หลังงานศพของชัชวาลผ่านไปหลายวัน โลกของยามินทร์ยังคงถูกคลุมด้วยความว่างเปล่า เขาพยายามไม่หลับ ไม่อยากเผชิญหน้ากับสิ่งที่อาจจะรออยู่ในความฝันนั้นอีก แต่ในที่สุดร่างกายที่เหนื่อยล้าก็ทรยศเขา ดึงจิตตกลงไปในห้วงแห่งความมืดอีกครั้ง
ครั้งนี้ เขาพบว่าตัวเองยืนอยู่ในโรงแรมร้าง—อาคารสูงใหญ่ที่เคยหรูหราแต่ตอนนี้เหลือเพียงร่องรอยอาคารที่แตกร้าวและกลิ่นอับชื้น โถงทางเดินทอดยาวไร้สิ้นสุด หลอดไฟเหนือศีรษะกะพริบติดดับเป็นจังหวะ เสียงไฟฟ้าซ่าแผ่ว ๆ ดังคล้ายเสียงหายใจของใครบางคนที่ซ่อนในเงามืด
กลิ่นฝุ่นและพรมเก่าผสมกับกลิ่นเปรี้ยวเหมือนน้ำเน่า ทำให้ทุกลมหายใจขมปร่าในลำคอ พื้นพรมสีหม่นคล้ายซับเอาคราบน้ำเก่าจนกลายเป็นรอยด่างคล้ำเหมือนเลือดแห้ง
เบื้องหน้า เขาเห็นประตูสีดำบานหนึ่ง—ตัวเลขเหล็กบนป้ายชัดเจน
403
ประตูนั้นเหมือนหายใจอยู่ในความมืด เงาของมันดูหนากว่าบรรยากาศรอบข้าง
และที่หน้าประตู...มีผู้หญิงคนหนึ่งคุกเข่าร้องไห้ ร่างเธอสั่นสะท้านเหมือนจะพังลงทุกขณะ เสียงสะอึกสะอื้นสะท้อนก้องในโถงทางเดินอันว่างเปล่า ดังก้องจนเสียวสันหลัง
เธอสวมชุดพนักงานโรงแรมที่ เปื้อนฝุ่นและคราบบางอย่างเหมือนถูกลากไปตามพื้นน้ำสกปรก น้ำตาของเธอไหลพรั่งพรูจนซึมเปื้อน เสื้อผ้าที่ครั้งหนึ่งอาจเคยสะอาดกลับดูเหมือนชุดของคนที่ติดอยู่ที่นี่มานานแสนนาน
“ฉันไม่อยากหายไป…ไม่อยาก…”
เสียงของเธอพร่าแตกเหมือนพูดผ่านผนังบาง ๆ ที่กั้นระหว่างความจริงกับความฝัน
ยามินทร์ก้าวช้า ๆ เข้าไป มือเอื้อมออกหมายจะสัมผัสไหล่เธอ แต่ทันใดนั้น—
ตึง! ตึง! ตึง!
เสียงเคาะประตูดังสนั่นจากด้านใน 403 ราวกับใครบางคนกำลังทุบออกมา แรงสั่นสะเทือนทำให้ฝุ่นบนเพดานร่วงกราวลงมาเหมือนฝน
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาเบิกกว้างจนเห็นเส้นเลือดฝอยแดงฉาน เธอมองตรงเข้ามาที่ยามินทร์—ความกลัวในสายตานั้นไม่ใช่เพียงความกลัวตาย แต่เป็นความหวาดผวาเหมือนเธอรู้จักสิ่งที่อยู่หลังประตูนั่นดี
“ช่วยด้วย…” เธอเอ่ยเสียงขาดห้วง—เพียงคำนั้น คำเดียว
ก่อนที่ประตูสีดำจะเปิดออกเองอย่างช้า ๆ พร้อมเสียงเหล็กครูดก้อง
กลุ่มควันพวยพุ่งออกมา ทั้งดำ ทั้งขาว ทั้งแดง สลับกันจนจับตาไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วคือสีใด มันพุ่งเข้าหาหญิงสาวในพริบตา ราวกับมือมหึมาที่มองไม่เห็นกระชากเธอเข้าไป
เสียงกรีดร้องของเธอดังลั่น แหลมสูงจนทำให้หูอื้อ แต่ร่างนั้นกลับถูกกลืนหายไปในควันหนาทึบในเสี้ยววินาที เหลือเพียงความว่างเปล่าและเสียงสะท้อนที่ค่อย ๆ ห่างออกไปจนแทบกลายเป็นเสียงลม
ยามินทร์ยืนตัวแข็ง ไม่สามารถก้าวหรือแม้แต่จะกรีดร้องตามออกมาได้
และสิ่งสุดท้ายที่เขามองเห็นก่อนทุกอย่างดับวูบลง—
ตัวเลข
403 ที่เริ่มละลาย ร่วงหล่นเหมือนโลหะร้อนจัด ก่อนเปลี่ยนเป็น
404
เลขที่เหมือนจะบอกว่า…เขาคือรายต่อไป
รุ่งเช้า ยามินทร์สะดุ้งตื่น เหงื่อเย็นชุ่มแผ่นหลังอีกครั้ง หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมานอกอก
เขาพยายามบอกตัวเองว่านั่นก็แค่ฝัน…แต่ภาพน้ำตาของหญิงสาวและเสียงประตูที่ถูกเคาะกลับติดค้างอยู่ในสมองเหมือนแผลเป็นที่ไม่จางหาย
จนเมื่อเขานั่งอยู่ในร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัย จอทีวีที่แขวนบนผนังรายงานข่าว—
“พนักงานสาวโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนานกว่าหนึ่งสัปดาห์........”
ภาพใบหน้าที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้มินตัวชา ร่างกายเย็นวาบตั้งแต่ต้นคอลงมาจนถึงปลายเท้า
เธอคือ
คนเดียวกับที่เขาเห็นในฝันเมื่อคืน
คืนนั้น เขารีบกลับห้อง เปิดโน้ตบุ๊กและพิมพ์ทุกอย่างลงในบล็อกด้วยมือที่สั่นไม่หยุด
นี่ไม่ใช่เพียงความฝันที่บอกเหตุร้ายกับคนใกล้ตัวอีกต่อไป แต่คือการพัวพันกับคนที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน—และสิ่งที่เกิดขึ้นก็
จริง
ไม่ช้า คอมเมนต์เริ่มปรากฏใต้โพสต์
บางคนบอกว่า “เคยฝันถึงประตูดำเหมือนกัน”
บางคนเขียนว่า “อย่าเปิดประตูนั้น”
บางคนทิ้งคำไว้สั้น ๆ แต่กรีดลึกลงไปถึงขั้วหัวใจเขา..
AUSA369:
“เราต้องคุยกัน ถ้านายไม่อยากเป็นรายต่อไป”
Macha407:
“นายก็เห็นมันแล้วใช่ไหม… ประตูของฉันคือ 407”
คำเหล่านี้ทำให้ห้องที่มืดเงียบของมินเหมือนแคบลงทุกที หัวใจเขากระหน่ำเต้นรัว เหมือนเสียงประตูสีดำที่เริ่มเคาะขึ้นมาอีกครั้งในความมืด…
บันทึกฝันที่ 404 ตอนที่ 5 ผู้หญิงห้อง 403
ครั้งนี้ เขาพบว่าตัวเองยืนอยู่ในโรงแรมร้าง—อาคารสูงใหญ่ที่เคยหรูหราแต่ตอนนี้เหลือเพียงร่องรอยอาคารที่แตกร้าวและกลิ่นอับชื้น โถงทางเดินทอดยาวไร้สิ้นสุด หลอดไฟเหนือศีรษะกะพริบติดดับเป็นจังหวะ เสียงไฟฟ้าซ่าแผ่ว ๆ ดังคล้ายเสียงหายใจของใครบางคนที่ซ่อนในเงามืด
กลิ่นฝุ่นและพรมเก่าผสมกับกลิ่นเปรี้ยวเหมือนน้ำเน่า ทำให้ทุกลมหายใจขมปร่าในลำคอ พื้นพรมสีหม่นคล้ายซับเอาคราบน้ำเก่าจนกลายเป็นรอยด่างคล้ำเหมือนเลือดแห้ง
เบื้องหน้า เขาเห็นประตูสีดำบานหนึ่ง—ตัวเลขเหล็กบนป้ายชัดเจน 403
ประตูนั้นเหมือนหายใจอยู่ในความมืด เงาของมันดูหนากว่าบรรยากาศรอบข้าง
และที่หน้าประตู...มีผู้หญิงคนหนึ่งคุกเข่าร้องไห้ ร่างเธอสั่นสะท้านเหมือนจะพังลงทุกขณะ เสียงสะอึกสะอื้นสะท้อนก้องในโถงทางเดินอันว่างเปล่า ดังก้องจนเสียวสันหลัง
เธอสวมชุดพนักงานโรงแรมที่ เปื้อนฝุ่นและคราบบางอย่างเหมือนถูกลากไปตามพื้นน้ำสกปรก น้ำตาของเธอไหลพรั่งพรูจนซึมเปื้อน เสื้อผ้าที่ครั้งหนึ่งอาจเคยสะอาดกลับดูเหมือนชุดของคนที่ติดอยู่ที่นี่มานานแสนนาน
“ฉันไม่อยากหายไป…ไม่อยาก…”
เสียงของเธอพร่าแตกเหมือนพูดผ่านผนังบาง ๆ ที่กั้นระหว่างความจริงกับความฝัน
ยามินทร์ก้าวช้า ๆ เข้าไป มือเอื้อมออกหมายจะสัมผัสไหล่เธอ แต่ทันใดนั้น—
ตึง! ตึง! ตึง!
เสียงเคาะประตูดังสนั่นจากด้านใน 403 ราวกับใครบางคนกำลังทุบออกมา แรงสั่นสะเทือนทำให้ฝุ่นบนเพดานร่วงกราวลงมาเหมือนฝน
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาเบิกกว้างจนเห็นเส้นเลือดฝอยแดงฉาน เธอมองตรงเข้ามาที่ยามินทร์—ความกลัวในสายตานั้นไม่ใช่เพียงความกลัวตาย แต่เป็นความหวาดผวาเหมือนเธอรู้จักสิ่งที่อยู่หลังประตูนั่นดี
“ช่วยด้วย…” เธอเอ่ยเสียงขาดห้วง—เพียงคำนั้น คำเดียว
ก่อนที่ประตูสีดำจะเปิดออกเองอย่างช้า ๆ พร้อมเสียงเหล็กครูดก้อง
กลุ่มควันพวยพุ่งออกมา ทั้งดำ ทั้งขาว ทั้งแดง สลับกันจนจับตาไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วคือสีใด มันพุ่งเข้าหาหญิงสาวในพริบตา ราวกับมือมหึมาที่มองไม่เห็นกระชากเธอเข้าไป
เสียงกรีดร้องของเธอดังลั่น แหลมสูงจนทำให้หูอื้อ แต่ร่างนั้นกลับถูกกลืนหายไปในควันหนาทึบในเสี้ยววินาที เหลือเพียงความว่างเปล่าและเสียงสะท้อนที่ค่อย ๆ ห่างออกไปจนแทบกลายเป็นเสียงลม
ยามินทร์ยืนตัวแข็ง ไม่สามารถก้าวหรือแม้แต่จะกรีดร้องตามออกมาได้
และสิ่งสุดท้ายที่เขามองเห็นก่อนทุกอย่างดับวูบลง—
ตัวเลข 403 ที่เริ่มละลาย ร่วงหล่นเหมือนโลหะร้อนจัด ก่อนเปลี่ยนเป็น 404
เลขที่เหมือนจะบอกว่า…เขาคือรายต่อไป
รุ่งเช้า ยามินทร์สะดุ้งตื่น เหงื่อเย็นชุ่มแผ่นหลังอีกครั้ง หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมานอกอก
เขาพยายามบอกตัวเองว่านั่นก็แค่ฝัน…แต่ภาพน้ำตาของหญิงสาวและเสียงประตูที่ถูกเคาะกลับติดค้างอยู่ในสมองเหมือนแผลเป็นที่ไม่จางหาย
จนเมื่อเขานั่งอยู่ในร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัย จอทีวีที่แขวนบนผนังรายงานข่าว—
“พนักงานสาวโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนานกว่าหนึ่งสัปดาห์........”
ภาพใบหน้าที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้มินตัวชา ร่างกายเย็นวาบตั้งแต่ต้นคอลงมาจนถึงปลายเท้า
เธอคือ คนเดียวกับที่เขาเห็นในฝันเมื่อคืน
คืนนั้น เขารีบกลับห้อง เปิดโน้ตบุ๊กและพิมพ์ทุกอย่างลงในบล็อกด้วยมือที่สั่นไม่หยุด
นี่ไม่ใช่เพียงความฝันที่บอกเหตุร้ายกับคนใกล้ตัวอีกต่อไป แต่คือการพัวพันกับคนที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน—และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ จริง
ไม่ช้า คอมเมนต์เริ่มปรากฏใต้โพสต์
บางคนบอกว่า “เคยฝันถึงประตูดำเหมือนกัน”
บางคนเขียนว่า “อย่าเปิดประตูนั้น”
บางคนทิ้งคำไว้สั้น ๆ แต่กรีดลึกลงไปถึงขั้วหัวใจเขา..
AUSA369:
“เราต้องคุยกัน ถ้านายไม่อยากเป็นรายต่อไป”
Macha407:
“นายก็เห็นมันแล้วใช่ไหม… ประตูของฉันคือ 407”
คำเหล่านี้ทำให้ห้องที่มืดเงียบของมินเหมือนแคบลงทุกที หัวใจเขากระหน่ำเต้นรัว เหมือนเสียงประตูสีดำที่เริ่มเคาะขึ้นมาอีกครั้งในความมืด…