คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
คุณธรรมจริยธรรมต่างๆ ทุกอย่างก็แค่กุศลโลบายสิ่งสมมติที่ออกแบบสร้างขึ้น เพื่อให้สถาบันครอบครัว สังคม และประเทศชาติสงบสุข เพื่อการดำรงอยู่อย่างยั่งยืนของเผ่าพันธุ์มนุษย์
มนุษย์มีหน้าที่เกิดมาเพื่อส่งเสริมกันและกัน(หรือทำลายกันและกัน ทางใดทางหนึ่ง) การดูแลมนุษย์ชราไร้ความสามารถ ไร้สมรรถภาพ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พึงกระทำ เพื่อยืดอายุขัยของเหล่ามวลมนุษยชาติโดยรวม ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเพื่อการดำรงอยู่อย่างยั่งยืนของเผ่าพันธุ์มนุษย์
สรุป มนุษย์ทำไปทั้งหมดก็เพื่อผลประโยชน์ด้วยกันมนุษย์ด้วยกัน ถ้าไม่อยากให้เผ่าพันธุ์ตนเองสูญพันธุ์แบบไดโนเสาร์ก็ทำๆไปเถอะ
มนุษย์มีหน้าที่เกิดมาเพื่อส่งเสริมกันและกัน(หรือทำลายกันและกัน ทางใดทางหนึ่ง) การดูแลมนุษย์ชราไร้ความสามารถ ไร้สมรรถภาพ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พึงกระทำ เพื่อยืดอายุขัยของเหล่ามวลมนุษยชาติโดยรวม ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเพื่อการดำรงอยู่อย่างยั่งยืนของเผ่าพันธุ์มนุษย์
สรุป มนุษย์ทำไปทั้งหมดก็เพื่อผลประโยชน์ด้วยกันมนุษย์ด้วยกัน ถ้าไม่อยากให้เผ่าพันธุ์ตนเองสูญพันธุ์แบบไดโนเสาร์ก็ทำๆไปเถอะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
รู้สึกแปลก ๆ นะ เพราะเราเป็นคนรุ่นที่อายุได้เป็นย่าเป็นยายละ ทุกวันนี้ตื่นมาตอนเช้า ขอบคุณพ่อแม่ก่อนเลยที่ทำให้เกิดมา ที่ทำให้มีวันนี้ ต่อจากนั้นก็ขอบคุณแผ่นดินขอบคุณผู้มีคุณทั้งหลาย
ถ้าลูกหลานคิดแบบนั้นก็เท่ากับว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายายเลี้ยงเค้ามาแบบนั้น ไปโทษเค้าไม่ได้ มันจะมีน้อยมากเลยนะที่ถ้าเลี้ยงดูมาอย่างดีเอาใจใส่ให้ความรักแล้วเค้าจะมีความคิดแบบนั้นได้น่ะ
และความเห็นส่วนตัวเลยของเราถ้าลูกเราพูดแบบนั้นเราคงเสียใจอะเพราะเราทุ่มเทกับการเลี้ยงดูเค้าให้เติบโตมาเป็นคนดีของสังคมมาก เราละทิ้งรายได้ก้อนโตเพื่อจะใช้เวลาอยู่กับเค้าอบรมสั่งสอนเค้า สอนเค้าว่ายน้ำ สอนเค้าขี่จักรยาน สอนเค้าเล่นดนตรี เล่นกีฬา สอนทำการบ้าน ถ้าลูกมาพูดแบบนี้กับเราก็คงเสียใจและปลงว่าชาติที่แล้วคงทำกรรมอะไรไว้คงได้แต่ทำใจก้มหน้ารับกรรมนั้นนะ ให้มันหมดกรรมกันไปในชาตินี้จะได้ไม่ต้องก่อเวรก่อกรรมกันในชาติต่อ ๆ ไป
ถ้าลูกหลานคิดแบบนั้นก็เท่ากับว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายายเลี้ยงเค้ามาแบบนั้น ไปโทษเค้าไม่ได้ มันจะมีน้อยมากเลยนะที่ถ้าเลี้ยงดูมาอย่างดีเอาใจใส่ให้ความรักแล้วเค้าจะมีความคิดแบบนั้นได้น่ะ
และความเห็นส่วนตัวเลยของเราถ้าลูกเราพูดแบบนั้นเราคงเสียใจอะเพราะเราทุ่มเทกับการเลี้ยงดูเค้าให้เติบโตมาเป็นคนดีของสังคมมาก เราละทิ้งรายได้ก้อนโตเพื่อจะใช้เวลาอยู่กับเค้าอบรมสั่งสอนเค้า สอนเค้าว่ายน้ำ สอนเค้าขี่จักรยาน สอนเค้าเล่นดนตรี เล่นกีฬา สอนทำการบ้าน ถ้าลูกมาพูดแบบนี้กับเราก็คงเสียใจและปลงว่าชาติที่แล้วคงทำกรรมอะไรไว้คงได้แต่ทำใจก้มหน้ารับกรรมนั้นนะ ให้มันหมดกรรมกันไปในชาตินี้จะได้ไม่ต้องก่อเวรก่อกรรมกันในชาติต่อ ๆ ไป
ความคิดเห็นที่ 7
ตัวเราเองไม่มีลูกนะคะ แต่เราเคยทำงานอยู่ในสายเยาวชนด้วย เจอทั้งเด็กที่มีพร้อมด้านครอบครัวอบอุ่น เด็กที่ครอบครัวแตกแยก เด็กถูกทิ้ง ในทุกฐานะการเงิน เด็กอัจฉริยะ เด็กสติปัญญาปานกลาง หรือเด็กออทิสติก เด็กพิการ อื่มมม แต่นี่อ้างอิงสังคมยุกก่อนเข้าสู่โลกออนไลน์ขนาดหนักอย่างปัจจุบันนี้นะ
คือคนที่มีความคิดว่า พ่อแม่เพียงทำให้เขาเกิดมา ...บางคนว่าด้วยความสนุกของพ่อแม่ ...บางคนว่าด้วยความอยากได้ลูกของพ่อแม่เอง หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วบอกว่า ตัวเขาไม่ได้อยากมาเกิดเองเสียหน่อย แล้วการที่พ่อแม่เลี้ยงดูเขา มันก็เป็นหน้าที่ของพ่อแม่
ดังนั้น ...เขาไม่จำเป็นต้องแสดงความกตัญญู หรือตอบแทนอะไร
ยิ่งถ้าพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงดูอย่างดี เช่น ครอบครัวยากจน พ่อแม่ทะเลาะกัน หย่าร้าง พ่อแม่ทำร้ายจิตใจ หรือทำร้ายร่างกาย หรือแย่สุดคือถูกล่วงละเมิดทางเพศ
เด็กเหล่านี้ที่คิดผิด ...เขาน่าสงสารค่ะ ถ้ายังพอมีทางพูดคุนกันได้ ก็จะบอกเขา แต่ก็ทำใจส่วนหนึ่งว่า มันเป็นกรรมของเขาเองอยู่แล้วด้วย
ถ้าศึกษาเรื่องกรรม ก็คงทราบแล้วว่า ทำอะไรก็จะได้อย่างนั้น และ ผลที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เกิดจากเหตุที่เคยทำไว้ ...เด็กที่เกิดมาแล้วเห็นผิดเป็นชอบ คือเขาเคยทำกรรมให้หลงผิดไว้ และเมื่อเขายังมาทำกรรมไม่ดี คือตามที่ จขกท.ตั้งโจทย์ไว้คือ พูดกับบุพการีดังว่า
...เป็น มโนกรรม+วจีกรรม แน่นอนว่า เขาก็จะต้องรับกรรมในทางไม่ดีเกี่ยวกับครอบครัวในอนาคตต่อไป เขาอาจจะเจอลูกหลานคนรอบตัวพูดทำร้ายจิตใจ ทอดทิ้ง หรือคอบครัวแตกแยกทุกครั้ง ซึ่งอาจเกิดตอนปลายอายุ หรือชาติต่อๆไป ซึ่งเขาจำไม่ได้แล้วว่าเหตุไรเขาจึงต้องมาพบเรื่องอย่างนี้ ซ้ำๆซากๆ แล้วเขาก็จะทุกข์และโทษโชคชะตาฟ้าดินไปเรื่อย น่าสงสารไหมคะ
แล้วที่บอกว่า "ไม่อยากมาเกิด..." คือ ถ้าคุณเก่งขนาดเลือกได้ว่า จะไม่เกิดอีกต่อไป มันก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่ปุถุชนคนธรรมดา ยังต้องเกิดอีกแน่นอน ไม่รู้อีกกี่ชาติ ... คุณได้เกิดมาในพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์นี่ โชคดีแค่ไหนแล้ว ต้องขอบพระคุณท่านมากแค่ไหนแล้ว ลองนึกดูว่า ไปเกิดเป็นลูกหมู ลูกหมา ลูกปลา ลูกงู หรือลูกหมีแพนด้า ลูกโคอาล่า จะได้ดีเท่าเป็นลูกพ่อแม่คุณเหรอ
ฝากถึงพ่อแม่ทุกท่านด้วยค่ะ นึกว่าเมตตายุวชนรุ่นหลัง ถ้ายังพอชี้ทางที่ถูกที่ควรได้ พูดกับเขา อธิบายเขา เพื่อตัวเขาเองด้วย ...บางทีพอแม่หลายคนกลับเห็นดีเห็นงามตามสมัยใหม่ว่า ลูกไม่ต้องตอบแทนพ่อแม่ก็ได้ นั่นท่านนึกหวังดีต่อลูกแค่ชั้นเดียวค่ะ มันแค่ประเดี๋ยวประด๊าว...แค่ลูกไม่ต้องเปลืองทรัพย์เปลืองเวลา แต่ท่านได้ปิดโอกาสลูกที่จะสร้างสมความดี หรือเรียกว่า บุญ ก็ได้ เสบียง ก็ได้ ที่จะช่วยให้เขามีความสุข ความเจริญในชีวิตต่อไป ถ้าเขาทำอย่างนั้น(คือไม่เห็นบุญคุณพ่อแม่) แล้วเขาจะต้องตกระกำลำบาก ไม่ทราบว่า พ่อแม่ จะยอกทวงบุญคุณ เพื่อให้ลูกได้มีโอกาสทำบุญไหมคะ
และ พระท่านก็ยืนยันแล้วว่า คนที่รู้จักกตัญญูเท่านั้น จะมีชีวิตที่เจริญ
นี่คือความรู้สึกของเรา เวลาที่เห็นกระทู้ทำนองนี้ค่ะ ถ้าบอกได้ จะช่วยพยายามบอก แต่สุดท้าย เจ้าตัวจะเลือกไปทางไหน ก็ต้องเขาเลือกเองค่ะ
คือคนที่มีความคิดว่า พ่อแม่เพียงทำให้เขาเกิดมา ...บางคนว่าด้วยความสนุกของพ่อแม่ ...บางคนว่าด้วยความอยากได้ลูกของพ่อแม่เอง หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วบอกว่า ตัวเขาไม่ได้อยากมาเกิดเองเสียหน่อย แล้วการที่พ่อแม่เลี้ยงดูเขา มันก็เป็นหน้าที่ของพ่อแม่
ดังนั้น ...เขาไม่จำเป็นต้องแสดงความกตัญญู หรือตอบแทนอะไร
ยิ่งถ้าพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงดูอย่างดี เช่น ครอบครัวยากจน พ่อแม่ทะเลาะกัน หย่าร้าง พ่อแม่ทำร้ายจิตใจ หรือทำร้ายร่างกาย หรือแย่สุดคือถูกล่วงละเมิดทางเพศ
เด็กเหล่านี้ที่คิดผิด ...เขาน่าสงสารค่ะ ถ้ายังพอมีทางพูดคุนกันได้ ก็จะบอกเขา แต่ก็ทำใจส่วนหนึ่งว่า มันเป็นกรรมของเขาเองอยู่แล้วด้วย
ถ้าศึกษาเรื่องกรรม ก็คงทราบแล้วว่า ทำอะไรก็จะได้อย่างนั้น และ ผลที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เกิดจากเหตุที่เคยทำไว้ ...เด็กที่เกิดมาแล้วเห็นผิดเป็นชอบ คือเขาเคยทำกรรมให้หลงผิดไว้ และเมื่อเขายังมาทำกรรมไม่ดี คือตามที่ จขกท.ตั้งโจทย์ไว้คือ พูดกับบุพการีดังว่า
...เป็น มโนกรรม+วจีกรรม แน่นอนว่า เขาก็จะต้องรับกรรมในทางไม่ดีเกี่ยวกับครอบครัวในอนาคตต่อไป เขาอาจจะเจอลูกหลานคนรอบตัวพูดทำร้ายจิตใจ ทอดทิ้ง หรือคอบครัวแตกแยกทุกครั้ง ซึ่งอาจเกิดตอนปลายอายุ หรือชาติต่อๆไป ซึ่งเขาจำไม่ได้แล้วว่าเหตุไรเขาจึงต้องมาพบเรื่องอย่างนี้ ซ้ำๆซากๆ แล้วเขาก็จะทุกข์และโทษโชคชะตาฟ้าดินไปเรื่อย น่าสงสารไหมคะ
แล้วที่บอกว่า "ไม่อยากมาเกิด..." คือ ถ้าคุณเก่งขนาดเลือกได้ว่า จะไม่เกิดอีกต่อไป มันก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่ปุถุชนคนธรรมดา ยังต้องเกิดอีกแน่นอน ไม่รู้อีกกี่ชาติ ... คุณได้เกิดมาในพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์นี่ โชคดีแค่ไหนแล้ว ต้องขอบพระคุณท่านมากแค่ไหนแล้ว ลองนึกดูว่า ไปเกิดเป็นลูกหมู ลูกหมา ลูกปลา ลูกงู หรือลูกหมีแพนด้า ลูกโคอาล่า จะได้ดีเท่าเป็นลูกพ่อแม่คุณเหรอ
ฝากถึงพ่อแม่ทุกท่านด้วยค่ะ นึกว่าเมตตายุวชนรุ่นหลัง ถ้ายังพอชี้ทางที่ถูกที่ควรได้ พูดกับเขา อธิบายเขา เพื่อตัวเขาเองด้วย ...บางทีพอแม่หลายคนกลับเห็นดีเห็นงามตามสมัยใหม่ว่า ลูกไม่ต้องตอบแทนพ่อแม่ก็ได้ นั่นท่านนึกหวังดีต่อลูกแค่ชั้นเดียวค่ะ มันแค่ประเดี๋ยวประด๊าว...แค่ลูกไม่ต้องเปลืองทรัพย์เปลืองเวลา แต่ท่านได้ปิดโอกาสลูกที่จะสร้างสมความดี หรือเรียกว่า บุญ ก็ได้ เสบียง ก็ได้ ที่จะช่วยให้เขามีความสุข ความเจริญในชีวิตต่อไป ถ้าเขาทำอย่างนั้น(คือไม่เห็นบุญคุณพ่อแม่) แล้วเขาจะต้องตกระกำลำบาก ไม่ทราบว่า พ่อแม่ จะยอกทวงบุญคุณ เพื่อให้ลูกได้มีโอกาสทำบุญไหมคะ
และ พระท่านก็ยืนยันแล้วว่า คนที่รู้จักกตัญญูเท่านั้น จะมีชีวิตที่เจริญ
นี่คือความรู้สึกของเรา เวลาที่เห็นกระทู้ทำนองนี้ค่ะ ถ้าบอกได้ จะช่วยพยายามบอก แต่สุดท้าย เจ้าตัวจะเลือกไปทางไหน ก็ต้องเขาเลือกเองค่ะ
แสดงความคิดเห็น
"ไม่ได้อยากเกิดู พ่อแม่ทำให้เกิดเอง"
เพิ่มเติมว่าพ่อแม่ในกรณีนี้เป็นลักษณะพ่อแม่ทั่วไป รักลูก ดูแลรับผิดชอบลูก ไม่ได้ทิ้งขว้าง ทำสิ่งที่พ่อแม่ที่ดีทั่วไปทำ ไม่ใช่พ่อแม่ที่ทอดทิ้ง ไม่เอาใจใส่ดูแลด่าว่า หรือทุบตีทำร้ายลูกนะ
(ขยายความว่า "กคัญญ" คือการรู้บุญคุณ ยังไม่ถึงกับต้องทำอะไรตอบแทน ซึ่งต่างกับ "กตเวที" คือการตอบแทนบุญคุณ)
ส่วนตัวคิดว่าถึงแม้พ่อแม่เองจะไม่ได้คาดหวังให้ลูกต้องมาเลี้ยงดูตอนแก่หรือมาตอบแทนอะไร แต่คำพูดแบบนี้มันก็เจ็บนะและคงน่าเสียใจ แม้ว่าพ่อแม่จะทำให้เขาเกิด แต่ในเมื่อเลี้ยงดูด้วยความรักเอาใจใส่ ทำตามหน้าที่ของพ่อแม่ที่ดี แต่ลูกกลับมาพูดแบบนี้เหมือนไม่เห็นคุณค่าของความรัก มันก็น่าเศร้า