กราบเรียน พณฯ ท่าน .....

ตอนนี้ถึงเวลาของตัวช่วยหรือยังครับ ?

........

เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโควิดในขณะนี้ ค่อนข้างรุนแรง
และเราฝากความหวังไว้ที่วัคซีน ซึ่งเปรียบเสมือน resolution
ของคนไทยทั้งประเทศ  แต่ปัญหาก็คือวัคซีนในปริมาณที่เพียงพอ
ยังมาไม่ถึง ....

เราจึงได้มีพระเอกขี่ม้าขาวที่ชื่อว่า lockdown เข้ามาช่วยประคอง
เหตุเฉพาะหน้า เพียงแต่ว่าพระเอกตัวนี้มีประสิทธิภาพที่ขึ้นอยู่กับ
ความเข้มข้นของการล็อค อันแปรผกผันกับเวลา ...

หมายความว่า ยิ่งล็อคอย่างจริงจัง เวลาที่ใช้ก็จะน้อยลง ....

ซึ่งผลการใช้งานภาคสนามพบว่า ไม่สามารถทำให้เข้มข้นจริงจัง
ได้ 100%  ... เอาแค่ล็อคดาวน์แล้วปล่อยให้สามกีบลงถนนประท้วง
ก็ถือว่าแย่แล้ว

ครั้นจะให้เวลาเนิ่นนานไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ชะตากรรม งูก็จะเริ่มกิน
หางตัวเองเข้าไปทุกที  ..... ถ้าวันไหนไปบรรจบตรงต้องขึ้นภาษีทั้ง
แวต, บุคคล, นิติบุคคล  หายนะทางเศรษฐกิจก็จะเริ่มมาเยือน ....
บรรดามุนษย์เงินเดือนที่ชอบ work from home แบบเท่ ๆ  ก็อาจจะ
โดน fire from hell เอาง่าย ๆ ....

ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง  ขอสะกิดท่านลองดูตัวช่วยอื่น ๆ บ้างเถอะครับ
ยกตัวอย่างเช่น การสาธารณสุขขั้นมูลฐาน หรือวิทยาศาสตร์ง่าย ๆ
เมื่อคิดถึงว่า การฉีดวัคซีนก็คือการไปสนับสนุนกิจกรรมภูมิคุ้มกันของ
ตัวเราเองให้เตรียมพร้อมรับมือกับเชื้อโรค ... วัคซีนไม่ได้ไปฆ่าเชื้อโรค
โดยตรง  .... แต่ในอนาคตเราจะมีอะไรที่ใกล้เคียงกับแบบนั้น ซึ่งผมมอง
ว่าจะเป็น game changer ตัวจริง คือยาต้านไวรัส ที่จะยับยั้งการเพิ่ม
จำนวนของไวรัส ...

จนกว่าจะถึงวันนั้น  .... วันนี้เรายังคงจะต้องมาเพ่งพินิจใส่ใจ ที่ภูมิคุ้มกัน
ของตัวเราเอง ...

เกริ่นมาซะยาว ขอเข้าเรื่องเลยละกัน  มีงานวิจัยจำนวนมากที่สนับสนุน
แนวความคิดที่ว่า  มีความเกี่ยวโยงกันระหว่างปริมาณวิตามินดีในกระแส
เลือดต่ำกว่าค่าปกติอย่างมีนัยสำคัญ กับความรุนแรงของโรคโควิดในตัว
ผู้ป่วย (มีเว็บที่พยายามรวบรวมงานวิจัยเฉพาะในเรื่องนี้
https://c19vitamind.com/) ...  มีตัวอย่างที่โด่งดังเกิดขึ้นในบ้านเรา
คือ ขาใหญ่วงการขาอ่อนท่านหนึ่งเป็นโควิด  รพ.วัดวิตามินดีในกระแส
เลือดได้ต่ำกว่าค่าปกติอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งไม่แน่ใจว่าส่งผลต่อไปถึง
สมองและอารมณ์คุ้มดีคุ้มร้ายของเขาหรือไม่ ?

หรือจะลอง อ่านข้อแนะนำในเรื่องนี้แบบง่าย ๆ 
(https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/958)

ดังนั้น จากเหตุข้างต้น จึงอยากจะขอกราบเรียน พณฯ ท่านว่า
พอเป็นไปได้ไหมที่ รบ. จะมีโครงการแจก วิตามินดี3 ฟรี
( เพิ่ม วิตามินซีด้วยก็จะยิ่งดี )  แก่ประชาชนบุคคลทั่วไป 
อาจจะตั้งโต๊ะแจกพร้อมน้ำดิ่มบรรจุแก้วพลาสติก 
ได้รับวิตามินมาก็กินได้เลย โดยมี จนท. คอยซัก
ถามประวัติแพ้ยาและให้คำแนะนำเรื่องปริมาณการกิน
ตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ หรือตามที่ชุมชน
หรือจะเดินแจกตามครัวเรือนเลยก็ยิ่งดี

ทั้งนี้ การดำเนินการในลักษณะคล้ายๆ กันนี้ มีบางประเทศเคยทำมา
ก่อนแล้ว ด้วยเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป
(ของอังกฤษ https://www.nhs.uk/conditions/coronavirus-covid-19
/people-at-higher-risk/free-vitamin-d-supplements-for-people-
at-high-risk/)

ขอกราบเรียนเป็นครั้งสุดท้าย  ให้ท่านลองพิจารณาดูครับ .