กินยาแก้แพ้เกินขนาด

คือเราไม่ได้เครียดอะไรเลย เราแค่รู้สึกว่าโลกนี้มันไม่น่าอยู่แล้ว เรากินไป76เม็ด กินช่วง5เกือบเที่ยงคืนเราหนาว มือไม้ก็สั่นไปหมด เจ็บหน้าอกเป็นบางช่วง ปวดหนักสุดก็หัวเลยค่ะ อาการเรามันเหมือนอยากอ้วกแต่ก็ไม่อ้วก ถ้าเป็นนี้แล้วเราไม่ไปรพเรามีสิทธิ์ตายมั้ยคะ?
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ผมก็มีประสบการณ์แบบนี้เหมือนกันครับ (อยากเล่าแชร์) ฮ่าๆ.

ผมจำได้ตอนนั้นผมอายุ11-12 ประถมปีที่6 และด้วยความที่อยากรู้อยากลองก็เลยซื้อยาแก้แพ้มากิน(เพื่อลองดูว่าจะเมามั้ย?)จำไม่ได้ว่ากระปุกละกี่บาทน่าจะ 15-20 บาทก็เลยซื้อมากินกับเพื่อนกินกับ(น้ำเปล่า)เพื่อน2คนกินคนละประมาณ5-10เม็ดส่วนตัวผมเองด้วยความที่ห้าวก็เลยซัดหมดกระปุก!!ไม่รู้จำนวนเม็ดที่แน่นอนแต่เกิน60เม็ดแน่ๆเพราะเพื่อนกินไปไม่เยอะและหลังจากนั้นอาการเริ่มมาแต่พอเข้าชั่วโมงที่1หลังจากกิน ทีนี้แหละเป็นอาการที่แย่มากกกกๆ (ผมจำอาการที่แน่นอนไม่ได้) จำได้หลักๆก็คือภาพทุกอย่างมันมั่วไปหมดแบบว่ามั่วมากที่สุดเท่าที่จะมั่วได้ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเหมือนมันขยับเองได้แบบไปๆมาๆโลกที่ผมเห็นแทบจะกลับหัวได้ด้วยซ้ำถ้ามองอะไรและจินตนาการไปเองก็จะเห็นคล้ายเป็นภาพที่เราจินตนาการแบบ100%เลยจากนั้นอาการตื่นตระหนกเริ่มมาและคิดว่าเราจะรอดไหมเนี่ย!เราทำอะไรลงไป (มันหนักขนาดที่ว่าทำเราเหมือนเห็นความตายอยู่ตรงหน้านี่เอง) เริ่มน้ำตาซึมเพราะกลัวจะตายจริงๆ ความตื่นตระหนกและความกลัวเข้าครอบงำผมแบบ100%มันบดบังความคิดเราจนทำให้เราคิดอะไรข้างหน้าไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียวจนพอเริ่มมืดเพื่อนก็ไปส่งผมที่บ้านก็แน่นอนว่าผมต้องเก็บอาการมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่ให้ที่บ้านรู้เข้าไปเสร็จก็เข้านอนปิดไฟมืด(พอมีแสงสว่างจากข้างนอกบ้านอยู่บ้าง) ตอนที่ผมนอนอยู่นั้นผมยังไม่หลับบอกตามตรงว่าวินาทีนั้นผมน้ำตาไหลพรากและไม่ได้มีความกลัวและคิดเรื่องที่ว่าตัวเองจะตายมั้ยแต่...สมองผมกลับบอกประมาณว่า "ยอมรับมันซะจะเป็นยังไงก็ต้องเป็นเราหนีอาการนี้ไม่รอดหรอก" คล้ายๆกับปลงมั้งคงเป็นเพราะว่าผมใจเย็นลงและความตื่นตระหนกลดลงเมื่อล้มตัวลงนอนมาสักพัก  นอนไปนอนมาและความกลัวก็กลับมาอีกครั้ง!และร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะผมคิดได้ครู่นึงและความรู้สึกผมมันไม่อยากหลับไปเลยพยายามเบิกตาให้ได้มากที่สุดเพราะว่าถ้าผมหลับไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง (ผมรู้อาการของตัวเองดีในตอนนั้น)เลยกลัวการหลับครั้งนี้มากกลัวจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก แต่แล้วก็ฝืนไม่ไหวเลยหลับไปทั้งอาการอย่างงั้น ก่อนหลับไปจำได้ว่ามองเห็นผ้าขนหนูที่แขวนอยู่ที่ตะปูเป็นผู้หญิงยืนอยู่ในความมืดมองเห็นปลอกหมอนข้างที่พัดลมเป่าปลิวไปมาเห็นเป็นหัวคนผมยาวสบัดหัวไปๆมาๆตามที่เราจินตนาการแต่ไม่ได้เห็นเป็นหน้าคนแบบชัดๆขนาดนั้นและก็คอยบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่นะกำลังหลอนอยู่และก็หลับไปจนเช้า.
หลังจากตื่นได้สักพักและรู้สึกตัวก็แอบดีใจนิดๆมันไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบว่าเห้ยย!เรารอดแล้วไม่ใช่แบบนี้นะแต่มันรู้สึกแบบว่าดีจังเลยและบอกกับตัวเองว่าแบบนี้มันโอเคแล้วนะใช่ตัวเราตอนนี้มันโอเคมากๆที่เราได้ตื่นมาและรู้สึกตัวอีกครั้ง. อาการภาพมั่วยังอยู่นะไม่ได้จางหายไปไหนมันแค่เบาลงจากเมื่อคืนที่เป็นนิดนึงแต่ก็ทำผมหายห่วงขึ้นเยอะเลยทีนี้ผมก็รู้ได้ทันทีว่าผมจะหายเป็นปกติตามเวลา. ส่วนเรื่องอาการก็ปาไปตั้ง5วันกว่าจะหายเกือบเป็นปกติและวันที่6ยังมึนๆเหวี่ยงๆอยู่นิดนึงแต่ภาพที่ยิบยับมั่วซั่วหายไปแล้วฮ่าๆๆๆแต่ถ้าแบบหายขาดเลยใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าเลยละ. เรื่องผมก็ประมาณนี้แหละครับและอยากเตือนว่ามันอันตรายมากๆถ้าใช้ยาเกินขนาดไม่ว่าจะยาอะไรก็ตามและคนที่กำลังคิดจะทำเนื่องจากเครียดมากหรืออะไรก็ตามผมอยากแนะนำว่าอย่าทำเลยครับเพราะคุณอาจจะไม่ได้โชคดีเรื่องอาจดิ่งลงเหวใช้อะใช้ได้แต่อย่าเกินขนาดและมากเกินไปครับ

อ่อลืมบอกไปครับในขณะที่ผมกำลังเป็นอาการแบบนั้นอยู่แต่เท่าที่ผมจำได้คือสติผมไม่ได้หายไปขณะที่เป็นครับไม่ได้ขาดสติและรู้ตัวแต่อาจไม่ได้เต็มร้อยก็คือรู้ตัวอยู่ตลอดแหละครับแค่ภาพและโลกที่เราเห็นตรงหน้ามันยุ่งเหยิงมากๆกับอาการอื่นๆจากผลข้างเคียงแค่นั้นครับ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยังมีสติดีอยู่ทั้งๆที่รับยาเกินขนาดและอาการหนักขนาดนั้นผมนี่สงสัยมากๆครับ
และอีกอย่างที่ผมสงสัย?คือผมกินเยอะขนาดนั้นแต่ผมไม่ได้ช็อคและเสียชีวิตก็แค่อาการอย่างที่ผมกล่าวไปครับ   เป็นเพราะยาไม่ได้แรงขนาดนั้นหรือผมโชคดีกันแน่นะ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่