เพราะเหตุใดนักวิชาการมุสลิม ซุนนีย์, ชีอะต์ และ วะฮาบีย์ จึงเฉยเมยต่อเจว็ด "หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد)" ในพิธีกรรมสำคัญของอิสลาม
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ พระผู้ทรงเมตตายิ่ง พระผู้ทรงปรานียิ่ง
การอาบน้ำละหมาด (วูดู) ช่วยให้ผู้ละหมาดหลุดพ้นจากชีวิตปกติและเตรียมเข้าสู่สภาวะการสักการะ ทำให้จิตใจและหัวใจสดชื่นและทำให้รู้สึกสะอาดและบริสุทธิ์ อัลลอฮ์ตรัสในอัลกุรอานว่า:
{5:6} ดูกร บรรดาผู้ที่มีศรัทธา! หากพวกเธอลุกขึ้นเพื่อจะทำการนมาซ
1.ก็จงล้างหน้าของพวกเธอ และ
2.มือของพวกเธอจนถึงข้อศอก และ
3.จงเช็ดที่ศีรษะของพวกเธอ และ
4.เท้าของพวกเธอถึงตาตุ่มทั้งสอง
และหากพวกเธอมีญะนาบะฮฺ ก็จงอาบน้ำ หากพวกเธอป่วยหรือกำลังเดินทาง หรือพวกเธอคนใดกลับมาจากการถ่ายทุกข์ หรือสมสู่กับหญิง แล้วไม่พบน้ำ ก็จงมุ่งหาดินที่ดี และลูบใบหน้าของพวกเธอ และมือของพวกเธอด้วยดินนั้น อัลลอฮฺไม่ทรงประสงค์ที่จะให้พวกเธอต้องลำบาก ทว่าทรงประสงค์ที่จะชำระ
พวกเธอให้สะอาด และจะทรงประทานความเมตตาของพระองค์ให้ครบถ้วน เพื่อพวกเธอจะได้ขอบพระคุณ
มีฮาดีษกล่าวว่า:
1. อบูฮูรอยระรายงานว่า: ท่านรอซูลกล่าวว่า; "เมื่อมุสลิมหรือผู้ศรัทธาผู้หนึ่งล้างหน้าในการอาบน้ำละหมาด,บาปทุกๆชนิดที่เขาทำด้วยสายตาของเขาจะถูกล้างออกด้วยน้ำหยดสุดท้าย,เมื่อเขาล้างมือของเขาบาปทุกๆชนิดที่เขากระทำด้วยมือของเขาจะถูกล้างออกด้วยน้ำหยดสุดท้าย,เมื่อเชาล้างเท้าของเขาบาปทุกๆชนิดที่เขากระทำด้วยเท้าของเขาจะถูกชำระล้างด้วยน้ำหยดสุดท้าย, จนกระทั่งเขาบริสุทธิ์ปราศจากบาปทั้งปวง
(จาก: ซอเฮี๊ยะ มุสลิมหมายเลข 244)
2.อบูฮุรอยระ รายงานว่า: ท่านรอซูล ถามว่าสหายของท่านว่า ท่านคิดอย่างไร? ถ้าหากว่าบ้านของผู้ใดในพวกท่าน มีแม่น้ำไหลผ่าน และท่านได้อาบน้ำวันละ 5 ครั้ง ท่านคิดว่าจะมีสิ่งสกปรก ติดตัวท่านหรือไม่?
สหายของท่านรอซูลตอบว่า จะไม่มีสิ่งสกปรกติดอยู่ที่ตัวเขาเลย
ท่านรอซูลกล่าวว่า, การทำละหมาดวันละ 5 เวลาก็เช่นเดียวกัน อัลลอฮ์ขจัดบาป อันเป็นเป็นผลมาจากการทำละหมาดวันละ 5 เวลา ”
(Bukhari, Mawaqit 6; Muslim, Masajid 283)
เนื่องจากการทำละหมาดวันละ 5 เวลาเป็นหน้าที่ของมุสิม เป็นอิบาดะห์ (ทุกๆ สิ่งที่มีปรากฏในบทบัญญัติ จากคำสั่งใช้ต่างๆ และคำสั่งห้ามต่างๆ) ที่สำคัญอย่างหนึ่งของมุสลิม เป็นพิธีกรรมทางศาสนา จากฮาดีษสองบทข้างบนนี้ เป็นเรื่องราวที่กระตุ้นให้มุสลิมทำละหมาดเป็นประจำ ผลของการทำละหมาดนั้น จะช่วยให้อัลลอฮ์เกิดความเมตตาและให้อภัยบาปที่เหมาะสมกับเราได้
เราจะเห็นได้ว่า การอาบน้ำละหมาดเป็นพิธีกรรมทางศาสนาทางด้านจิตวิญญาณ ความสำคัญไม่ได้อยู้ที่น้ำ ถ้าไม่มีน้ำ เราจะใช้ฝุ่นแทนก็ได้ และหรือถ้าไม่มีน้ำหรือฝุ่น เราก็ใช้การแสดงความตั้งใจ ( نِيَّةٌ,) เช่นคนไข้ที่นอนบนเตียงพยาบาล ฯลฯ,

.........................
ขอให้มุสลิมทุกๆท่านพิจารณาฮาดีษบทนี้:

ฮาดีษบทนี้แสดงให้เห็นว่าท่านรอซูลชี้นำและสอนมุสลิมให้ ทำสองสิ่ง คือ
1.สัมผัส หินดำ
2.สัมผัสมุมอัลรูกนอัลยะมานีย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผลของการสัมผ้สหรือ จูบหินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) จะเป็นการไถ่บาปของมนุษย์ โดยที่อัลลอฮ์จะอภัยบาปให้ ในกรณีนี้ การอภัยบาปของ อัลลอฮ์ นั้นมีวัตถุตัวกลางเป็นสื่อเพื่อให้เข้าใกล้ชิดอัลลอฮ์ ดังนั้น หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) มีความสำคัญเท่ากับการทำลัหมาด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื่องจาก หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) เป็นเจว็ดหินที่ได้ถูกประดิษฐานอยู่ในกะอฺบะห์ รวมกับเจว็ดหินอื่น มาก่อนสมัยอิสลาม แต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลอะไรที่ท่านศาสดามูฮัมมัด จะต้องนำเจว็ดหินดำนี้ กลับมาติดตั้งไว้ในกะอฺบะห์อีก ในเมื่ออัลกุรอานมีคำสั่งให้มุสลิมออกห่างไกลจากเจว็ดหินที่ติดตั้งอยู่อยู่รอบๆกะอฺบะห์ และทำไมมุสลิมจำเป็นที่จะต้องชี้มือไปที่ หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) และกล่าวว่า "โอ้พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กว่า (อัลลอฮุอักบัร)" ทุกๆครั้งที่เดินวนกะอฺบะห์ ครบรอบหนึ่งๆ "อัลลอฮ์ทรงห้ามเข้าใกลัเจว็ดหินดำ เนื่องจากเป็นสิ่งโสมม และเป็นเครื่องมือของชัยตอน (5:90)"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพราะเหตุใดนักวิชาการวะฮาบีย์/สะลาฟีย์ จึงเฉยเมยต่อเจว็ด "หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد)" ในพิธีกรรมสำคัญของอิสลาม
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ พระผู้ทรงเมตตายิ่ง พระผู้ทรงปรานียิ่ง
การอาบน้ำละหมาด (วูดู) ช่วยให้ผู้ละหมาดหลุดพ้นจากชีวิตปกติและเตรียมเข้าสู่สภาวะการสักการะ ทำให้จิตใจและหัวใจสดชื่นและทำให้รู้สึกสะอาดและบริสุทธิ์ อัลลอฮ์ตรัสในอัลกุรอานว่า:
{5:6} ดูกร บรรดาผู้ที่มีศรัทธา! หากพวกเธอลุกขึ้นเพื่อจะทำการนมาซ
1.ก็จงล้างหน้าของพวกเธอ และ
2.มือของพวกเธอจนถึงข้อศอก และ
3.จงเช็ดที่ศีรษะของพวกเธอ และ
4.เท้าของพวกเธอถึงตาตุ่มทั้งสอง
และหากพวกเธอมีญะนาบะฮฺ ก็จงอาบน้ำ หากพวกเธอป่วยหรือกำลังเดินทาง หรือพวกเธอคนใดกลับมาจากการถ่ายทุกข์ หรือสมสู่กับหญิง แล้วไม่พบน้ำ ก็จงมุ่งหาดินที่ดี และลูบใบหน้าของพวกเธอ และมือของพวกเธอด้วยดินนั้น อัลลอฮฺไม่ทรงประสงค์ที่จะให้พวกเธอต้องลำบาก ทว่าทรงประสงค์ที่จะชำระ
พวกเธอให้สะอาด และจะทรงประทานความเมตตาของพระองค์ให้ครบถ้วน เพื่อพวกเธอจะได้ขอบพระคุณ
มีฮาดีษกล่าวว่า:
1. อบูฮูรอยระรายงานว่า: ท่านรอซูลกล่าวว่า; "เมื่อมุสลิมหรือผู้ศรัทธาผู้หนึ่งล้างหน้าในการอาบน้ำละหมาด,บาปทุกๆชนิดที่เขาทำด้วยสายตาของเขาจะถูกล้างออกด้วยน้ำหยดสุดท้าย,เมื่อเขาล้างมือของเขาบาปทุกๆชนิดที่เขากระทำด้วยมือของเขาจะถูกล้างออกด้วยน้ำหยดสุดท้าย,เมื่อเชาล้างเท้าของเขาบาปทุกๆชนิดที่เขากระทำด้วยเท้าของเขาจะถูกชำระล้างด้วยน้ำหยดสุดท้าย, จนกระทั่งเขาบริสุทธิ์ปราศจากบาปทั้งปวง
(จาก: ซอเฮี๊ยะ มุสลิมหมายเลข 244)
2.อบูฮุรอยระ รายงานว่า: ท่านรอซูล ถามว่าสหายของท่านว่า ท่านคิดอย่างไร? ถ้าหากว่าบ้านของผู้ใดในพวกท่าน มีแม่น้ำไหลผ่าน และท่านได้อาบน้ำวันละ 5 ครั้ง ท่านคิดว่าจะมีสิ่งสกปรก ติดตัวท่านหรือไม่?
สหายของท่านรอซูลตอบว่า จะไม่มีสิ่งสกปรกติดอยู่ที่ตัวเขาเลย
ท่านรอซูลกล่าวว่า, การทำละหมาดวันละ 5 เวลาก็เช่นเดียวกัน อัลลอฮ์ขจัดบาป อันเป็นเป็นผลมาจากการทำละหมาดวันละ 5 เวลา ”
(Bukhari, Mawaqit 6; Muslim, Masajid 283)
เนื่องจากการทำละหมาดวันละ 5 เวลาเป็นหน้าที่ของมุสิม เป็นอิบาดะห์ (ทุกๆ สิ่งที่มีปรากฏในบทบัญญัติ จากคำสั่งใช้ต่างๆ และคำสั่งห้ามต่างๆ) ที่สำคัญอย่างหนึ่งของมุสลิม เป็นพิธีกรรมทางศาสนา จากฮาดีษสองบทข้างบนนี้ เป็นเรื่องราวที่กระตุ้นให้มุสลิมทำละหมาดเป็นประจำ ผลของการทำละหมาดนั้น จะช่วยให้อัลลอฮ์เกิดความเมตตาและให้อภัยบาปที่เหมาะสมกับเราได้
เราจะเห็นได้ว่า การอาบน้ำละหมาดเป็นพิธีกรรมทางศาสนาทางด้านจิตวิญญาณ ความสำคัญไม่ได้อยู้ที่น้ำ ถ้าไม่มีน้ำ เราจะใช้ฝุ่นแทนก็ได้ และหรือถ้าไม่มีน้ำหรือฝุ่น เราก็ใช้การแสดงความตั้งใจ ( نِيَّةٌ,) เช่นคนไข้ที่นอนบนเตียงพยาบาล ฯลฯ,
.........................
ฮาดีษบทนี้แสดงให้เห็นว่าท่านรอซูลชี้นำและสอนมุสลิมให้ ทำสองสิ่ง คือ
1.สัมผัส หินดำ
2.สัมผัสมุมอัลรูกนอัลยะมานีย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื่องจาก หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) เป็นเจว็ดหินที่ได้ถูกประดิษฐานอยู่ในกะอฺบะห์ รวมกับเจว็ดหินอื่น มาก่อนสมัยอิสลาม แต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลอะไรที่ท่านศาสดามูฮัมมัด จะต้องนำเจว็ดหินดำนี้ กลับมาติดตั้งไว้ในกะอฺบะห์อีก ในเมื่ออัลกุรอานมีคำสั่งให้มุสลิมออกห่างไกลจากเจว็ดหินที่ติดตั้งอยู่อยู่รอบๆกะอฺบะห์ และทำไมมุสลิมจำเป็นที่จะต้องชี้มือไปที่ หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) และกล่าวว่า "โอ้พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กว่า (อัลลอฮุอักบัร)" ทุกๆครั้งที่เดินวนกะอฺบะห์ ครบรอบหนึ่งๆ "อัลลอฮ์ทรงห้ามเข้าใกลัเจว็ดหินดำ เนื่องจากเป็นสิ่งโสมม และเป็นเครื่องมือของชัยตอน (5:90)"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้