เด็กจบใหม่ยุคนี้ต้องเจอกับความกดดันเยอะมาก รับมือยังไงดี ?

เด็กจบใหม่ยุค COVID-19 นี้หางานก็ยากมากอยู่แล้ว ยังต้องเจอกับความกดดันรอบด้าน ไม่ว่าจะจากคนรอบตัว ครอบครัว ที่ถาโถมมาสารพัดคำถาม “จบไปจะทำงานอะไร” “จบมาตั้งนานทำไมยังหางานทำไม่ได้” คำพูดพวกนี้อาจจะมาจากความเป็นห่วง แต่ในฐานะคนที่ต้องคอยฟังคำแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ก็ไม่แปลกเลยว่าทำไมเราถึงมีความรู้สึกกดดันที่เกิดจากการคาดหวังและถูกคาดหวังอยู่ตลอดเวลา 

กระทู้นี้ JobThai Tips จะเอาวิธีรับมือเพื่อจัดการความเครียดและความกดดันมาฝาก 
 
ลองแลกเปลี่ยนทัศนคติกับคนรอบข้าง 
คนรอบตัวเราเป็นคนแรก ๆ ที่เราควรพูดคุยและปรึกษาด้วย เพราะความคาดหวังที่มากเกินไปอาจทำร้ายเราได้ ลองหาเวลามาแลกเปลี่ยนทัศนคติกันว่าเราอยากทำอะไรไม่อยากทำอะไร เพื่อที่สุดท้ายเราจะได้มาเจอกันตรงกลาง ลดความคาดหวังลงและเปิดโอกาสให้เราเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และบางปัญหาเราก็ไม่สามารถข้ามไปได้ด้วยตัวคนเดียว การได้ลองแลกเปลี่ยนทัศนคติกับคนรอบข้างบ้าง เราอาจจะเจอวิธีแก้ปัญหาที่เราคาดไม่ถึงก็ได้  
   
พยายามไม่กดดันตัวเองจนมากเกินไป  
เราอาจจะไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่คนอื่นพูดกับเราได้ แต่เราสามารถปรับที่ตัวเองได้ เริ่มต้นจากการพยายามไม่กดดันตัวเองมากเกินไป บางคนอาจใช้ความกดดันเล็กน้อยเพื่อผลักให้ตัวเองพัฒนา แต่อย่ากดดันตัวเองมากไป เช่น การใช้คำพูดที่ดูถูกตัวเองบ่อยครั้งอาจจะทำให้เรากลายเป็นคนที่ไม่กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ  เพราะคิดว่ายังไงเราก็ทำไม่ได้ ลองแก้ด้วยการมองหาข้อด้อยของตัวเอง ปรับปรุง และลดอคติในตัวเองให้น้อยลง ให้กำลังใจตัวเองมากขึ้น  
  
หาตัวเองให้เจอ  
หลายคนก็มีปัญหากับการ “หาตัวเองให้เจอ” บางคนไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร บางคนก็ชอบมันไปเสียทุกอย่าง หากจะเริ่มค้นหาตัวเอง ให้ลองมองตัวเองว่าทำอะไรแล้วมีความสุข และจะสามารถต่อยอดมาเป็นอาชีพได้ไหม ลองผิดลองถูกด้วยตัวเองดู ไม่ว่าจะเจอเร็วเจอช้า แต่เราจะเจอสักวันแน่นอน 
 
อย่ารีบร้อนคว้าโอกาสที่เร็วที่สุด เพื่อขจัดความกดดันให้หมดไป 
การรีบร้อนมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อชีวิตทำงานของเราได้ เพราะ “การรีบคว้าโอกาสที่เข้ามาเร็วที่สุด อาจทำให้เราพลาดโอกาสที่ดีที่สุด” ดังนั้น ค่อย ๆ มองหางานที่เราชอบ และต้องนำเสนอตัวเองให้เป็น เช่น ใส่ใจรายละเอียดในการทำเรซูเม่ให้ตรงกับงานนั้น ๆ ก็จะช่วยให้โดดเด่นเข้าตา HR ได้ 
สำหรับเด็กจบใหม่ยุคนี้เราจะได้ยินหลาย ๆ คนบอกว่ามีงานอะไรก็ต้องคว้าไว้ก่อน แต่การเลือกงานแรกจะเป็นเส้นทางที่จะช่วยต่อยอดให้เรา ดังนั้นถ้างานแรกไม่ได้เลือกงานที่เราชอบ แต่อย่างน้อยก็อยากจะให้ดูเนื้องานที่ว่าสอดคล้องกับสายอาชีพที่เราอยากทำในอนาคตไหม เพราะเราจะได้มีทักษะต่าง ๆ ต่อยอดกับงานถัด ๆ ไปของเรานั่นเอง 
  
หลาย ๆ ครั้งเราก็มักจะนึกย้อนกลับไปในอดีตและคิดว่าถ้าทำแบบนั้นคงดีกว่า แต่ในชีวิตจริงเราไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสำคัญหรือไม่ หรือไตร่ตรองมาดีแค่ไหน หน้าที่ของเราก็คือการยอมรับในการตัดสินใจของตัวเอง ถึงแม้จะกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เราจะได้เรียนรู้จากการตัดสินใจครั้งนั้น และจะทำมันได้ดีในครั้งต่อไป 

สุดท้ายเราเชื่อว่าปัญหาที่เด็กจบใหม่ต้องเจออาจจะมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางบ้าน หรือข้อจำกัดมากมายในการทำงานที่ต้องข้ามผ่าน ลองเปิดตัวเองให้มากขึ้น รับมุมมองและความคิดเห็นใหม่ ๆ  ลดอีโก้ให้น้อยลง หันมาดูข้อด้อยของตัวเอง, ปรับปรุง และหมั่นฝึกฝนพัฒนาทักษะ ภูมิต้านทานความกดดันของเราจะมีมากขึ้น และไม่นานเราจะได้รับโอกาสที่เราต้องการ หรือไม่แน่เราอาจจะเจอความท้าทายอื่น ๆ ที่ทำให้เราได้ค้นพบด้านใหม่ ๆ ของตัวเองก็ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่