ขอขอบคุณเพจ สมรภูมิสตาลินกราด & แนวรบด้านตะวันออก อย่างสูงครับ

https://www.facebook.com/saranovalex/?ref=page_internal



ช่วงสงครามโลกในการเข้าตีฐานที่มั่นศัตรูที่มีการดัดแปลงที่มั่นแน่นหนา โดยเฉพาะด้วยคอนกรีตเสริมใยเหล็กนั้น หากยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ขนาดปรกติ 75มม. 105มม. 120 มม.150มม.หรือเครื่องบินทิ้งระเบิด ส่วนมากจะไม่สามารถทำอะไรเป้าหมายบังเกอร์ทีมีความแข็งแรงสูงได้
เยอรมันจึงคิดค้นปืนใหญ่ขนาดใหญ่ที่สามารถยิงกระสุนเจาะเกราะหรือกระสุนระเบิดแรงสูง เพื่อทำลายฐานที่มั่นที่แข็งแรงของศัตรู
หนึ่งในนวัตกรรมทางทหารคือ ปืนยิงกระสุนวิถีโค้งแบบ Karl Garat 040 ด้วยลำกล้องขนาด 600 มม. หรือ 60 ซม. ปืน ค.นี้สามารถยิงกระสุนปืนหนักกว่า 2 ตัน ออกไปได้ถึงเกือบ 6 กิโลเมตร และเจาะแผ่นคอนกรีตเสริมใยเหล็กได้หนาถึง 2.5 เมตร
อัตราการยิงประมาณ 10 นาทีต่อ 1 นัด
พลประจำปืน ค. 21 นาย
ปืน ค. อัตตาจรนี้เนื่องจากเชื่องช้าและเกาะที่ไม่สามารถทนต่อกระสุนรถถังข้าศึกได้ จึงต้องมีหน่วยรบพิเศษหรือทหารราบคอยคุ้มกันปืน ค.
ปืน ค.อัตตาจรแบบ Karl Garat 040 ถูกใช้งานในการยิงถล่มป้อมค่าย หรือบังเกอร์ที่แข็งแรงของโซเวียตที่ ป้อมBrest และยิงถล่มที่เมือง Sevastopol
ปืนที่ถูกสร้างขึ้นมามีทั้งหมด 7 กระบอก แต่ละกระบอกมีชื่อเล่นของมัน เรียงชื่อจากกระบอกที่ 1-7
ชื่อในตำนาน หญิง ชาย คนแรกของศาสนาคริสต์
1. Adam
2. Eva (ยึดได้โดยสหรัฐ)
ชื่อเทพในตำนานสแกนดิเนเวีย
3. Thor
4. Odin (ยึดได้โดยโซเวียต)
5. Loki (ยึดได้โดยสหรัฐ)
6. Ziu (ยึดได้โดยโซเวียต)
7.ยังไม่มีชื่อ
กระบอกที่ 7 สร้างขึ้นมาท้ายสุดยังไม่ได้ใช้งานและถูกยึดในระหว่างการทดสอบ (ยึดได้โดยสหรัฐ)
ปืน ค. อัตตาจรแบบ Karl garat 040 ในภาพปัจจุบันที่ชื่อ Ziu ถูกทหารโซเวียตยึดได้และถูกนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ยานเกราะ Kubinka ทางตะวันตกของกรุงมอสโคว โดยมีการทาสีเปลี่ยนชื่อเป็น Adam แทน









จากการสอบถามข้อมูลเพื่อนชาวรัสเซียพบว่า ในปี 2012 มีการบูรณะ ปืน ค.อัตตาจรนี้ถูกบูรณะและทำสีใหม่ บนตัวกระบอกปืนพบว่ามีสีที่เขียนว่า Adam ทางรัสเซียจึงทำสีใหม่และเขียนว่า Adam ไว้ให้ชัดเจน
คาดเดาว่าตัวรถที่เป็นของ Ziu ในช่วงสงครามนั้นมีการเปลี่ยนลำกล้องปืนออกแล้วนำ ลำกล้องปืนของ Adam มาใส่แทน

https://en.wikipedia.org/wiki/Karl-Ger%C3%A4t