สรุปการเดินทางวันที่ 11 ของทริปที่ 140
ดอนไข่แคมป์ อินน เชียงคาน เลย
ลานที่ 11 ของทริป
เมื่อคืนที่อาณาวาโฮมเทล อากาศดีมาก ลมหนาวเริ่มมาแล้ว ทำให้อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ฟ้ามีเมฆมาก ไกลๆ เมฆครึ้ม แต่ก็ไม่มีฝนตก ในเต็นท์ห่มผ้า 2 ผืนและใส่เสื้อกันหนาว อุ่นสบายมากๆ ครับ ออ แม้จะอยู่ติดถนนริมอ่างเก็บน้ำ แต่กลางคืนก็แทบจะไม่มีรถผ่านแล้ว น่าเสียดายที่มีแสงรบกวนสายตาบ้าง จึงมองไม่เห็นดวงดาวที่ฟ้าเปิดมากขึ้น
ตื่นตี 5 นิดๆ ไม่ค่อยอยากลุกจากที่นอนที่อุ่นสบายเลย แต่ก็เพราะวันนี้ต้องขับรถไกล 170 กม. จึงรีบลุกขึ้นมาเก็บผ้าห่ม ที่นอน
เข้าห้องน้ำแล้วเก็บภาพริมอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศดีมาก แสงเริ่มสวยงาม แล้วกลับมาเตรียมมื้อเช้าต่อ ใช้เวลาราวครึ่งชม. ยกออกมานั่งทำทรงหน้าเต็นท์
วิวอ่างเก็บน้ำข้างหน้าสวยงาม ลมพัดเบาๆ อากาศเริ่มสบาย ฟ้าเริ่มเปิด อาหารง่ายๆ จึงอร่อยขึ้นมามากมาย มันฮีลใจมากครับ
เช็ดคราบมัน เศษอาหารแล้วทำความสะอาดแบบง่ายๆ เริ่มทำกิจวัตรประจำวันเช่นเดิม ดีที่ไม่ค่อยมีแดดและอากาศเย็นสบาย ทั้งจอดรถห่างซัก 5 ม.ได้ จึงไม่เหนื่อยนัก ใช้เวลาราว 2 ชม.ก็พร้อมออกเดินทางประมาณ 9 โมงเช้า
ขับย้อนออกไปเข้าทางหลักคือทางหลวงหมายเลข 201 ผ่านอช.ภูผาม่านที่ห่างไปราว 6 กม. ช่วงนี้ถนนไม่ค่อยเรียบ และเริ่มขับขึ้นทางลาดไปอีกราว 20 กม.ช่วงนี้เป็นถนน 2 เลน ผ่านอำเภอภูกระดึง พ้นช่วงนี้จะเป็นถนน 4 เลนไปจนถึงเชียงคานครับ
ผ่านวังสะพุง แวะตลาดนัดท้องถิ่นที่อยู่ริมถนน คึกคักมาก จึงจอดรถและแวะช้อป ได้กับข้าวติดมือมานิดหน่อย ปวดเจ็บอีกแระ คราวนี้เป็นหน้าแข้ง
ออกเดินทางต่อ จนเข้าตัวเมืองเลย เจอไฟจราจรตรงทางแยกเยอะมาก น้อยกว่า 10 จุดไม่เท่าไร จึงทำเวลาช่วงนี้ไม่ได้ แต่ที่จริงผมก็ขับไม่เร็วมากนัก แค่ 90 กม.เอง จะได้ประหยัดน้ำมัน
มาถึงลานก่อนเที่ยงนิดหน่อย ประตูเข้าลานเปิดแล้ว ผมติดต่อมาก่อนแล้ว ขับเข้ามาด้านใน บรรยากาศดีมาก แปลกใจที่ดูแลพื้นที่ได้ดีมาก ทั่วทั้งลานที่มี 3 ระดับ แทบไม่มีจุดไหนที่รกรุงรังเลยครับ
ขับรถลงมาจอดลานระดับ 2 เลือกกางจุดนี้ ที่จริงลานล่างสุด จะใกล้ชิดริมน้ำมากกว่า แต่ต้องขนของลงบันไดไปอีกหลายเมตร และยกของไปจุดที่เลือกอีก ซึ่งลำบากแน่
กาง Bushcraft แล้วกางเต็นท์ จัดบ้าน ดีที่จอดรถติดเต็นท์ได้เลย จึงไม่เหนื่อยนัก ใช้เวลาชม.ครึ่งได้
ทำมื้อเที่ยงต่อ ง่ายๆ อุ่นแกงซอง หุงข้าว แล้วนั่งกิน มองวิวน้ำโขงไปด้วย ดีต่อใจ อิ่มแล้วนั่งๆ นอนๆ พักผ่อน อากาศเย็นสบายจริงๆ ไม่ต้องใช้พัดลมเลย ฟ้าเริ่มเปิด ทั้งที่ตั้งแต่ขับรถมา ฟ้าครึ้มตลอดทางเลย
เกือบ 5 โมงเย็น ขับรถไปถนนคนเดินที่อยู่ห่างไปประมาณ 4 กม. หาที่จอดรถยากเลยครับ แม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ก็จอดจนได้ หน้าโรงเรียนครับ
ท้องฟ้าริมน้ำโขงเริ่มเป็นแสงทองสวยงามเหมือนทุกครั้งที่เคยมา เก็บภาพประทับใจ แล้วเดินไปถนนคนเดิน เริ่มปวดหน้าแข้งอีก เดินช้าๆ นั่งพักบ้างตามเหมาะสม ร้านแผงลอยเปิดได้ 20% มั้งครับ ส่วนร้านห้องแถวเปิดปกติ
ไม่ได้อะไรติดมือ เพราะคุ้นเคยและไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร เดินย้อนกลับ คราวหน้ามีปลอกรัดหน้าแข้ง ช่วยลดการปวดได้เยอะเลย เดินรวดเดียวกลับไปที่รถ
ฟ้ามืดแล้ว ค่อยๆ ขับกลับลาน เพราะฟิล์มกันแสงกระจกหน้าทึบไป+สายตาคนแก่ ขับเลยลานไปนิด เข้ามาจอดด้านในเช่นเดิม คืนนี้เหมาลานครับ (ตอนบ่ายโมงเข้ามาคันนึง แต่คงไม่ถูกใจ)
ลานเปิดไฟสว่างให้แล้ว ไม่น่ากลัวอะไร เพราะข้างๆ เป็นบ้านที่มีคนอยู่อาศัย แล้วเตรียมตัวอาบน้ำ ห้องน้ำเรียบง่าย แต่สะอาดจนแปลกใจ ที่สำคัญมีน้ำอุ่นครับ อาบสบายตัวมากๆ เลยครับ แล้วเตรียมมื้อค่ำง่ายๆ รองท้องหน่อยนึง ก่อนนอน
จบอีกวันที่มีความสุข
สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน
1.มื้อเช้า 35 บาท
2.ค่ากาง 100 บาท
3.มื้อเที่ยง 65 บาท
4.มื้อเย็น 20 บาท
5.แตงโม 13 บาท (4 ลูก 50 บาท)
รวม 233 บาท
สะสม 6,661 บาท
สรุปการเดินทางวันที่ 11 ของทริปที่ 140
ดอนไข่แคมป์ อินน เชียงคาน เลย
ลานที่ 11 ของทริป
เมื่อคืนที่อาณาวาโฮมเทล อากาศดีมาก ลมหนาวเริ่มมาแล้ว ทำให้อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ฟ้ามีเมฆมาก ไกลๆ เมฆครึ้ม แต่ก็ไม่มีฝนตก ในเต็นท์ห่มผ้า 2 ผืนและใส่เสื้อกันหนาว อุ่นสบายมากๆ ครับ ออ แม้จะอยู่ติดถนนริมอ่างเก็บน้ำ แต่กลางคืนก็แทบจะไม่มีรถผ่านแล้ว น่าเสียดายที่มีแสงรบกวนสายตาบ้าง จึงมองไม่เห็นดวงดาวที่ฟ้าเปิดมากขึ้น
ตื่นตี 5 นิดๆ ไม่ค่อยอยากลุกจากที่นอนที่อุ่นสบายเลย แต่ก็เพราะวันนี้ต้องขับรถไกล 170 กม. จึงรีบลุกขึ้นมาเก็บผ้าห่ม ที่นอน
เข้าห้องน้ำแล้วเก็บภาพริมอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศดีมาก แสงเริ่มสวยงาม แล้วกลับมาเตรียมมื้อเช้าต่อ ใช้เวลาราวครึ่งชม. ยกออกมานั่งทำทรงหน้าเต็นท์
วิวอ่างเก็บน้ำข้างหน้าสวยงาม ลมพัดเบาๆ อากาศเริ่มสบาย ฟ้าเริ่มเปิด อาหารง่ายๆ จึงอร่อยขึ้นมามากมาย มันฮีลใจมากครับ
เช็ดคราบมัน เศษอาหารแล้วทำความสะอาดแบบง่ายๆ เริ่มทำกิจวัตรประจำวันเช่นเดิม ดีที่ไม่ค่อยมีแดดและอากาศเย็นสบาย ทั้งจอดรถห่างซัก 5 ม.ได้ จึงไม่เหนื่อยนัก ใช้เวลาราว 2 ชม.ก็พร้อมออกเดินทางประมาณ 9 โมงเช้า
ขับย้อนออกไปเข้าทางหลักคือทางหลวงหมายเลข 201 ผ่านอช.ภูผาม่านที่ห่างไปราว 6 กม. ช่วงนี้ถนนไม่ค่อยเรียบ และเริ่มขับขึ้นทางลาดไปอีกราว 20 กม.ช่วงนี้เป็นถนน 2 เลน ผ่านอำเภอภูกระดึง พ้นช่วงนี้จะเป็นถนน 4 เลนไปจนถึงเชียงคานครับ
ผ่านวังสะพุง แวะตลาดนัดท้องถิ่นที่อยู่ริมถนน คึกคักมาก จึงจอดรถและแวะช้อป ได้กับข้าวติดมือมานิดหน่อย ปวดเจ็บอีกแระ คราวนี้เป็นหน้าแข้ง
ออกเดินทางต่อ จนเข้าตัวเมืองเลย เจอไฟจราจรตรงทางแยกเยอะมาก น้อยกว่า 10 จุดไม่เท่าไร จึงทำเวลาช่วงนี้ไม่ได้ แต่ที่จริงผมก็ขับไม่เร็วมากนัก แค่ 90 กม.เอง จะได้ประหยัดน้ำมัน
มาถึงลานก่อนเที่ยงนิดหน่อย ประตูเข้าลานเปิดแล้ว ผมติดต่อมาก่อนแล้ว ขับเข้ามาด้านใน บรรยากาศดีมาก แปลกใจที่ดูแลพื้นที่ได้ดีมาก ทั่วทั้งลานที่มี 3 ระดับ แทบไม่มีจุดไหนที่รกรุงรังเลยครับ
ขับรถลงมาจอดลานระดับ 2 เลือกกางจุดนี้ ที่จริงลานล่างสุด จะใกล้ชิดริมน้ำมากกว่า แต่ต้องขนของลงบันไดไปอีกหลายเมตร และยกของไปจุดที่เลือกอีก ซึ่งลำบากแน่
กาง Bushcraft แล้วกางเต็นท์ จัดบ้าน ดีที่จอดรถติดเต็นท์ได้เลย จึงไม่เหนื่อยนัก ใช้เวลาชม.ครึ่งได้
ทำมื้อเที่ยงต่อ ง่ายๆ อุ่นแกงซอง หุงข้าว แล้วนั่งกิน มองวิวน้ำโขงไปด้วย ดีต่อใจ อิ่มแล้วนั่งๆ นอนๆ พักผ่อน อากาศเย็นสบายจริงๆ ไม่ต้องใช้พัดลมเลย ฟ้าเริ่มเปิด ทั้งที่ตั้งแต่ขับรถมา ฟ้าครึ้มตลอดทางเลย
เกือบ 5 โมงเย็น ขับรถไปถนนคนเดินที่อยู่ห่างไปประมาณ 4 กม. หาที่จอดรถยากเลยครับ แม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ก็จอดจนได้ หน้าโรงเรียนครับ
ท้องฟ้าริมน้ำโขงเริ่มเป็นแสงทองสวยงามเหมือนทุกครั้งที่เคยมา เก็บภาพประทับใจ แล้วเดินไปถนนคนเดิน เริ่มปวดหน้าแข้งอีก เดินช้าๆ นั่งพักบ้างตามเหมาะสม ร้านแผงลอยเปิดได้ 20% มั้งครับ ส่วนร้านห้องแถวเปิดปกติ
ไม่ได้อะไรติดมือ เพราะคุ้นเคยและไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร เดินย้อนกลับ คราวหน้ามีปลอกรัดหน้าแข้ง ช่วยลดการปวดได้เยอะเลย เดินรวดเดียวกลับไปที่รถ
ฟ้ามืดแล้ว ค่อยๆ ขับกลับลาน เพราะฟิล์มกันแสงกระจกหน้าทึบไป+สายตาคนแก่ ขับเลยลานไปนิด เข้ามาจอดด้านในเช่นเดิม คืนนี้เหมาลานครับ (ตอนบ่ายโมงเข้ามาคันนึง แต่คงไม่ถูกใจ)
ลานเปิดไฟสว่างให้แล้ว ไม่น่ากลัวอะไร เพราะข้างๆ เป็นบ้านที่มีคนอยู่อาศัย แล้วเตรียมตัวอาบน้ำ ห้องน้ำเรียบง่าย แต่สะอาดจนแปลกใจ ที่สำคัญมีน้ำอุ่นครับ อาบสบายตัวมากๆ เลยครับ แล้วเตรียมมื้อค่ำง่ายๆ รองท้องหน่อยนึง ก่อนนอน
จบอีกวันที่มีความสุข
สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน
1.มื้อเช้า 35 บาท
2.ค่ากาง 100 บาท
3.มื้อเที่ยง 65 บาท
4.มื้อเย็น 20 บาท
5.แตงโม 13 บาท (4 ลูก 50 บาท)
รวม 233 บาท
สะสม 6,661 บาท