มนุษย์เงินเดือน จำเป็นต้องรักองค์กร??

สับสนครับคือบางทีรู้สึกเหมือนมีการปลูกฝังว่าต้องรักองค์กร defend องค์กร (รักษาชื่อเสียงภาพลักษณ์ อันนี้เข้าใจ) ซึ่งเวลาได้ยินคำอวยหรือคำชม ว่าดีอย่างนู้นอย่างนี้ ฟังแล้วก็แบบ......อ่ะนะ นอกบ้านแบบนึงหลังบ้านอีกแบบนึง คงเป็นปกติ 
อย่างไรก็ตามแล้วถ้าองค์กรนั้นไม่รักในตัวพนักงาน ลูกจ้าง ไม่ใส่ใจ ไม่เห็นค่าหรือให้ความสำคัญแม้แต่ที่จะให้โอกาสเติบโตก้าวหน้า สวัสดิการที่ดี
รวมถึงการจ่ายค่าตอบแทนที่โอเค ฉะนั้น จำเป็นหรือครับ....ที่ต้องปลูกฝังพยามให้รักองค์กร
รึในมุมมองอาจเห็นเป็นแค่ฟันเฟืองที่สามารถหาใหม่มาทดแทนได้ ตามประโยคที่ได้ยินบ่อยๆนั้นรึป่าว...
หลักๆเลยคิดว่าทำงานเพื่อแลกเงินแค่นั้น ถ้าจะให้รัก หรือการ respect คิดว่าขอเน้นไปที่ตัวบุคคลคงดีกว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
ขอมาตอบในอีกมุมมองนึงนะครับ อาจไม่ถูกใจใครหลายคน

ผมเป็นคนที่ทำงานบริษัทเดียวมาตลอด 30 กว่าปี ไม่เคยเปลี่ยนงาน ทำตั้งแต่เป็นพนักงานระดับปฏิบัติงานตัวเล็ก ๆ เงินเดือนไม่กี่พัน จนขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับกลาง เงินเดือนหกหลัก ทำตั้งแต่บริษัทเปิดใหม่แบบเช่าอู่ซ่อมรถเก่าทำงาน จนกลายเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์

...ช่วงเริ่มต้นทำงานใหม่ ๆ รักองค์กรหรือเปล่าไม่รู้ แต่เอาเป็นว่ารักงานที่ทำ รักเจ้านาย รักเพื่อนร่วมงาน แบบทำงาน จันทร์-เสาร์ เช้าถึงเย็น แต่พอถึงวันอาทิตย์ไม่รู้ไปไหน เจ้านายโทรมาตามให้ขับรถพาแวะไปดูหน้าโรงงานแบบเข้าไปทำงานไม่ได้เพราะไม่มีกุญแจ ตอนนั้นเข้าใจอารมณ์หนุ่ม ๆ เลยที่ว่า ไม่เห็นหน้าสาว เห็นหลังคาบ้านก็ชื่นใจแล้ว

ผมเข้าใจอารมณ์เด็กรุ่นใหม่ ทำงานแลกผลประโยชน์ แต่ก็อยากแชร์ความรู้สึกของคนรุ่นเก่า ทำงานแบบเติบโตมาพร้อม ๆ กับองค์กร พอองค์กรใหญ่ขึ้น เราก็มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้น ถึงวันนี้ที่เรามีพร้อมทุกอย่าง มีครอบครัว มีบ้าน มีรถ มีเงินเก็บ มันจะรู้สึกว่ามีวันนี้ได้ก็เพราะองค์กรนี่แหละ ช่วงต้มยำกุ้งปี 40 คนอื่นออก เราก็อยากออก (หวังเงินชดเชย) แต่นายพูดดึงไว้ไม่ให้ออก เราก็ไม่ออก พอผ่านวิกฤตบริษัทฯ เติบโต เราก็โตมาแบบกลายเป็นคนทำงานรุ่นเก่าในยุคบุกเบิกที่ยังเหลืออยู่ไม่กี่คน

วันนี้ถึงวิกฤตโควิด กลายเป็นว่าต่อให้บริษัทล้ม เราก็ไม่เจ็บตัวหรืออดตาย เพราะเก็บไว้จนพอเหลือ มีที่ทางปลูกต้นไม้ มีลู่ทางทำกิน มีเงินเก็บสะสม ปลูกกล้วยปลูกอ้อย เลี้ยงไก่กินไข่ แต่ก็ไม่เคยลืมว่ามีวันนี้เพราะองค์กร

...มนุษย์เงินเดือน จำเป็นต้องรักองค์กรมั้ย...อยากให้ลองหลับตานึกว่าถ้าเราไม่ใช่มนุษย์เงินเดือน ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการ เราจะรักกิจการของเรามั้ย นั่นแหละครับ...มนุษย์เงินเดือนทุกคนก็เป็นเจ้าของกิจการนั่นแหละครับ เราขายความสามารถของเรา แล้วองค์กรก็เป็นลูกค้าที่ซื้อความสามารถของเรา โดยจ่ายเงินค่าความสามารถของเราเป็นเงินเดือน...มันก็ง่าย ๆ แบบนั้นแหละครับ...
ความคิดเห็นที่ 9
รักองค์กร ก็เหมือนกับเรา รักที่ที่เราอยู่ค่ะ เหมือนรักบ้าน รักโรงเรียน รักประเทศ รักโลก รักเพื่อนร่วมโลก
เราตีความแบบนี้ รักคืออยากพัฒนาให้ดี ให้เติบโต พัฒนา มีผลกำไร เอาเงินและเวลาของบริษัทไปช่วยสังคมได้ถ้าบริษัทมีศักยภาพ มาเพิ่มสวัสดีการพนักงาน มีการจ้างงานมากขึ้น เปิดรับเด็กฝึกงาน ทำให้ที่ทำงานมีคุณค่ากับชุมชน
ตัวเราเองทำเพื่อเงินก็ใช่ แต่เราก็อยากมีความภูมิใจ ที่ได้มีส่วนทำเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว และสังคมในเวลาเดียวกัน…มันฟังดูสวยหรูก็จริง แต่มันเป็นทัศนคติที่บางคนมีได้จริงกับที่ทำงานของเค้าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 3
พนักงานในองค์กรไม่จำเป็นต้องรักองค์กรครับ

ควรใช้คำว่า "ซื่อสัตย์กับองค์กร" มากกว่าคำว่า "รักองค์กร" เพราะการที่จะรักสิ่งใดสิ่งหนึ่งมันต้องมีทั้งความผูกพัน ทั้งความสุข ความทุกข์ และเวลาที่อยู่ร่วมกันมาไม่ได้เกิดขึ้นแค่ วันสองวัน หรือเดือนสองเดือน แต่คำว่าซื่อสัตย์ จะเหมาะสมกว่ามาก เพราะเขาจ่ายเงินให้เรา เราก็ต้องคืนด้วยความซื่อสัตย์ ตั้งใจทำงาน รักษาผลประโยชน์ ปฏิบัติตามกฎ ขององค์กรนั้นๆ ซึ่งต้องทำทันทีเมื่อเป็นพนักงานขององค์กรนั้นๆ เห็นไหม เรื่องเวลาที่เข้ามาไม่เกี่ยวข้องกันเลย

ดังนั้นผู้บริหารคนใดคนหนึ่ง พูดว่า ให้รักองค์กร ผมจะดูว่าเขาอยู่นานแค่ไหน ถ้าเพิ่งเข้า ผมก็คงเดาได้ว่าเขาก็พูดตามแพทเทิร์นตามๆกัน แต่ถ้าอยู่มานาน ตำแหน่งเติบโตมาเรื่อยๆกับองค์กรนั้นๆ ก็คงอนุมานได้ว่า สิ่งที่เขาพูดมาจริง ก็คงฟังเขาพูดคำต่อๆมา
ความคิดเห็นที่ 2
ใช่  ตามด้านบน  คือคำพูดสวยหรูไว้หลอกใช้    เห็น  ๆ ฝ่ายบริหารนี่แม่มตัวดีเลย  รักตัวเองยิ่งกว่าใคร  แต่ปาก เวลาแสดงออกนี่รักองค์กรยิ่งกว่าใคร
ความคิดเห็นที่ 14
ผมซื่อสัตย์กับองค์กรครับ แต่ไม่ใช้พวกรักแบบพลีกายถวายชีพ เพราะเคยเห็นคนที่พลีกายถวายชีพจนเจ็บป่วย...สุดท้ายโดนองค์กรถีบหัวส่งครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่