นี่คือลำต้นของ Sandbox ที่เต็มไปไปด้วยหนามแหลมที่แข็งแกร่งซึ่งมีขนาดแตกต่างกันอยู่ทั้งต้น บางครั้งต้นไม้ก็ถูกเรียกว่า “ Monkey-no-Climb” เพราะลิงคงไม่สามารถที่จะปีนขึ้นไปได้แน่ๆ นอกจากนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ " Dynamite tree " เนื่องจากจากข้อเท็จจริงที่ว่า เมล็ดของมันถูกล้อมรอบด้วยแคปซูลคล้ายฟักทอง (ผลไม้) ที่ระเบิดเสียงดังยิงเมล็ดด้วยแรงมากพอ ที่เมื่อสุกจะระเบิดเสียงดังและยิงเมล็ดให้แตกกระจายออกไปด้วยแรงมากพอควร
Sandbox มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของอเมริกาใต้และป่าดิบชื้นอเมซอน แม้ว่าบางครั้งจะพบในเขตร้อนชื้นของทวีปอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ ยังมีการนำเข้าสู่แทนซาเนียในแอฟริกาตะวันออกซึ่งถือว่าเป็นการรุกราน ทั้งนี้ ต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้เฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีน้ำค้างแข็ง และดินร่วนปนทรายชื้นในบริเวณที่มีแสงแดดเต็มที่หรือบางส่วน นอกจากนี้ ยังสามารถพบได้ในอาเจะห์และในทะเลแคริบเบียน (โดยในอาเจะห์ผลไม้ชนิดนี้จะถูกเรียกว่า " boh ruda " เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายวงล้อ)
ต้นไม้เป็นพืชชั้นสูงจากครอบครัว Euphorbiaceae สมาชิกของตระกูล spurge มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า hura crepitans ซึ่งสามารถเติบโตได้สูงถึง 90 - 130 ฟุตในสภาพแวดล้อมดั้งเดิม โดยมีเปลือกไม้สีเทาที่ปกคลุมด้วยหนามแหลมรูปกรวย และมีดอกตัวผู้และตัวเมียสีแดงที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยดอกตัวผู้จะมีลักษณะรูปกรวยที่เติบโตบนหนามแหลมยาว ส่วนดอกตัวเมียอยู่โดดเดี่ยวตามซอกใบ ซึ่งเมื่อได้รับการปฏิสนธิแล้วจะผลิตฝักที่มีรูปร่างเหมือนฟักทองขนาดเล็กและเมล็ดภายในที่ระเบิดได้
ดอกไม้ตัวเมียและดอกตัวผู้ของ Hura crepitans
ฝักซึ่งเป็นผลจากต้น Sandbox ที่มีรูปร่างเหมือนฟักทองขนาดเล็กนี้ จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสามนิ้ว เมื่อมันแห้งมันจะกลายเป็นระเบิดเวลาในทันที จนเมื่อมันถึงเวลาเต็มที่แล้ว มันจะระเบิดด้วยเสียงดังและเหวี่ยงเมล็ดที่แข็งและแบนที่อยู่ภายในออกจากฝักได้สูงถึง 120 ฟุต (40 เมตร) ด้วยความเร็ว 230 ฟุต (70 เมตร) ต่อวินาที หรือ 160 ไมล์ต่อชั่วโมง (257 กม. / ชม.) ในระยะทางไกลมากกว่า 60 ฟุต
และเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างคร่าวๆว่าเมล็ดพืชเคลื่อนที่เร็วเพียงใด นั่นคือความเร็วเฉลี่ยของนักดิ่งพสุธาในการตกอย่างอิสระที่ 120 ไมล์ต่อชั่วโมง (193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งเมล็ดเหล่านี้จะเป็นเหมือนเหล่ากระสุนที่สามารถทำร้ายบุคคลหรือสัตว์ที่ขวางทางได้
Sandbox นั้นถือเป็นหนึ่งในพืชที่อันตรายที่สุดในโลก นอกจากพลังแห่งการระเบิดที่รุนแรงแล้ว ยังมีรายงานว่าผลของต้นไม้นี้มีรสชาติอร่อย แต่ถ้ากินมากเกินไป พิษที่อยู่ในผลจะทำให้อาเจียน ท้องร่วง และเป็นตะคริว ส่วนยางของต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายน้ำนมนั้นก็มีพิษ หากโดนเข้าทำให้เกิดผื่นแดงและอาจทำให้ตาบอดได้
ที่สำคัญน้ำยางพิษนี้ ชาวพื้นเมืองในอเมริกากลางและอเมริกาใต้นำมาใช้เพื่อทำลูกดอกอาบยาพิษ เพื่อทำให้ปลาและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่ส่วนแห้งของฝักเมล็ดพืชและหนามแหลมที่มีลักษณะคล้ายกับรูปร่างของปลาโลมา จะถูกนำมาใช้ในการทำเครื่องประดับ
นอกจากชื่อข้างต้นแล้ว ต้นไม้ยังได้รับชื่ออีกหลายชื่อได้แก่ monkey’s dinner bell, monkey’s pistol, possumwood และJabilo ทั้งนี้ เนื่องจากผลของ
Hura crepitans เคยถูกใช้สำหรับจับทรายแห้งละเอียดที่ใช้ในการซับหมึก ก่อนที่จะนำกระดาษซับมันมาใช้ มันจึงมีชื่อสามัญว่า ' sandbox tree '
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Sandbox จะเป็นพิษหลายอย่าง แต่บางส่วนของต้นไม้ก็ถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และอื่นๆ เช่น
- น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดทำหน้าที่เป็นยาฆ่าเชื้อ
- ใบใช้รักษากลากเกลื้อน
- น้ำยางหากสกัดอย่างถูกต้อง จะได้สารสกัดที่สามารถการรักษาโรคไขข้อและหนอนในลำไส้ได้ และยังถูกนำมาใช้ในสหรัฐอเมริกาเพื่อเตรียมแก๊สน้ำตา
- สารสกัดจากเปลือกไม้ใช้ในการรักษาโรคเรื้อน
- ไม้ที่มีน้ำหนักเบาใช้ในการก่อสร้าง
ทั้งนี้ เพื่อให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผล ต้องได้รับการจัดเตรียมและนำไปใช้โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพอย่างเชี่ยวชาญ ผลไม้รูปฟักทองของHura crepitansเคยใช้สำหรับจับทรายแห้งละเอียดที่ใช้สำหรับซับหมึกก่อนที่จะนำกระดาษซับมันมาใช้จึงมีชื่อสามัญว่า 'sandbox tree'
ชิ้นส่วนต่างๆของ Hura crepitans
ชิ้นส่วนของเศษกระสุนที่มีลักษณะคล้าย
กับรูปร่างของปลาโลมา และสามารถสร้างเครื่องประดับได้
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
“ Dynamite Tree” ต้นไม้ระเบิดจากธรรมชาติ
ดอกไม้ตัวเมียและดอกตัวผู้ของ Hura crepitans
ที่สำคัญน้ำยางพิษนี้ ชาวพื้นเมืองในอเมริกากลางและอเมริกาใต้นำมาใช้เพื่อทำลูกดอกอาบยาพิษ เพื่อทำให้ปลาและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่ส่วนแห้งของฝักเมล็ดพืชและหนามแหลมที่มีลักษณะคล้ายกับรูปร่างของปลาโลมา จะถูกนำมาใช้ในการทำเครื่องประดับ
Hura crepitans เคยถูกใช้สำหรับจับทรายแห้งละเอียดที่ใช้ในการซับหมึก ก่อนที่จะนำกระดาษซับมันมาใช้ มันจึงมีชื่อสามัญว่า ' sandbox tree '
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Sandbox จะเป็นพิษหลายอย่าง แต่บางส่วนของต้นไม้ก็ถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และอื่นๆ เช่น
- น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดทำหน้าที่เป็นยาฆ่าเชื้อ
- ใบใช้รักษากลากเกลื้อน
- น้ำยางหากสกัดอย่างถูกต้อง จะได้สารสกัดที่สามารถการรักษาโรคไขข้อและหนอนในลำไส้ได้ และยังถูกนำมาใช้ในสหรัฐอเมริกาเพื่อเตรียมแก๊สน้ำตา
- สารสกัดจากเปลือกไม้ใช้ในการรักษาโรคเรื้อน
- ไม้ที่มีน้ำหนักเบาใช้ในการก่อสร้าง
ทั้งนี้ เพื่อให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผล ต้องได้รับการจัดเตรียมและนำไปใช้โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพอย่างเชี่ยวชาญ ผลไม้รูปฟักทองของHura crepitansเคยใช้สำหรับจับทรายแห้งละเอียดที่ใช้สำหรับซับหมึกก่อนที่จะนำกระดาษซับมันมาใช้จึงมีชื่อสามัญว่า 'sandbox tree'
กับรูปร่างของปลาโลมา และสามารถสร้างเครื่องประดับได้