คำขอถึงดวงดาว

กระทู้สนทนา
เรื่อง คำขอถึงดวงดาว
โดย ผมชื่อง่วง


cr.google.com


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ต้องโทษดาวcr.youtube

        หน้าผาหินปูนสูงตระหง่าน พื้นถูกปกคลุมไปด้วยผืนหญ้าหนานุ่ม หากมองลงไปจะเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลทั่วอาณาบริเวณ ยามนี้ดวงตะวันคล้อยต่ำใกล้ลับทิวไม้ แสงที่เปล่งออกมาจึงเป็นสีแดงเข้มจับขอบฟ้า สีแดงที่ตัดกับสีเขียวอมดำ ภาพนั้นสวยงามราวกับภาพวาดสีน้ำมันของศิลปินลือชื่อผู้ล่วงลับ
        
        ที่แห่งนี้เป็นที่นัดพบประจำของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง หากแต่คนทั้งสองมิใช่คนรักที่นัดกันมาพลอดพร่ำคำหวาน เขาและเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน
        
        ทั้งคู่มักพากันขึ้นมาดูวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ภาพบ้านเรือนยามค่ำ แสงตะวันขณะกำลังลาลับขอบฟ้า มันช่วยผ่อนคลายความเครียดที่เกิดจากการเรียนอย่างหนักมาตลอดทั้งวัน
        
        ก้องและดาว เป็นนักเรียนชั้นปีสุดท้ายของม.ปลาย ช่วงเวลานี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต มันเป็นทางแยกที่ต้องเลือก เป็นก้าวแรกของชีวิตที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง มันสร้างความหนักใจให้วัยรุ่นอย่างพวกเขาเป็นอย่างมาก
        
        "ก้องจะไปเรียนต่อที่ไหนเหรอ" ดาวถามขึ้นขณะที่ทั้งคู่มองดูความงดงามของท้องฟ้ายามเย็น
        
        "ไม่รู้ดิ ก็คงมหาลัยใกล้บ้านนี่แหละ" ก้องตอบ
        
        ในใจเขาตอนนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องเรียนต่อเท่านั้นที่ทำให้กลุ้ม แต่มันยังมีอีกเรื่องที่ชวนอึดอัด มันคั่งค้างในใจมานานแสนนาน
        
        "เราว่าเราจะไปเรียนที่ต่างจังหวัดแหละ" ดาวพูดขึ้น หันหน้ามามองเพื่อนสนิทที่บัดนี้แสงอาทิตย์สีแดงจับใบหน้าจนดูคล้ายเทพเจ้ากวนอูในหนังสือเรียน จากนั้นก็หันกลับไปมองบ้านเรือนยามค่ำอีกครั้ง
        
        "ดาว...เรามีเรื่องอยากจะบอก" ก้องพูดขึ้นเบา ๆ ดาวหันมามองหน้าก้อง พบว่าอีกฝ่ายจ้องอยู่ก่อนแล้ว
        
        "ว่า?" ดาวถามสั้น ๆ
        
        ก้องมองหน้าเพื่อนสนิท นิ่งไปครู่ก่อนจะควักเอาสิ่งหนึ่งยื่นให้
        
        "อะไร" ดาวรับมาอย่างงง ๆ  มันคือแหวนวงเล็กสีเงิน ตัวแหวนสลักอักษรย่อ DK
        
        "เรารักดาวนะ คบกันได้มั๊ย" ก้องเอ่ยขึ้น บัดนี้หน้าเขาแดงเรื่อ ไม่รู้เพราะความเขินอายหรือเพราะแสงในยามเย็น
        
        เกิดความเงียบขึ้นทันที ดาวมองดูแหวนวงเล็กในมือ จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปจับใบหน้าเพื่อนหนุ่ม
        
        "เรา..." ดาวพูอะไรไม่ออก สีหน้าเธอตอนนี้ยากจะเดาความรู้สึก
        
        "ไม่เป็นไร ขอโทษนะ" ก้องยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นหันหลังเดินจากไป
        
        "ก้อง!" ดาวร้องเรียกขึ้น ก้องหยุดกึกทันทีแต่ยังไม่หันกลับมา
        
        "ช่วยรอก่อนได้มั๊ย หลังสอบเสร็จขึ้นมาที่นี่นะ เราจะให้คำตอบ" ดาวบอก ก้องพยักหน้าน้อย ๆ แล้วเดินจากไป
        คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอดาวcr.youtube

        คืนนั้น ก้องนอนไม่หลับ คิดถึงแต่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนเย็น แม้ดาวจะไม่ปฏิเสธเขาแต่เธอก็ไม่ได้ตอบตกลง คำตอบของดาวจะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอไปชั่วชีวิต
        
        เขาแอบรักเพื่อนสาวคนสนิทมานานแล้ว ด้วยความผูกพันธ์ฉันท์เพื่อน เขาจึงไม่กล้าเอ่ยความในใจออกไป เขากลัวจะต้องสูญเสียเธอไป แต่ในเมื่อระยะเวลามันบ่มเพราะความรู้สึกดีจนสุกงอมล้นอก วันนี้เขาจึงตัดสินใจเอื้อนเอ่ยคำพูดต้องห้ามนั้น
        
        ดาวจะคิดยังไงนะ พรุ่งนี้เรายังจะมองหน้ากันได้ไหม อีกอาทิตย์เดียวการสอบก็จะเสร็จสิ้น แต่ระยะเวลาที่ต้องรอคำตอบมันช่างทรมานเหลือเกิน เขาจะทำอย่างไรดี
        
        แต่ในเมื่อตัดสินใจทำลงไปแล้ว บอกไปแล้วผลจะเป็นยังไงก็ต้องยอมรับ มันจะออกหัวออกก้อยก็ต้องก้มหน้ารับไป
        
        ก้องออกมายืนมองดาวที่สนามหน้าบ้าน คืนนี้ฟ้าเปิดทำให้ดวงดาวนับล้านดวงพากันส่องแสงระยิบระยับพร่างพราวเต็มผืนฟ้า ก้องขอพรในใจ ขอให้ความรักของเขาที่มีต่อเพื่อนสนิทสมหวัง ขอให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่อย่าได้มีอันต้องขาดสะบั้นลง
        
        "ผมขอแค่นี้ไม่มากไปใช่มั๊ยครับ" ก้องแหงนหน้ามองดวงดาวแล้วเอ่ยขึ้นกับตนเองเบา ๆ
        
       การสอบที่ยากเย็นและตึงเครียดกินเวลากว่าสามวันสุดท้ายก็สิ้นสุดลง หลายคนดีอกดีใจที่ตั้งแต่วินาทีนี้จะได้เป็นว่าที่นักศึกษา ไม่ใช่นักเรียนมัธยมกางเกงขาสั้นอีกต่อไป หลายคนเป็นกังวลกับผลสอบที่จะออกมาในไม่ช้า
       คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอได้ยินไหมcr.youtube

       ก้องยืนรอดาวอยู่บนก้อนหินใหญ่ที่ตั้งตระหง่านบนเงื้อมผาหินปูน ที่ ๆ เขานัดกันไว้ สถานที่นี้จะเป็นดั่งศาลอันศักดิ์สิทธิ์ แมกไม้นับร้อยนับพันจะเป็นเฉกเช่นพยาน พยานในคำตอบที่ดาวจะมอบให้เขา
       
       ไม่นาน ดาวก็เดินโผล่พ้นแนวสนออกมา เธอเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ด้วยใบหน้าเศร้าหมอง ก้องยิ้มให้แต่เธอกลับไม่แม้แต่จะมองหน้า ดาวเดินขึ้นมายืนอยู่ข้าง ๆ ก้อง ก้มหน้าไม่พูดจาอันใด
       
       เพียงเท่านี้ก้องก็รู้คำตอบแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอ่ยวาจาใด ๆ สีหน้าและท่าทางมันบ่งชี้ทุกอย่าง
       
       "งั้นเหรอ เราขอโทษนะ" ก้องเอ่ยเศร้า ๆ ยิ้มออกมาแล้วก้มหน้าหันหลังกลับ จากนี้ไปเขาจะไม่มาพบเธออีก คำขอของเขาส่งไปไม่ถึงดวงดาวสินะ มันจบแล้ว
       
       "ก้อง" ดาวเอ่ยขึ้นเสียงเคลือ ก้องหยุดยืนนิ่ง
       
       "ดาวก็รักก้องนะ รักมาก ดาวขอโทษที่ไม่ได้บอกก้องไปตั้งแต่วันนั้น" ดาวพูดเบา ๆ มีเสียงสะอื้นปนออกมา ก้องหันกลับมามองทันทีด้วยสีหน้าดีใจ
       
       "วันนี้มันคงสายไปแล้วสินะ ทำไมก้องทิ้งดาวไว้แบบนี้"
       
        ดาวพูดต่อ สุดท้ายสาวน้อยก็เกินจะฝืนความรู้สึก เธอทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ตัวโยน สองมือกุมแหวนเงินวงนั้นไว้แนบอก แหวนที่เป็นตัวแทนความรักที่ก้องมีให้เธอ แหวนที่เป็นสิ่งดี ๆ สิ่งสุดท้ายที่ก้องมอบให้เธอ วันนั้น หากเธอจะกล้าอีกสักนิด ตอบรับคำขอนั้นไป เธอคงจะไม่มานั่งเสียใจอยู่แบบนี้
       
       ก้องยืนมองเพื่อนสาวคนสนิทนั่งร้องไห้ เขาอยากจะเข้าไปโอบกอดเพื่อปลอบโยน แต่เขาทำไม่ได้ ร่างของเขาค่อย ๆ โปร่งแสงและกำลังจะเลือนหายไป ใช่แล้ว เขาจากไปเพราะอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ แต่ไม่เป็นไร บัดนี้เขาได้รับรู้คำตอบแล้ว เขารักดาวและดาวก็รักเขาเช่นกัน
       
       "ขอบคุณ เราจะรอดาวนะ เราจะรออยู่ที่นี่"
       
       กาลเวลาล่วงเลยผ่านพ้น หกสิบปีล่วงผ่าน ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามวิวัฒนาการของโลก ผู้คนมากมายใช้ชีวิตในแบบที่ตนหวัง หลายคนจบชีวิตลงตามอายุขัย สิ่งปลูกสร้างมีการรื้อถอนทุบทิ้งสร้างใหม่ทดแทนของเดิม แต่ที่แห่งนี้ ผาหินปูนที่ตระหง่านเงื้อมนี้ไม่เคยเปลี่ยน มันยังคงอยู่ทนทานสู้แดดลมฝนอย่างไม่หวั่นเกรง
       
       "แม่คะ ทำไมป้าดาวถึงต้องขึ้นมานั่งบนนี้ทุกปีล่ะคะ แกอายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว สุขภาพก็ไม่ดีด้วยหนูเป็นห่วง"
       
       ดรีมถามดวงผู้เป็นแม่ออกไปด้วยความสงสัย ดวงเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของดาว เธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่สาววัยเจ็ดสิบปลาย ๆ ดีทุกอย่าง รู้ถึงสาเหตุว่าทำไมพี่สาวของเธอจะขึ้นมาที่นี่ปีละครั้งมิเคยขาด รู้ถึงสาเหตุที่พี่สาวเธอไม่เคยตกลงปลงใจรับรักชายใด แม้คนที่เข้ามานั้นจะดีเลิศเพียงไหน แต่ดาวพี่สาวของเธอก็ปฏิเสธไปทั้งหมด ครองตัวเป็นโสดอยู่เช่นนี้ตั้งแต่เรียนจบม.ปลายจนถึงปัจจุบัน
       
       "ที่นี่มีรักแท้และรักเดียวของป้าดาวน่ะลูก" ดวงตอบลูกสาว สายตาก็มองไปยังร่างของหญิงชราที่นั่งพิงก้อนหินใหญ่อยู่
       
       "มาแล้วเหรอดาว"
       
       เสียงใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ดาวหันไปมองก็พบว่าเป็นเด็กชายม.ปลายคนหนึ่ง ใบหน้า ดวงตา เธอจำได้ดี เธอยิ้มพยักหน้าน้อย ๆ แล้วตอบออกไป
       
       "อื้ม! รอนานมั๊ย ไปกันเถอะก้อง"
       
       ก้องยิ้มส่ายหน้าน้อย ๆ
       
       "ไม่นานเลย"
       
       ก้องตอบพลางยื่นมือมาทางดาว เธอยกมือซ้ายขึ้นจับมือนั้นไว้ นิ้วนางของเธอสวมแหวนเงินวงเล็กอยู่ มันสลักอักษรย่อ DK เช่นเคย เพียงแต่หลังอักษรนั้นมีคำ ๆ หนึ่งถูกสลักเพิ่มลงไป forever.
       
       ภาพของนักเรียนม.ปลายสองคน เดินจับมือยิ้มให้กัน หัวเราะอย่างมีความสุข ทั้งคู่เดินขึ้นไปบนบันไดที่สร้างจากดวงดาว ทอดยาวจากฟากฟ้าอันแสนไกลลงมาสู่ก้อนหินใหญ่เบื้องล่าง ปลายทางนั้นจะเป็นเช่นไรทั้งคู่มิอาจรู้ แต่มันจะต้องเต็มไปด้วยความสุขอย่างแน่นอน
       
       บัดนี้ คำขอของก้องส่งถึงดวงดาวแล้ว บนผืนฟ้าที่ความมืดค่อย ๆ กลืนกิน ท่ามกลางแสงดาวที่พราวพร่างระยิบระยับ ดาวสองดวงที่อยู่ใกล้กัน เปล่งแสงแวววาวเด่นกว่าดาวดวงอื่น
       
        ภูเขา ผืนป่า ท้องฟ้ากว้าง เป็นพยานให้ความรักที่บริสุทธิ์ของทั้งคู่ หรีดหริ่งส่งเสียงระงมบรรเลงเพลงวิวาห์ มันช่างไพเราะเหลือเกิน
       
       นี่คือความรักที่แท้จริง รักที่ไม่ต้องการครอบครอง รักที่ต้องใช้ความอดทนรอ รักที่บริสุทธิ์ รักแท้และรักเดียว ตลอดกาล

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอแลรักนิรันดร์กาลcr.youtube
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่