สุนัขเป็นโรคเบาหวาเป็นพิษ มีโอกาสรอดเยอะมั้ยคะ

ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ คือที่บ้านเลี้ยงสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลผสมชิสุไว้ตัวนึงซึ่งตัวจขกท.เนี่ยปกติไม่ได้อยู่บ้านค่ะเพราะเรียนต่างจังหวัดแล้วพอกลับบ้านมาก็จะมีโอกาสได้ดูและน้องหมาค่ะ โดยปกติจะให้น้องหมาทานอาหารเหมือนคนตั้งแต่รับมาเลี้ยงเลยค่ะตอนตอนนี้น้องอายุประมาณ10ขวบแล้ว แล้วเมื่อ2สัปดาห์ก่อนน้องก็อ้วกค่ะแล้วก็มีท้องเสียด้วยแต่ปกตอน้องไม่ค่อยป่วยเลยคิดว่าสัก2-3วันเดี๋ยวก็หาย แต่ไม่เลยค่ะวันต่อๆมาอ้วก2-3ครั้งค่ะ ก็เลยคิดว่ามันป่วยละเลยไปคลินิก คลินิกแรกหมอบอกว่า "เจ้าของเหมือนจะเจอปัญหาแล้วค่าน้ำตาลน้องขึ้นไป406(ปกติสุนัขจะอยู่ที่80-120) แล้วก็ค่าตับ(ไม่แน่ใจ)300+ แล้วก็เม็ดเลือดขาวปกติของสุนัขจะอยู่ที่15000แต่น้องเนี่ย56900" ในใจก็คิด โอ้โหท็อปฟอร์มจริงๆ แล้วหมอก็บอกต่อว่า "หมอสงสัยว่ามดลูกขยายรึปล่าว(น้องอ้วน)แต่ที่นี่ไม่มีเครื่อง X-ray เลยต้องไปที่รพ.สัตว์อีกที่นึง
พอถึงรพ.สัว์อีกที่นึงเขาก็ให้น้องเจาะเลือดอัลตร้าซาว สรุปน้องมดลูกปกติแต่เจอว่าน้องม้ามขาวกว่าตับ(ปกติตับจะขาวกว่าม้าม)เลยสงสัยว่าน้องเป็นโรคตับ แล้วหลังจากผลเลือดน้องออดมาแล้วหมอบอกว่าน้องเป็นโรคเบาหวานแล้วก็อาจจะเป็นเบาหวานเป็นพิษ แต่วันแรกเนี่ยยังไม่ได้ให้น้องแอดมิดให้น้องกลับบ้านไปก่อน เราก็พยายามป้อนอาหาร(เม็ด)ให้น้องแต่น้องไม่ค่อยกินเลยแล้วมันมียาด้วยก็เลยยัดยาใส่ไส้กนอกแล้วให้มันกิน มันกินแต่ไส้กรอกไม่กินยาก็เลยบังคับมันกินให้ได้ พอวันตอมาไปหมอหมอที่รพ.เหมือนเดิมแล้วก็เอาน้องแอดมิดเลย แล้วคุยกับหมอ สรุปเจอตับอ่อนอักเสบ แล้วเราก็กลับไป แล้วเช้าวันถัดมาเราคุยอาการน้องกับที่บ้านทั้งพ่อทั้งแม่ไม่อยากให้มันรักษาเพราะคิดว่ามันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกเอากลับมาบ้านเดี๋ยวก็หาย คือวันนี้พ่อต้องไปทำธุระแถวๆรพ.เราก็เลยติดรถมาด้วยเพราะจะไปดยี่ยมน้องแล้วเราก็ร้องไห้ตลอดทางเลยแต่ด้วยความที่ไม่ชอบร้องไห้ให้ใครเห็นก็เลยร้องแบบไม่มีเสียงคือเราทำใจไม่ได้ที่จะให้น้องหยุดรักษาคือส่วนหนึ่งที่เราทำใจไม่ได้เป็นเพราะตัวเราเองด้วยเพราะเราศึกษาไม่ดีเองไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสุนัขทานอาหารแบยคนไม่ได้เหมือนกับว่าเราทำร้ายมันมาโดยตลอดเลย แล้วพอพ่อสังเกตเห็นว่าเราร้องไห้เขาก็ถามว่าร้องทำไม เราก็เลยบอกว่าก็พ่อจะเอามันออกจากรพ.ไงถ้าเอามันออกมันก็จายสิมันไม่ได้เป็นแต่โรคเดียวที่แค่ฉีดยาแล้วก็หายนะ จากนั้นพ่อก็เลยใจอ่อนรักษามันต่อ เขาพาเราไปเยี่ยมน้องหมาที่รพ.พอไปถึงเราเรียกทีสองทีไม่ได้สนใจพอเปิดกรงมันก็รู้ตัวว่าเรามาเยี่ยมมันเดินออกมาจากกรงมานอนตักเรา เราหยุดร้องไห้ไม่ได้เลยสงสารมันมาก แล้วเราก็อยู่จนหมดเวลาเยี่ยมต้องเอามันกลับเข้ากรงอีกครั้ง สิ่งที่ได้คิดคือน้องพยายามดันประตูกรงออกมาหาเราทั้งๆที่ร่างกายน้องไม่ค่อยจะมีแรง ในใจเราเจ็บมากไม่อยากกลับเลยแต่ต้องใจแข็งเดินหันหลังกลับมาแล้วก็รักษาที่รพ.เดิมต่ออีกประมาณ2วัน แล้ววันถัดมาที่รพ.บอกว่าน้องอาจจะเลือดเป็นกรดแต่ที่รพ.นี้ไม่มีเครื่องตรวจนะต้องไปตรวจอีกรพ.นึง
วันนั้นเราไม่ว่างพ่อเลยพาไปแทนพ่อบอกว่าตอนพาน้องออกมาน้องพยายามเดินเล่นแต่ไม่ค่อยมีแรงพยายามเดินไปฉี่ไปอึ แล้วก็แอดมิดที่รพ.ใหม่ จลอดที่แอดมิดทั้งรพ.เก่า-ใหม่หมอก็ให้อินซูลินไปแต่น้ำตาลน้องก็ยังไม่ลงอยู่ที่400-560 วันถัดมาเราก็มาเยี่ยมน้องซึ่งเราเห็นว่าน้องซึมลงเยอะมากกกก เรียกก็ไม่ตอบสนองไม่กระดิกหางขยับแขนขยับขาเลย(แต่ยังหายใจนะ)แล้วก็จมูกแห้งมากเหมือนมีน้ำมูกติดเลย หมอบอกว่าวันนี้น้องมีไข้แล้วก็ตรวจความเป็นกรดอยู่ที่7.1-7.2(ปกติของสุนัขอยู่ที่7.4)เรามาเยี่ยมน้องประมาณครึ่งชม.แล้วก็กลับเพราะเห็นว่าน้องไม่ตอบสนองอะไรเลยพอมาถึงบ้าน หมอก็โทรศัพท์มาบอกว่าน้องตรวจเจอโรคไต(เรางงมากทำอะไรไม่ถูกเลยเพราะวันก่อนตรวจแล้วยังไม่มีเลย)ค่าไตเมื่อ3-4วันก่อนที่ตรวจอยู่ที่1กว่าๆแต่วันนี้ขึ้นมาเป็น8 หมอบอกว่าอาจจะเกินจากเบาหวานเป็นพิษ+เลือดเป็นกรด ให้เจ้าของเตรียมใจไว้บ้าง หมอพึ่งโทรมาบอกตอนเราพิมอยู่เลยบอกเลยว่าทานข้าวไม่ลงตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ

สรุปน้องเป็นตับอ่อนอักเสบ+เบาหวานเป็นพิษ+เลือดเป็นกรด+โรคไต

ตอนแรกเราพิมมาเราอาจจะมีหวังว่าน้องจะรอดกลับไปมีชีวิตปกติ แต่ว่าตอนนี้เราอยากรู้ว่าน้องจะอยู่ต่อได้อีกนานแค่ไหนคะ เรารักมันมากคิดถึงมันมากรู้สึกใจหายมากตอนนี้สับสนไปหมด รบกวนช่วยบอกหน่อยค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ขอบคุณจากใจจริงค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่