เพื่อนๆเคยมีความรักแบบที่แอบชอบใครสักคนแบบที่เราไม่กล้าที่จะบอกความในใจออกไปรึป่าวคะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า.....ย้อนเวลาไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว เราเข้าไปเป็นนักศึกษาน้องใหม่ปี 1 ในมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝัน ระหว่างช่วงเวลาที่มีกิจกรรมรับน้อง เราก็เกิดสบตากับรุ่นพี่เสื้อดำที่ดุแสนดุคนนึง หัวใจเต้นแรงยังกับใครมาตีกลองอยู่ข้างใน แอบปลื้มพี่เสื้อดำแสนดุคนนั้นจนพี่เขาเรียนจบ เราเคยถ่ายรูปกับพี่เขาครั้งนึง แต่เป็นรูปที่ถ่ายกัน 3 คน เอาจริงๆคืออยากถ่ายคู่แหละแต่ด้วยความที่เราเป็นเด็กผู้หญิงใสๆอ่ะเนอะ ไม่กล้าจ้าาาาา ลากเพื่อนมาอยู่ในเฟรมด้วย 5555
หลังจากเราเรียนจบก็ไม่เคยเจอพี่เสื้อดำคนนั้นอีกเลย จนวันนึงได้มีโอกาสทักทายกันในเฟสบุ๊ค การกลับมาคุยกันครั้งนี้มันทำให้หัวใจเราพองโตและเต้นรัวๆๆๆมากกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรกตอน 16 ปีที่แล้วอีกนะ เริ่มจากการทักทายกัน ถามไถ่ทุกข์สุขกัน แล้ววันนึงพี่เสื้อดำคนนั้นก็ทักมาขอเบอร์เรา หึ้ยยยยยยยย ยิ้มจนแก้มจะแตก เขิลจนไม่รู้จะเอามือวางไว้ตรงไหน เคยเป็นมั๊ยหล่ะที่เขิลจนไม่สามารถจัดระเบียบร่างกายตัวเองได้น่ะ 55555
ถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 3 เดือนแล้วที่คุยกันมาเรื่อยๆ ถามไถ่ทุกข์สุข ห่วงใยกัน ถึงเวลามันจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน ความรู้สึกที่เรามีต่อพี่เสื้อดำตั้งแต่วันแรกก็ยังคงอยู่ ยิ่งครั้งแรกที่เห็นว่าสายเรียกเข้าเป็นชื่อพี่เสื้อดำ โอ้ยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!หัวใจสั่นเลยจ้า รับสายแบบมือสั่นเสียงสั่น ดีใจเป็นที่สุด นับว่าเป็นการทักทายแบบได้ยินเสียงกันเป็นครั้งแรก หลังจากวันนั้นเราก็เริ่มคุยกันบ่อยขึ้น แอบมีวิดิโอคอลมาให้เห็นหน้าเห็นตากัน เขิลหนักกว่าตอนได้ยินแต่เสียงอีกจ้า
คำถามที่พี่เขาถามเราตอนคุยกันคือ " ทำไมไม่บอกชอบพี่ต้องแต่ตอนนั้น " เราเลยคิดว่าถ้าบอกชอบพี่เขาไปตอนนั้น อาจจะไม่ได้มาคุยกันแบบวันนี้ก็ได้ มาถึงวันนี้เรากล้าที่จะบอกความรู้สึกกับพี่เขา คิดแค่ว่าบอกดีกว่าไม่บอก บอกไปแล้วเสียใจทีหลังยังดีซะกว่า แต่การคุยกันไปเรื่อยๆในทุกๆวันมันจะทำให้ความรู้สึกมันมากขึ้นรึเปล่าเราเริ่มไม่มั่นใจแล้ว คุยกัยทุกวัน คอยห่วงใยกันแต่ไม่มีสถานะให้กันมันมีอยู่จริงๆใช่มั๊ย???????
แอบชอบรุ่นพี่
เรื่องมันมีอยู่ว่า.....ย้อนเวลาไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว เราเข้าไปเป็นนักศึกษาน้องใหม่ปี 1 ในมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝัน ระหว่างช่วงเวลาที่มีกิจกรรมรับน้อง เราก็เกิดสบตากับรุ่นพี่เสื้อดำที่ดุแสนดุคนนึง หัวใจเต้นแรงยังกับใครมาตีกลองอยู่ข้างใน แอบปลื้มพี่เสื้อดำแสนดุคนนั้นจนพี่เขาเรียนจบ เราเคยถ่ายรูปกับพี่เขาครั้งนึง แต่เป็นรูปที่ถ่ายกัน 3 คน เอาจริงๆคืออยากถ่ายคู่แหละแต่ด้วยความที่เราเป็นเด็กผู้หญิงใสๆอ่ะเนอะ ไม่กล้าจ้าาาาา ลากเพื่อนมาอยู่ในเฟรมด้วย 5555
หลังจากเราเรียนจบก็ไม่เคยเจอพี่เสื้อดำคนนั้นอีกเลย จนวันนึงได้มีโอกาสทักทายกันในเฟสบุ๊ค การกลับมาคุยกันครั้งนี้มันทำให้หัวใจเราพองโตและเต้นรัวๆๆๆมากกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรกตอน 16 ปีที่แล้วอีกนะ เริ่มจากการทักทายกัน ถามไถ่ทุกข์สุขกัน แล้ววันนึงพี่เสื้อดำคนนั้นก็ทักมาขอเบอร์เรา หึ้ยยยยยยยย ยิ้มจนแก้มจะแตก เขิลจนไม่รู้จะเอามือวางไว้ตรงไหน เคยเป็นมั๊ยหล่ะที่เขิลจนไม่สามารถจัดระเบียบร่างกายตัวเองได้น่ะ 55555
ถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 3 เดือนแล้วที่คุยกันมาเรื่อยๆ ถามไถ่ทุกข์สุข ห่วงใยกัน ถึงเวลามันจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน ความรู้สึกที่เรามีต่อพี่เสื้อดำตั้งแต่วันแรกก็ยังคงอยู่ ยิ่งครั้งแรกที่เห็นว่าสายเรียกเข้าเป็นชื่อพี่เสื้อดำ โอ้ยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!หัวใจสั่นเลยจ้า รับสายแบบมือสั่นเสียงสั่น ดีใจเป็นที่สุด นับว่าเป็นการทักทายแบบได้ยินเสียงกันเป็นครั้งแรก หลังจากวันนั้นเราก็เริ่มคุยกันบ่อยขึ้น แอบมีวิดิโอคอลมาให้เห็นหน้าเห็นตากัน เขิลหนักกว่าตอนได้ยินแต่เสียงอีกจ้า
คำถามที่พี่เขาถามเราตอนคุยกันคือ " ทำไมไม่บอกชอบพี่ต้องแต่ตอนนั้น " เราเลยคิดว่าถ้าบอกชอบพี่เขาไปตอนนั้น อาจจะไม่ได้มาคุยกันแบบวันนี้ก็ได้ มาถึงวันนี้เรากล้าที่จะบอกความรู้สึกกับพี่เขา คิดแค่ว่าบอกดีกว่าไม่บอก บอกไปแล้วเสียใจทีหลังยังดีซะกว่า แต่การคุยกันไปเรื่อยๆในทุกๆวันมันจะทำให้ความรู้สึกมันมากขึ้นรึเปล่าเราเริ่มไม่มั่นใจแล้ว คุยกัยทุกวัน คอยห่วงใยกันแต่ไม่มีสถานะให้กันมันมีอยู่จริงๆใช่มั๊ย???????