เรื่อง คำขอถึงดวงดาว
โดย ผมชื่อง่วง
cr.google.com
ต้องโทษดาวcr.youtube
หน้าผาหินปูนสูงตระหง่าน พื้นถูกปกคลุมไปด้วยผืนหญ้าหนานุ่ม หากมองลงไปจะเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลทั่วอาณาบริเวณ ยามนี้ดวงตะวันคล้อยต่ำใกล้ลับทิวไม้ แสงที่เปล่งออกมาจึงเป็นสีแดงเข้มจับขอบฟ้า สีแดงที่ตัดกับสีเขียวอมดำ ภาพนั้นสวยงามราวกับภาพวาดสีน้ำมันของศิลปินลือชื่อผู้ล่วงลับ
ที่แห่งนี้เป็นที่นัดพบประจำของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง หากแต่คนทั้งสองมิใช่คนรักที่นัดกันมาพลอดพร่ำคำหวาน เขาและเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน
ทั้งคู่มักพากันขึ้นมาดูวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ภาพบ้านเรือนยามค่ำ แสงตะวันขณะกำลังลาลับขอบฟ้า มันช่วยผ่อนคลายความเครียดที่เกิดจากการเรียนอย่างหนักมาตลอดทั้งวัน
ก้องและดาว เป็นนักเรียนชั้นปีสุดท้ายของม.ปลาย ช่วงเวลานี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต มันเป็นทางแยกที่ต้องเลือก เป็นก้าวแรกของชีวิตที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง มันสร้างความหนักใจให้วัยรุ่นอย่างพวกเขาเป็นอย่างมาก
"ก้องจะไปเรียนต่อที่ไหนเหรอ" ดาวถามขึ้นขณะที่ทั้งคู่มองดูความงดงามของท้องฟ้ายามเย็น
"ไม่รู้ดิ ก็คงมหาลัยใกล้บ้านนี่แหละ" ก้องตอบ
ในใจเขาตอนนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องเรียนต่อเท่านั้นที่ทำให้กลุ้ม แต่มันยังมีอีกเรื่องที่ชวนอึดอัด มันคั่งค้างในใจมานานแสนนาน
"เราว่าเราจะไปเรียนที่ต่างจังหวัดแหละ" ดาวพูดขึ้น หันหน้ามามองเพื่อนสนิทที่บัดนี้แสงอาทิตย์สีแดงจับใบหน้าจนดูคล้ายเทพเจ้ากวนอูในหนังสือเรียน จากนั้นก็หันกลับไปมองบ้านเรือนยามค่ำอีกครั้ง
"ดาว...เรามีเรื่องอยากจะบอก" ก้องพูดขึ้นเบา ๆ ดาวหันมามองหน้าก้อง พบว่าอีกฝ่ายจ้องอยู่ก่อนแล้ว
"ว่า?" ดาวถามสั้น ๆ
ก้องมองหน้าเพื่อนสนิท นิ่งไปครู่ก่อนจะควักเอาสิ่งหนึ่งยื่นให้
"อะไร" ดาวรับมาอย่างงง ๆ มันคือแหวนวงเล็กสีเงิน ตัวแหวนสลักอักษรย่อ DK
"เรารักดาวนะ คบกันได้มั๊ย" ก้องเอ่ยขึ้น บัดนี้หน้าเขาแดงเรื่อ ไม่รู้เพราะความเขินอายหรือเพราะแสงในยามเย็น
เกิดความเงียบขึ้นทันที ดาวมองดูแหวนวงเล็กในมือ จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปจับใบหน้าเพื่อนหนุ่ม
"เรา..." ดาวพูอะไรไม่ออก สีหน้าเธอตอนนี้ยากจะเดาความรู้สึก
"ไม่เป็นไร ขอโทษนะ" ก้องยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นหันหลังเดินจากไป
"ก้อง!" ดาวร้องเรียกขึ้น ก้องหยุดกึกทันทีแต่ยังไม่หันกลับมา
"ช่วยรอก่อนได้มั๊ย หลังสอบเสร็จขึ้นมาที่นี่นะ เราจะให้คำตอบ" ดาวบอก ก้องพยักหน้าน้อย ๆ แล้วเดินจากไป

ดาวcr.youtube
คืนนั้น ก้องนอนไม่หลับ คิดถึงแต่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนเย็น แม้ดาวจะไม่ปฏิเสธเขาแต่เธอก็ไม่ได้ตอบตกลง คำตอบของดาวจะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอไปชั่วชีวิต
เขาแอบรักเพื่อนสาวคนสนิทมานานแล้ว ด้วยความผูกพันธ์ฉันท์เพื่อน เขาจึงไม่กล้าเอ่ยความในใจออกไป เขากลัวจะต้องสูญเสียเธอไป แต่ในเมื่อระยะเวลามันบ่มเพราะความรู้สึกดีจนสุกงอมล้นอก วันนี้เขาจึงตัดสินใจเอื้อนเอ่ยคำพูดต้องห้ามนั้น
ดาวจะคิดยังไงนะ พรุ่งนี้เรายังจะมองหน้ากันได้ไหม อีกอาทิตย์เดียวการสอบก็จะเสร็จสิ้น แต่ระยะเวลาที่ต้องรอคำตอบมันช่างทรมานเหลือเกิน เขาจะทำอย่างไรดี
แต่ในเมื่อตัดสินใจทำลงไปแล้ว บอกไปแล้วผลจะเป็นยังไงก็ต้องยอมรับ มันจะออกหัวออกก้อยก็ต้องก้มหน้ารับไป
ก้องออกมายืนมองดาวที่สนามหน้าบ้าน คืนนี้ฟ้าเปิดทำให้ดวงดาวนับล้านดวงพากันส่องแสงระยิบระยับพร่างพราวเต็มผืนฟ้า ก้องขอพรในใจ ขอให้ความรักของเขาที่มีต่อเพื่อนสนิทสมหวัง ขอให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่อย่าได้มีอันต้องขาดสะบั้นลง
"ผมขอแค่นี้ไม่มากไปใช่มั๊ยครับ" ก้องแหงนหน้ามองดวงดาวแล้วเอ่ยขึ้นกับตนเองเบา ๆ
การสอบที่ยากเย็นและตึงเครียดกินเวลากว่าสามวันสุดท้ายก็สิ้นสุดลง หลายคนดีอกดีใจที่ตั้งแต่วินาทีนี้จะได้เป็นว่าที่นักศึกษา ไม่ใช่นักเรียนมัธยมกางเกงขาสั้นอีกต่อไป หลายคนเป็นกังวลกับผลสอบที่จะออกมาในไม่ช้า

ได้ยินไหมcr.youtube
ก้องยืนรอดาวอยู่บนก้อนหินใหญ่ที่ตั้งตระหง่านบนเงื้อมผาหินปูน ที่ ๆ เขานัดกันไว้ สถานที่นี้จะเป็นดั่งศาลอันศักดิ์สิทธิ์ แมกไม้นับร้อยนับพันจะเป็นเฉกเช่นพยาน พยานในคำตอบที่ดาวจะมอบให้เขา
ไม่นาน ดาวก็เดินโผล่พ้นแนวสนออกมา เธอเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ด้วยใบหน้าเศร้าหมอง ก้องยิ้มให้แต่เธอกลับไม่แม้แต่จะมองหน้า ดาวเดินขึ้นมายืนอยู่ข้าง ๆ ก้อง ก้มหน้าไม่พูดจาอันใด
เพียงเท่านี้ก้องก็รู้คำตอบแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอ่ยวาจาใด ๆ สีหน้าและท่าทางมันบ่งชี้ทุกอย่าง
"งั้นเหรอ เราขอโทษนะ" ก้องเอ่ยเศร้า ๆ ยิ้มออกมาแล้วก้มหน้าหันหลังกลับ จากนี้ไปเขาจะไม่มาพบเธออีก คำขอของเขาส่งไปไม่ถึงดวงดาวสินะ มันจบแล้ว
"ก้อง" ดาวเอ่ยขึ้นเสียงเคลือ ก้องหยุดยืนนิ่ง
"ดาวก็รักก้องนะ รักมาก ดาวขอโทษที่ไม่ได้บอกก้องไปตั้งแต่วันนั้น" ดาวพูดเบา ๆ มีเสียงสะอื้นปนออกมา ก้องหันกลับมามองทันทีด้วยสีหน้าดีใจ
"วันนี้มันคงสายไปแล้วสินะ ทำไมก้องทิ้งดาวไว้แบบนี้"
ดาวพูดต่อ สุดท้ายสาวน้อยก็เกินจะฝืนความรู้สึก เธอทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ตัวโยน สองมือกุมแหวนเงินวงนั้นไว้แนบอก แหวนที่เป็นตัวแทนความรักที่ก้องมีให้เธอ แหวนที่เป็นสิ่งดี ๆ สิ่งสุดท้ายที่ก้องมอบให้เธอ วันนั้น หากเธอจะกล้าอีกสักนิด ตอบรับคำขอนั้นไป เธอคงจะไม่มานั่งเสียใจอยู่แบบนี้
ก้องยืนมองเพื่อนสาวคนสนิทนั่งร้องไห้ เขาอยากจะเข้าไปโอบกอดเพื่อปลอบโยน แต่เขาทำไม่ได้ ร่างของเขาค่อย ๆ โปร่งแสงและกำลังจะเลือนหายไป ใช่แล้ว เขาจากไปเพราะอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ แต่ไม่เป็นไร บัดนี้เขาได้รับรู้คำตอบแล้ว เขารักดาวและดาวก็รักเขาเช่นกัน
"ขอบคุณ เราจะรอดาวนะ เราจะรออยู่ที่นี่"
กาลเวลาล่วงเลยผ่านพ้น หกสิบปีล่วงผ่าน ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามวิวัฒนาการของโลก ผู้คนมากมายใช้ชีวิตในแบบที่ตนหวัง หลายคนจบชีวิตลงตามอายุขัย สิ่งปลูกสร้างมีการรื้อถอนทุบทิ้งสร้างใหม่ทดแทนของเดิม แต่ที่แห่งนี้ ผาหินปูนที่ตระหง่านเงื้อมนี้ไม่เคยเปลี่ยน มันยังคงอยู่ทนทานสู้แดดลมฝนอย่างไม่หวั่นเกรง
"แม่คะ ทำไมป้าดาวถึงต้องขึ้นมานั่งบนนี้ทุกปีล่ะคะ แกอายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว สุขภาพก็ไม่ดีด้วยหนูเป็นห่วง"
ดรีมถามดวงผู้เป็นแม่ออกไปด้วยความสงสัย ดวงเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของดาว เธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่สาววัยเจ็ดสิบปลาย ๆ ดีทุกอย่าง รู้ถึงสาเหตุว่าทำไมพี่สาวของเธอจะขึ้นมาที่นี่ปีละครั้งมิเคยขาด รู้ถึงสาเหตุที่พี่สาวเธอไม่เคยตกลงปลงใจรับรักชายใด แม้คนที่เข้ามานั้นจะดีเลิศเพียงไหน แต่ดาวพี่สาวของเธอก็ปฏิเสธไปทั้งหมด ครองตัวเป็นโสดอยู่เช่นนี้ตั้งแต่เรียนจบม.ปลายจนถึงปัจจุบัน
"ที่นี่มีรักแท้และรักเดียวของป้าดาวน่ะลูก" ดวงตอบลูกสาว สายตาก็มองไปยังร่างของหญิงชราที่นั่งพิงก้อนหินใหญ่อยู่
"มาแล้วเหรอดาว"
เสียงใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ดาวหันไปมองก็พบว่าเป็นเด็กชายม.ปลายคนหนึ่ง ใบหน้า ดวงตา เธอจำได้ดี เธอยิ้มพยักหน้าน้อย ๆ แล้วตอบออกไป
"อื้ม! รอนานมั๊ย ไปกันเถอะก้อง"
ก้องยิ้มส่ายหน้าน้อย ๆ
"ไม่นานเลย"
ก้องตอบพลางยื่นมือมาทางดาว เธอยกมือซ้ายขึ้นจับมือนั้นไว้ นิ้วนางของเธอสวมแหวนเงินวงเล็กอยู่ มันสลักอักษรย่อ DK เช่นเคย เพียงแต่หลังอักษรนั้นมีคำ ๆ หนึ่งถูกสลักเพิ่มลงไป forever.
ภาพของนักเรียนม.ปลายสองคน เดินจับมือยิ้มให้กัน หัวเราะอย่างมีความสุข ทั้งคู่เดินขึ้นไปบนบันไดที่สร้างจากดวงดาว ทอดยาวจากฟากฟ้าอันแสนไกลลงมาสู่ก้อนหินใหญ่เบื้องล่าง ปลายทางนั้นจะเป็นเช่นไรทั้งคู่มิอาจรู้ แต่มันจะต้องเต็มไปด้วยความสุขอย่างแน่นอน
บัดนี้ คำขอของก้องส่งถึงดวงดาวแล้ว บนผืนฟ้าที่ความมืดค่อย ๆ กลืนกิน ท่ามกลางแสงดาวที่พราวพร่างระยิบระยับ ดาวสองดวงที่อยู่ใกล้กัน เปล่งแสงแวววาวเด่นกว่าดาวดวงอื่น
ภูเขา ผืนป่า ท้องฟ้ากว้าง เป็นพยานให้ความรักที่บริสุทธิ์ของทั้งคู่ หรีดหริ่งส่งเสียงระงมบรรเลงเพลงวิวาห์ มันช่างไพเราะเหลือเกิน
นี่คือความรักที่แท้จริง รักที่ไม่ต้องการครอบครอง รักที่ต้องใช้ความอดทนรอ รักที่บริสุทธิ์ รักแท้และรักเดียว ตลอดกาล

แลรักนิรันดร์กาลcr.youtube
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพลงสุดท้ายอาจไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง ผู้เขียนชอบเฉย ๆ ครับ ☺️☺️☺️
คำขอถึงดวงดาว
โดย ผมชื่อง่วง
cr.google.com
ต้องโทษดาวcr.youtube
หน้าผาหินปูนสูงตระหง่าน พื้นถูกปกคลุมไปด้วยผืนหญ้าหนานุ่ม หากมองลงไปจะเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลทั่วอาณาบริเวณ ยามนี้ดวงตะวันคล้อยต่ำใกล้ลับทิวไม้ แสงที่เปล่งออกมาจึงเป็นสีแดงเข้มจับขอบฟ้า สีแดงที่ตัดกับสีเขียวอมดำ ภาพนั้นสวยงามราวกับภาพวาดสีน้ำมันของศิลปินลือชื่อผู้ล่วงลับ
ที่แห่งนี้เป็นที่นัดพบประจำของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง หากแต่คนทั้งสองมิใช่คนรักที่นัดกันมาพลอดพร่ำคำหวาน เขาและเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน
ทั้งคู่มักพากันขึ้นมาดูวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ภาพบ้านเรือนยามค่ำ แสงตะวันขณะกำลังลาลับขอบฟ้า มันช่วยผ่อนคลายความเครียดที่เกิดจากการเรียนอย่างหนักมาตลอดทั้งวัน
ก้องและดาว เป็นนักเรียนชั้นปีสุดท้ายของม.ปลาย ช่วงเวลานี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต มันเป็นทางแยกที่ต้องเลือก เป็นก้าวแรกของชีวิตที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง มันสร้างความหนักใจให้วัยรุ่นอย่างพวกเขาเป็นอย่างมาก
"ก้องจะไปเรียนต่อที่ไหนเหรอ" ดาวถามขึ้นขณะที่ทั้งคู่มองดูความงดงามของท้องฟ้ายามเย็น
"ไม่รู้ดิ ก็คงมหาลัยใกล้บ้านนี่แหละ" ก้องตอบ
ในใจเขาตอนนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องเรียนต่อเท่านั้นที่ทำให้กลุ้ม แต่มันยังมีอีกเรื่องที่ชวนอึดอัด มันคั่งค้างในใจมานานแสนนาน
"เราว่าเราจะไปเรียนที่ต่างจังหวัดแหละ" ดาวพูดขึ้น หันหน้ามามองเพื่อนสนิทที่บัดนี้แสงอาทิตย์สีแดงจับใบหน้าจนดูคล้ายเทพเจ้ากวนอูในหนังสือเรียน จากนั้นก็หันกลับไปมองบ้านเรือนยามค่ำอีกครั้ง
"ดาว...เรามีเรื่องอยากจะบอก" ก้องพูดขึ้นเบา ๆ ดาวหันมามองหน้าก้อง พบว่าอีกฝ่ายจ้องอยู่ก่อนแล้ว
"ว่า?" ดาวถามสั้น ๆ
ก้องมองหน้าเพื่อนสนิท นิ่งไปครู่ก่อนจะควักเอาสิ่งหนึ่งยื่นให้
"อะไร" ดาวรับมาอย่างงง ๆ มันคือแหวนวงเล็กสีเงิน ตัวแหวนสลักอักษรย่อ DK
"เรารักดาวนะ คบกันได้มั๊ย" ก้องเอ่ยขึ้น บัดนี้หน้าเขาแดงเรื่อ ไม่รู้เพราะความเขินอายหรือเพราะแสงในยามเย็น
เกิดความเงียบขึ้นทันที ดาวมองดูแหวนวงเล็กในมือ จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปจับใบหน้าเพื่อนหนุ่ม
"เรา..." ดาวพูอะไรไม่ออก สีหน้าเธอตอนนี้ยากจะเดาความรู้สึก
"ไม่เป็นไร ขอโทษนะ" ก้องยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นหันหลังเดินจากไป
"ก้อง!" ดาวร้องเรียกขึ้น ก้องหยุดกึกทันทีแต่ยังไม่หันกลับมา
"ช่วยรอก่อนได้มั๊ย หลังสอบเสร็จขึ้นมาที่นี่นะ เราจะให้คำตอบ" ดาวบอก ก้องพยักหน้าน้อย ๆ แล้วเดินจากไป
คืนนั้น ก้องนอนไม่หลับ คิดถึงแต่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนเย็น แม้ดาวจะไม่ปฏิเสธเขาแต่เธอก็ไม่ได้ตอบตกลง คำตอบของดาวจะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอไปชั่วชีวิต
เขาแอบรักเพื่อนสาวคนสนิทมานานแล้ว ด้วยความผูกพันธ์ฉันท์เพื่อน เขาจึงไม่กล้าเอ่ยความในใจออกไป เขากลัวจะต้องสูญเสียเธอไป แต่ในเมื่อระยะเวลามันบ่มเพราะความรู้สึกดีจนสุกงอมล้นอก วันนี้เขาจึงตัดสินใจเอื้อนเอ่ยคำพูดต้องห้ามนั้น
ดาวจะคิดยังไงนะ พรุ่งนี้เรายังจะมองหน้ากันได้ไหม อีกอาทิตย์เดียวการสอบก็จะเสร็จสิ้น แต่ระยะเวลาที่ต้องรอคำตอบมันช่างทรมานเหลือเกิน เขาจะทำอย่างไรดี
แต่ในเมื่อตัดสินใจทำลงไปแล้ว บอกไปแล้วผลจะเป็นยังไงก็ต้องยอมรับ มันจะออกหัวออกก้อยก็ต้องก้มหน้ารับไป
ก้องออกมายืนมองดาวที่สนามหน้าบ้าน คืนนี้ฟ้าเปิดทำให้ดวงดาวนับล้านดวงพากันส่องแสงระยิบระยับพร่างพราวเต็มผืนฟ้า ก้องขอพรในใจ ขอให้ความรักของเขาที่มีต่อเพื่อนสนิทสมหวัง ขอให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่อย่าได้มีอันต้องขาดสะบั้นลง
"ผมขอแค่นี้ไม่มากไปใช่มั๊ยครับ" ก้องแหงนหน้ามองดวงดาวแล้วเอ่ยขึ้นกับตนเองเบา ๆ
การสอบที่ยากเย็นและตึงเครียดกินเวลากว่าสามวันสุดท้ายก็สิ้นสุดลง หลายคนดีอกดีใจที่ตั้งแต่วินาทีนี้จะได้เป็นว่าที่นักศึกษา ไม่ใช่นักเรียนมัธยมกางเกงขาสั้นอีกต่อไป หลายคนเป็นกังวลกับผลสอบที่จะออกมาในไม่ช้า
ก้องยืนรอดาวอยู่บนก้อนหินใหญ่ที่ตั้งตระหง่านบนเงื้อมผาหินปูน ที่ ๆ เขานัดกันไว้ สถานที่นี้จะเป็นดั่งศาลอันศักดิ์สิทธิ์ แมกไม้นับร้อยนับพันจะเป็นเฉกเช่นพยาน พยานในคำตอบที่ดาวจะมอบให้เขา
ไม่นาน ดาวก็เดินโผล่พ้นแนวสนออกมา เธอเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ด้วยใบหน้าเศร้าหมอง ก้องยิ้มให้แต่เธอกลับไม่แม้แต่จะมองหน้า ดาวเดินขึ้นมายืนอยู่ข้าง ๆ ก้อง ก้มหน้าไม่พูดจาอันใด
เพียงเท่านี้ก้องก็รู้คำตอบแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอ่ยวาจาใด ๆ สีหน้าและท่าทางมันบ่งชี้ทุกอย่าง
"งั้นเหรอ เราขอโทษนะ" ก้องเอ่ยเศร้า ๆ ยิ้มออกมาแล้วก้มหน้าหันหลังกลับ จากนี้ไปเขาจะไม่มาพบเธออีก คำขอของเขาส่งไปไม่ถึงดวงดาวสินะ มันจบแล้ว
"ก้อง" ดาวเอ่ยขึ้นเสียงเคลือ ก้องหยุดยืนนิ่ง
"ดาวก็รักก้องนะ รักมาก ดาวขอโทษที่ไม่ได้บอกก้องไปตั้งแต่วันนั้น" ดาวพูดเบา ๆ มีเสียงสะอื้นปนออกมา ก้องหันกลับมามองทันทีด้วยสีหน้าดีใจ
"วันนี้มันคงสายไปแล้วสินะ ทำไมก้องทิ้งดาวไว้แบบนี้"
ดาวพูดต่อ สุดท้ายสาวน้อยก็เกินจะฝืนความรู้สึก เธอทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ตัวโยน สองมือกุมแหวนเงินวงนั้นไว้แนบอก แหวนที่เป็นตัวแทนความรักที่ก้องมีให้เธอ แหวนที่เป็นสิ่งดี ๆ สิ่งสุดท้ายที่ก้องมอบให้เธอ วันนั้น หากเธอจะกล้าอีกสักนิด ตอบรับคำขอนั้นไป เธอคงจะไม่มานั่งเสียใจอยู่แบบนี้
ก้องยืนมองเพื่อนสาวคนสนิทนั่งร้องไห้ เขาอยากจะเข้าไปโอบกอดเพื่อปลอบโยน แต่เขาทำไม่ได้ ร่างของเขาค่อย ๆ โปร่งแสงและกำลังจะเลือนหายไป ใช่แล้ว เขาจากไปเพราะอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ แต่ไม่เป็นไร บัดนี้เขาได้รับรู้คำตอบแล้ว เขารักดาวและดาวก็รักเขาเช่นกัน
"ขอบคุณ เราจะรอดาวนะ เราจะรออยู่ที่นี่"
กาลเวลาล่วงเลยผ่านพ้น หกสิบปีล่วงผ่าน ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามวิวัฒนาการของโลก ผู้คนมากมายใช้ชีวิตในแบบที่ตนหวัง หลายคนจบชีวิตลงตามอายุขัย สิ่งปลูกสร้างมีการรื้อถอนทุบทิ้งสร้างใหม่ทดแทนของเดิม แต่ที่แห่งนี้ ผาหินปูนที่ตระหง่านเงื้อมนี้ไม่เคยเปลี่ยน มันยังคงอยู่ทนทานสู้แดดลมฝนอย่างไม่หวั่นเกรง
"แม่คะ ทำไมป้าดาวถึงต้องขึ้นมานั่งบนนี้ทุกปีล่ะคะ แกอายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว สุขภาพก็ไม่ดีด้วยหนูเป็นห่วง"
ดรีมถามดวงผู้เป็นแม่ออกไปด้วยความสงสัย ดวงเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของดาว เธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่สาววัยเจ็ดสิบปลาย ๆ ดีทุกอย่าง รู้ถึงสาเหตุว่าทำไมพี่สาวของเธอจะขึ้นมาที่นี่ปีละครั้งมิเคยขาด รู้ถึงสาเหตุที่พี่สาวเธอไม่เคยตกลงปลงใจรับรักชายใด แม้คนที่เข้ามานั้นจะดีเลิศเพียงไหน แต่ดาวพี่สาวของเธอก็ปฏิเสธไปทั้งหมด ครองตัวเป็นโสดอยู่เช่นนี้ตั้งแต่เรียนจบม.ปลายจนถึงปัจจุบัน
"ที่นี่มีรักแท้และรักเดียวของป้าดาวน่ะลูก" ดวงตอบลูกสาว สายตาก็มองไปยังร่างของหญิงชราที่นั่งพิงก้อนหินใหญ่อยู่
"มาแล้วเหรอดาว"
เสียงใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ดาวหันไปมองก็พบว่าเป็นเด็กชายม.ปลายคนหนึ่ง ใบหน้า ดวงตา เธอจำได้ดี เธอยิ้มพยักหน้าน้อย ๆ แล้วตอบออกไป
"อื้ม! รอนานมั๊ย ไปกันเถอะก้อง"
ก้องยิ้มส่ายหน้าน้อย ๆ
"ไม่นานเลย"
ก้องตอบพลางยื่นมือมาทางดาว เธอยกมือซ้ายขึ้นจับมือนั้นไว้ นิ้วนางของเธอสวมแหวนเงินวงเล็กอยู่ มันสลักอักษรย่อ DK เช่นเคย เพียงแต่หลังอักษรนั้นมีคำ ๆ หนึ่งถูกสลักเพิ่มลงไป forever.
ภาพของนักเรียนม.ปลายสองคน เดินจับมือยิ้มให้กัน หัวเราะอย่างมีความสุข ทั้งคู่เดินขึ้นไปบนบันไดที่สร้างจากดวงดาว ทอดยาวจากฟากฟ้าอันแสนไกลลงมาสู่ก้อนหินใหญ่เบื้องล่าง ปลายทางนั้นจะเป็นเช่นไรทั้งคู่มิอาจรู้ แต่มันจะต้องเต็มไปด้วยความสุขอย่างแน่นอน
บัดนี้ คำขอของก้องส่งถึงดวงดาวแล้ว บนผืนฟ้าที่ความมืดค่อย ๆ กลืนกิน ท่ามกลางแสงดาวที่พราวพร่างระยิบระยับ ดาวสองดวงที่อยู่ใกล้กัน เปล่งแสงแวววาวเด่นกว่าดาวดวงอื่น
ภูเขา ผืนป่า ท้องฟ้ากว้าง เป็นพยานให้ความรักที่บริสุทธิ์ของทั้งคู่ หรีดหริ่งส่งเสียงระงมบรรเลงเพลงวิวาห์ มันช่างไพเราะเหลือเกิน
นี่คือความรักที่แท้จริง รักที่ไม่ต้องการครอบครอง รักที่ต้องใช้ความอดทนรอ รักที่บริสุทธิ์ รักแท้และรักเดียว ตลอดกาล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้