ต้นกล้วยคุณย่า(ตอนต่อ) Furryjit

ขอโทษที่ทิ้งเรื่องนี้ไปเป็นปีๆ ตอนนี้จะกลับมาสานต่อให้จบแล้วครับ ท่านใดไม่เคยอ่านตอนแรก รบกวนอ่านอ่านใน Profile ผมได้ครับ มิเช่นนั้นท่านจะงง หรือสำหรับท่านใดที่ลืมเนื้อเรื่งไปแล้วเพราะรอนานจัด 555 ก็เชิญอ่านตอนแรกอีกครั้งเพื่อทบทวนความทรงจำครับ

คุณย่าเล็กนิ่งรออยู่สักครู่ก็ไม่ได้ยินสุ้มเสียงความผิดปกติใด ถึงกระนั้น เธอก็ตั้งใจรออยู่กับที่ตามคำสั่งพี่ชาย ไม่คิดจะขยับเขยื้อนไปไหน

แต่เด็กสาวให้อยู่นิ่งนานๆก็เบื่อ อีกทั้งเธอเริ่มรำคาญปัดป่ายแมลงริ้นไร เธอจึงคิดเดินตามไปในทิศที่พี่กระทิงย่องลับไป เพื่อดูให้รู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น

คืนนั้นดาวไม่ได้กระจ่างเต็มท้องฟ้า แต่ก็สว่างพอเพียงที่ให้คุณย่าเล็กซึ่งคุ้นเคยกับเส้นทางบริเวณบ้านดี เดินจับทางไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก 

แต่ทันใดก็มีเสียงแผ่วเบาร้องเรียกคุณย่าเล็กจากข้างหลัง

“เล็ก นั่นน้องกำลังจะไปไหน”

คุณย่าเล็กสะดุ้ง หันหลังขวับมาทันที แม้ในความมืดอันเลือนลาง เธอก็มองเห็นว่าเป็นคุณย่าลูกอินพี่สาวเธอเดินตามมา จากแสงสว่างที่พอมองเห็น สีหน้าเธอแกมสงสัยแกมเป็นห่วง

คุณย่าลูกอินของผมตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าน้องสาวไม่ได้นอนอยู่ข้างๆในมุ้ง ตอนแรกเธอก็คิดว่าคุณย่าเล็กลงมาทำธุระเรื่องปวดเบา แต่ไปๆมาๆเริ่มหายไปนานผิดสังเกต ด้วยความห่วงจึงหลับตาต่อไปไม่ได้ คุณย่าผมรู้ว่าน้องสาวไม่ใช่เด็กซนลงเรือนมาเล่นพิเรนทร์อะไรตอนดึกๆแน่ แต่ต้องมีเหตุบางอย่าง ถึงไม่ได้ปลุกพ่อ แม่ และบรรดาพี่ชายให้เอิกเกริก แต่ลงมาตามดูด้วยตนเองก่อน

คุณย่าเล็กเล่าเรื่องที่เพิ่งประสบมาให้พี่สาวฟัง พอพูดจบเธอก็จับแขนคะยั้นคะยอว่า

“พี่ลูกอิน เราตามไปดูกันเถอะ หนูอยากรู้ว่าพี่กระทิงทำอะไรอยู่” 

ในศักดิ์เป็นพี่สาวที่ต้องดูแลน้องนั้น จริงๆคุณย่าผมควรจะสั่งให้น้องสาวกลับขึ้นเรือนไปนอน แต่ความอยากรู้อยากเห็นเธอก็มี อีกอย่างเรื่องความกลัวไม่เคยมีอยู่ในหัวเธอเลย ในเมื่อเธอมีพี่กระทิงอยู่ทั้งคน

ความรักและคารพของสองพี่น้องที่มีต่อพี่กระทิงนั้น จะเป็นรองก็แค่เพียงบิดา มารดาเท่านั้น ส่วนพี่ชายคนอื่นๆ ในตอนนั้นก็ได้ทยอยแต่งเมียออกไปปลูกบ้านสร้างเรือนใหม่กันแล้ว แม้จะไม่ได้อยู่ห่างกันมากมาย ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ แต่ความรู้สึกในดวงใจของสองสาวก็เพียงยึดถือว่าเป็นพี่ชายร่วมอุทร ไม่ได้ใกล้ชิดผูกพันดุจดั่งพ่อคนที่สองเหมือนพี่กระทิง

ทุกครั้งที่คุณย่าลูกอินมีอะไรที่อยากคุย หรือถามอะไรเกี่ยวกับตัวเมือง ผู้คน โลกภายนอกที่เธอไม่เคยเห็น พี่กระทิงจะเอามือลูบหัวอย่างเอ็นดูแล้วเล่าให้ฟังคร่าวๆ แถมลงท้ายว่า

“เอาไว้พี่จะพาไปเที่ยวตลาดในเมือง”

แต่พอถึงคราวพี่กระทิงบ้าง หลายครั้งที่ชายหนุ่มกลับมาเรือนด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด เก็บตัวอยู่คนเดียว แม้กระทั่งเด็กสาวที่บริสุทธิ์และอ่อนต่อโลกยังมองออก บางครั้งน้องสาวก็อยากปลอบใจและแบ่งเบาภาระพี่ชายบ้าง แต่กระทิงไม่เคยปริปากสิ่งที่อยู่ในใจให้ฟังแม้แต่ครั้งเดียว

คุณย่าลูกอินจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในตอนนั้น เธอต้องรู้ให้ได้ว่าพี่กระทิงออกไปทำอะไรในกลางดึกคืนนี้ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงฉุดมือน้องสาว

“รีบไปกันเถอะ น้องเล็ก พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน อยู่ดีๆพี่กระทิงไม่ทิ้งบ้านไปตอนกลางคืนหรอก”

ทั้งสองพี่น้องจูงมือกันเดินไปในความมืด เดินมาไม่เท่าไหร่ก็ถึงทุ่งนา ในหน้าฝนจะมีเสียงกบร้องระงมไปทั่วท้องนา 

เดินต่ออีกนิดก็มาถึงป่า ป่าสมัยนั้นที่ยังไม่ได้ถาง อาจจะไม่มีสัตว์อะไรมากมาย แต่ก็มีไม้ใหญ่ขึ้นเยอะ ยังแลดูลี้ลับและวังเวงสำหรับสาวน้อยทั้งสองคนอยู่ดี

ปกติพี่น้องสองศรีจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินมาทางนี้เป็นอันขาด แม้ว่าจะเป็นช่วงกลางวันแสกๆก็ตาม เสียงต้นไม้หวีดหวิวเสียดสี แมลงตอนกลางคืนร้องร่ำ จู่ๆทั้งคู่ก็กุมมือกันแน่นหัวไหล่ชิดกันเมื่อสายลมเย็นเยือกหอบมาวูบหนึ่ง

คุณย่าลูกอินผมตระหนักขึ้นมาได้ว่า มันเริ่มมืดจนคลำทางต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะห่างออกมาจากหมู่บ้านได้สักระยะไม่มีแสงไฟตามรั้ว ตะเกียงส่องทางก็ไม่ได้เอาติดตัวมา ขืนมะงุมมะงาหราเดินฝ่าความมืดต่อ อาจจะโดนงูเงี้ยว เขี้ยวขอ ขบกัดเอา

คุณย่าผมกระตุกมือย่าเล็กเป็นสัญญาณว่าต้องกลับบ้าน ไปต่อไม่ได้แล้ว เหมือนย่าเล็กจะเห็นด้วยโดยไม่อิดออด เพราะเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วเช่นกัน

ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะหันหลังไป ก็ได้ยินเสียงใครพูดกันแว่วๆ ทั้งสองสาวที่กำลังจะเดินไปอยู่แล้วก็หยุดชะงักเท้า เงี่ยหูฟัง

แล้วทั้งคู่ก็หันหน้ามามองกันอย่างดีใจ เมื่อจับได้ว่านั่นเป็นน้ำเสียงของใคร ทั้งคู่สาวเท้าเข้าไปใกล้ราวป่าอย่างลืมตัว โดยใช้ต้นเสียงเป็นสิ่งนำทาง

พอมาถึงจุดหนึ่งซึ่งเป็นสระขุด แต่ก็มีอาณาบริเวณกว้าง ชาวบ้านใจบุญช่วยกันเอาปลามาปล่อย ให้มันผสมพันธุ์กัน จนมีปลาเต็มสระ มีบัวเต็มไปหมดเหมือนสระน้ำธรรมชาติ

เสียงของพี่กระทิงชัดเจนจนระบุได้ว่าแกยืนพูดอยู่ข้างๆสระ แม้จะเห็นเป็นเงาตะคุ่มๆก็ตาม เมื่อเห็นดังนั้นคุณย่าเล็กก็ดีใจ ทำท่าจะปรี่ออกจากต้นไม้ใหญ่ที่บังตัวอยู่ไปหาพี่ชาย

ทันใดนั้นคุณย่าลูกอินก็คว้าแขนน้องสาวตนไว้ ฉุดดึงให้กลับมาหลังต้นไม้ตามเดิม พร้อมส่งสัญญาณว่าห้ามส่งเสียงด้วยอาการที่จริงจัง 

คุณย่าเล็กสงสัยเป็นกำลัง แต่ก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี แล้วเธอก็เข้าใจเจตนาของพี่สาวเมื่อหันไปมองทางนั้นอีกครั้ง

คราวนี้เธอเห็นหน้าพี่ชายที่ยืนห่างออกไปลางๆ ด้วยแสงไฟบางอย่างที่เขาชูอยู่เหนือหัว คุณย่าเล็กประหลาดใจมาก เพราะปุบปับกระทิงก็บอกให้เธอรอ และเขาก็ออกตัววิ่งหายลับ
ในความมืดทันที เหมือนรีบตามอะไรไปอย่างปัจจุบันทันด่วน ไม่ได้หยิบฉวยตะเกียงติดมือไปด้วยแน่นอน

แต่เมื่อมองถนัดตา คุณย่าเล็กก็รู้สึกเหมือนมีใครเอาน้ำแข็งผสมนำ้มาราดตัว ขยับอ้าปากจะหวีดร้อง ถ้าไม่มีมือของพี่สาวที่จับตามองท่าทีอยู่แล้วยื่นมาอุดปาก

แสงไฟที่ย่าเล็กเข้าใจว่ามาจากตะเกียงในตอนแรก และพี่กระทิงกำลังใช้มือชูอยู่เหนือหัว จริงๆแล้วพี่กระทิงไม่ได้เอามือจับเสียด้วยซ้ำ แต่มันลอยอยู่ในอากาศได้ด้วยตัวเอง

และที่สำคัญคือ มันไม่ใช่ไฟตะเกียง แต่เป็นแสงสีแดงสว่างวาบๆจากอะไรที่ขดห้อยเป็นพวงลงมา

ส่วนบนของดวงไฟลุกแดงนั้น เป็นวัตถุกลมๆเท่าลูกมะพร้าวขนาดเล็ก มีอะไรที่เหมือนกลุ่มเส้นด้ายสีขาวหนาดกทิ้งตัวลงมาอย่างกระเซิง 

ทันใดนั้นพี่กระทิงก็พูดขึ้น น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความคาดคั้น

“ว่าไง ยายแม้น สัญญากับฉัน ว่าจะไม่ไปขุดรกเด็กแรกเกิดที่พ่อแม่เขาฝังดินไว้มากิน ไม่ขโมยสัตว์เลี้ยงเขา แล้วฉันจะไม่บอกใครว่ายายเป็น____”

“ฉันสัญญาจ้ะพ่อกระทิง พ่อนี้มีน้ำใจล้นเหลือ ถ้าชาวบ้านรู้ว่าฉันเป็นอะไร ฉันก็โดนรุมเฉดหัวออกไปจากหมู่บ้านเท่านั้น เงินทอง ที่นาฉันมี ฉันยังติดห่วงอยู่”

เสียงที่ไม่รู้มาจากไหนนั้นทำให้ย่าเล็กงวยงงไปชั่วขณะ เธอมองไปรอบๆบริเวณที่ถึงแม้จะไม่สว่างนัก แต่ถ้ามีคนอยู่ก็ต้องเห็นเป็นเงาบ้าง แต่นี้เธอไม่เห็นใครเลย

ทันใดนั้นพี่กระทิงก็พูดขึ้น ถึงแม้ย่าเล็กในตอนนั้นจะเป็นเด็กหญิงแต่ก็จำแนกน้ำเสียงออกว่า เป็นตอนที่พี่ชายกำลังแสดงความเวทนาสงสารให้ใคร

“ดีแล้ว ยายแม้น ถ้าอดของดิบไม่ได้ หน้านี้กบในนาชุก ประเดี๋ยวฉันจะไปจับมาให้ แต่อย่าผิดสัญญากับฉันเป็นอันขาด เรื่องที่จะไปทำร้ายคนอื่น โดยเฉพาะเด็กอ่อน แม่ที่เพิ่งคลอดเสียเลือด”

“จ้ะ” มีเสียงรับคำอย่างศิโรราบ แต่แล้วสิ่งที่ย่าเล็กคิดว่าเป็นลูกมะพร้าวลอยได้ก็หมุนขวับกลับมา ย่าเล็กเห็นแล้วก็แทบสติขาดผึง อ่อนปวกเปียกล้มฮวบอยู่ตรงนั้น ถ้าไม่ได้พี่สาวช่วยพยุงไว้

มันเป็นใบหน้าของหญิงชราที่เหี่ยวยับย่น ดวงตาสีแดงก่ำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่