสได้กำหนดแก่เขาไว้ก่อน และผู้ศรัทธา แต่ไม่มีผู้ศรัทธาร่วมกับเขานอกจากจำนวนเล็กน้อย” และเขากล่าวว่า “พวกท่านจงลงในเรือด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ทั้งในยามแล่นของมันและในยามจอดของมัน แท้จริงพระเจ้าของฉันเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” และมันแล่นพาพวกเขาไปท่ามกลางคลื่นลูกเท่าภูเขา และนูห์ได้ร้องเรียกลูกชายของเขาซึ่งอยู่อย่างโดดเดี่ยว “โอ้ ลูกของฉัน ! จงมาโดยสารเรือกับเราเถิด และเจ้าอย่าอยู่ร่วมกับผู้ปฏิเสธศรัทธาเลย”
"เขา(ลูกชาย) กล่าวว่า “ฉันจะไปอาศัยภูเขาลูกหนึ่ง มันจะคุ้มครองฉันจากน้ำนี้ได้” เขา(นูห์) กล่าวว่า “ไม่มีผู้ใดคุ้มครองในวันนี้จากพระบัญชาของอัลลอฮฺ เว้นแต่ผู้ที่พระองค์ทรงเมตตา” และคลื่นได้ซัดเข้ามาระหว่างเขาทั้งสอง และเขา(ลูกชาย) ได้อยู่ในหมู่ผู้จมน้ำ"


- - -
น้ำท่วมสมัยนบีนูหฺ – ในอดีต คือ อิรักในปัจจุบัน 
ในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺฮูด 44-48 ระบุเหตุการณ์น้ำหยุดท่วม โดยพระบัญชาจากอัลลอฮฺ (ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับแห่งประเทศไทย)
"และได้มีเสียงกล่าวว่า “โอ้ แผ่นดิน! จงกลืนน้ำของเจ้า และ โอ้ ฟ้า ! จงหยุด” และน้ำได้ลดลงและกิจการได้ถูกตัดสิน และมันได้จอดเทียบอยู่ที่ภูเขาญูดีย์ (ตัฟซีร: เรือได้จอดเทียบอยู่ใกล้ภูเขาญูดีย์ใกล้กับเมืองอัลมูศิล ในประเทศอิรักปัจจุบันนี้) และได้มีเสียงกล่าวว่า “ความหายนะจงประสบแก่หมู่ชนผู้อธรรมเถิด และนูห์ได้ร้องเรียนต่อพระเจ้าของเขาโดยกล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของพระองค์แท้จริงลูกชายของข้าพระองค์เป็นคนหนึ่งในครอบครัวของข้าพระองค์ และแท้จริงสัญญาของพระองค์นั้นเป็นความจริง และพระองค์ท่านนั้นทรงตัดสินเที่ยงธรรมยิ่ง ในหมู่ผู้ตัดสินทั้งหลาย พระองค์ทรงตรัสว่า “โอ้ นูหฺ ! แท้จริงเขามิได้เป็นคนหนึ่งในครอบครัวของเจ้า แท้จริงการกระทำของเขาไม่ดี ดังนั้นเจ้าอย่าร้องเรียนต่อข้าในสิ่งที่เจ้าไม่มีความรู้ แท้จริงข้าขอเตือนเจ้าที่เจ้าจะอยู่ในหมู่ผู้งมงาย”

"เขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อพระองค์ท่าน ให้พ้นจากการร้องเรียนต่อพระองค์ท่านในสิ่งที่ข้าพระองค์ไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น และหากพระองค์ไม่ทรงอภัยแก่ข้าพระองค์ และไม่ทรงเมตตาข้าพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ก็จะอยู่ในหมู่ผู้ขาดทุน” ได้มีเสียงกล่าวว่า “โอ้ นูหฺ ! จงลงไป(จากเรือ) ด้วยความศานติจากเรา และความจำเริญแก่เจ้า และแก่กลุ่มชนที่อยู่กับเจ้า และกลุ่มชนอื่นที่เราจะให้พวกเขาหลงระเริง แล้วการลงโทษอย่างเจ็บปวดจากเราก็จะประสบแก่พวกเขา”


- - -
เรื่องราวน้ำท่วมโลก เตือนใจเราอย่างดี เราศรัทธาในพระเจ้าหรือไม่ เมื่อศรัทธาแล้ว ปฏิเสธคำสอนของพระองค์ ไปเชื่อแนวคิดอื่น หรือให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นเท่าพระองค์หรือไม่ หากเราทำผิดต่อพระองค์ในเรื่องใด ควรรีบกลับเนื้อกลับตัวเพื่อพระองค์

ในยุคนี้มีคนปฏิเสธพระเจ้ามากมาย เพราะเขายังไม่รู้ความจริงว่ามีผู้สร้างเขา พวกเขาที่วิจารณ์ในทางลบต่อศาสนาอิสลามยังไม่ถูกลงโทษในทันที เพราะพระองค์ทรงประวิงเวลาให้กลับเนื้อกลับตัว ให้เวลาค้นหาสัจธรรม และเมื่อเขาศรัทธา ความผิดที่ผ่านมา อัลลอฮฺอภัยให้หมด พระองค์ทรงเมตตาต่อมนุษย์อย่างมาก

วัลลอฮุอะอฺลัม อัลลอฮฺเท่านั้นที่รู้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่