"จงปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานลงมา"

กระทู้สนทนา

ศาสนาอิสลาม อัลกุรอ่าน อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย

وَإِذَا قِيلَ لَهُمُ اتَّبِعُوا مَا أَنْزَلَ اللَّهُ قَالُوا بَلْ نَتَّبِعُ مَا أَلْفَيْنَا عَلَيْهِ آبَاءَنَا ۗ أَوَلَوْ كَانَ آبَاؤُهُمْ لَا يَعْقِلُونَ شَيْئًا وَلَا يَهْتَدُونَ {170}
[Shakir 2:170] And when it is said to them, Follow what Allah has revealed, they say: Nay! we follow what we found our fathers upon. What! and though their fathers had no sense at all, nor did they follow the right way.

{2:170} และเมื่อได้มีการกล่าวแก่พวกเขาว่า "จงปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานลงมา" พวกเขา(ตอบ)ว่า "ทว่าเราจะปฏิบัติตามเฉพาะสิ่งที่เราได้พบเห็นบรรพบุรุษของเราปฏิบัติ" ทั้ง ๆ ที่บรรพบุรุษของพวกเขาไม่ได้เข้าใจอะไรสักอย่าง และไม่ได้อยู่ในทางนำที่ถูกต้องกระนั้นหรือ?

1.ก่อนที่มุสลิมจะรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ จะต้องรัก เคารพ เชื่อฟัง อัลลอฮ์ และท่านรอซูลมูฮัมมัด
2.จะต้องยึดถือและศึกษาอัลกุรอานด้วยความเข้าใจความหมายและหลักปฏิบัติ ข้อห้าม ข้ออนุมัติ
3.จะต้องไม่นิ่งนอนใจ และจะต้องมีความละอายใจแสดงความรับผิดชอบ เมื่อเห็นมุสลิม ประพฤติผิดหลักศรัทธาของศาสนาอิสลาม
ต้องตักเตือน และแนะนำสิ่งที่ถูกต้อง
4.มีความเกรงกลัวอัลลอฮ์ ไม่ต้องเกรงกลัวและเกรงใจมุสลิมด้วยกัน เมื่อเห็นเขาปฏิบัติผิดหลักศรัทธาของอิสลาม จะต้องรักษาความยุติธรรม และความ
ถูกต้อง
5. ผู้ที่ไม่มีความเดือดร้อนในเรื่อง กอด จูบ สัมผัสก้อนหินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) นั้น คือผู้ที่ไม่มีความละอาย และเกรงกลัวต่ออัลลอฮ์ และไม่เข้าใจหลักศรัทธา
ของศาสนาอิสลาม และหรือมีความเกรงกลัวมนุษย์มากกว่าความศรัทธาที่มีต่ออัลลอฮ์
6. อย่าแก้ตัวแทนกัน โดยการอ้างแหล่งวิชาที่ไม่ใช่แหล่งวิชาที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้ และให้เหตุผลที่ขาตตรรกะ (อย่ามั่ว ตอบเพียงให้พ้นตัวเท่านั้น)

สิ่งที่สังคมมุสลิมจะต้องทำตามหลักศรัทธาของศาสนาอิสลามที่แท้จริง ตามคำสอนจากอัลกุรอาน ซึ่งเป็นแนวทางที่อัลลอฮ์ทรงวางไว้ให้มุสลิมปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นแหล่งวิชาเพียงแหล่งเดียวเท่านั้น ที่อัลลอฮ์ทรงบัญชาให้ท่านรอซูลมูฮัมมัดใช้สอนมุสลิม และอัลลอฮ์ทรงบัญชาให้มุสลิมเชื่อฟัง

รักใคร่เคารพนับถือท่านรอซูลมูฮัมมัด ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้มุสลิมทุกๆคนปฏิบัติตามคำสอนที่มาจากอัลกุรอาน ซึ่งเป็นข่าวสารที่สำคัญของอัลลอฮ์ ส่งผ่านท่านรอซูล มูฮัมมัดมาสู่มวลมนุษยชาติ

แต่ส่วนมากของมุสลิมหาได้ปฏิบัติตามคำสอนตามแนวทางอัลกุรอานของท่านรอซูลก็หาไม่ หลังจากท่านรอซูลสิ้นชีวิตไปแล้ว สังคมมุสลิมก็แตกแยกอกเป็นนิกายต่างๆ ประดิษคำสอนขึ้นมาใหม่เรียกว่าฮาดีษ ใช้ควบคู่ไปกับอัลกุรอาน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สายเกินแก้ มันอยู่ที่มุสลิมแต่ละคนที่จะใช้สิปัญญาศึกษาอัลกุรอาน และหาความรู้ทางศาสนาจากอัลกุรอานโดยตรง

ในปัจจุบันสิ่งที่เป็นปัญหาในสังคมมุสลิม ที่ทำให้มุสลิมส่วนใหญ่ประพฤติตนผิดไปจากหลักความศรัทธาต่ออัลลอฮ์ซึ่งเป็นพระเจ้าผู้สูงสุดในศาสนาอิสลาม และเป็นหลักศรัทธาที่สำคัญของมุสลิม ด่างพล้อยไปก็ได้ แก่ หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد‎/อัลฮาจะรุ อัลอัสวัด) หินดำนี้เป็นต้นเหตุแห่งความเข้าใจผิดของทั้งมุสลิมและ ผัที่ไม่ใช่มุสลิม แต่ไม่มีมุสลิมผู้ใดสนใจที่จะนำมาพิจารณาว่า การนำหินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) นี้ มาประดิษฐาน อยู่ที่มุมกะอ์บะห์ ใจกลางของมัสยิดอัลฮะรอมนั้นเหมาะสมหรือไม่ เพราะ หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) นี้มีฮาดีษของมุชริกอรับสนับสนุนความสำคัญของหินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) นี้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เนื้อหาของฮาดีษที่สนับสนุนความสำคัญของหินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد)ิ มีหลายอย่างที่ขัดกับหลักเตาฮีด อันเป็นหลักศรัทธาที่สำคัญที่สุดของศาสนาอิสลาม ที่ศรัทธาว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่สมควรจะกราบเคารพบูชานอกจากพระองอัลลอฮ์ พระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น และเป็นพระเจ้าองค์เดียวที่ไม่มีภาคีกับผู้ใด/สิ่งใด

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ความเข้าใจผิดของมุสลิมคือ ไม่เข้าใจว่าหินนี้มีความสำคัญมากกว่าการเป็นเครื่องหมายนับจำนวนรอบรอบในการเตาวัฟ แต่มันเป็นเครื่องหมายของการให้เกียรติท่านรอซูลมูฮัมมัด ที่ท่านเคยสัมผ้สและจูบมัน ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งในการแสดงการเคารพบูชาเจว็ดของมุชริกอรับก่อนการประทานอัลกุรอาน อีกอย่างที่มุสลิมส่วนมากขาดความรู้ในเรื่อง ฮาดีษที่เกี่ยวกับ หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) ว่าถ้ามุสลิมเชื่อตามฮาดีษดังกล่าว จะเป็นการสร้างภาคีหรือการทำชืริก

ความเข้าใจผิดของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมเข้าใจว่า มุสลิมแสดงความเคารพรัก หินดำ(ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد) ด้วยการกอดจูบ วัตถุไม่ต่างไปจากศาสนาที่บูชากราบไหว้รูปเคารพ (ฟังที่ นาฑี 7:14)