จิตมีดวงเดียวแต่มีหลายอาการ

พยัญชนะหลายพยัญชนะที่แสดงสภาพความเป็นจริงของจิต 
 ข้อความในพระอภิธรรมปิฎก  ธัมมสังคณีปกรณ์  มีดังนี้ คือ
  “จิต  มีในสมัยนั้น  เป็นไฉน ? 
 จิต  มโน  มานัส  หทัย  ปัณฑระ  มนายตนะ  มนินทรีย์ วิญญาณ  วิญญาณขันธ์  มโนวิญญาณธาตุ
อันสมกัน  ในสมัยนั้น 
 อันใด นี้ ชื่อว่าจิต มีในสมัยนั้น”

-จิต  ในความหมายว่า 
คิด  อธิบายว่า รู้แจ้งอารมณ์  
จิตทุกประเภท ย่อมรู้แจ้งอารมณ์ตามควรแก่จิตขณะนั้นๆ  
  และจิต เป็นธรรมที่วิจิตร ด้วย   คือ 
ต่างๆ กัน ไม่เหมือนกัน  ความต่างกันของจิต นั้น 
ก็โดยอำนาจของธรรมที่เกิดร่วมด้วย คือ เจตสิกประการต่างๆ

-จิต ชื่อว่า มโน หรือ มนะ  ในความหมายว่า รู้อารมณ์ 
 คำว่า อารมณ์  หมายถึง  สิ่งที่จิตรู้ 
เมื่อจิตซึ่งเป็นสภาพรู้หรือธาตุรู้เกิดขึ้น  
สิ่งที่จิตกำลังรู้ในขณะนั้น เรียกว่าเป็นอารมณ์ในขณะนั้น
 เสียงมีจริงเป็นรูปธรรมอย่างหนึ่ง   
 เมื่อสิ่งที่แข็งกระทบกันก็เป็นปัจจัยให้เสียงเกิดขึ้น  
แต่ถ้าในขณะนั้นจิตไม่เกิดขึ้นรู้เสียงนั้น 
 เสียงนั้นก็ไม่เป็นอารมณ์ของจิตในขณะนั้น 
ไม่ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย 
 แต่จิตไม่ได้เกิดขึ้นรู้สิ่งนั้น  สิ่งนั้นก็ไม่เป็นอารมณ์    
ฉะนั้นสิ่งที่จะเป็นอารมณ์ของจิตก็ต่อเมื่อจิตรู้สิ่งนั้น

-มานัส หรือ มนัส  มีความหมายเดียวกันกับ มนะ คือ รู้อารมณ์

-หทย หรือ หทัย  เป็นสภาพธรรมที่อยู่ภายใน 
 จิตจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า หทย  หรือ  หทัย 
 เพราะมีความหมายว่า เป็นสภาวะอยู่ภายใน 
 ทำให้เข้าใจได้ว่าจิตไม่ได้อยู่ข้างนอก 
ไม่ได้อยู่ภายนอก แต่ความหมายของภายใน ในที่นี้  
คือ จิตเป็นสภาพธรรมที่กำลังรู้สิ่งที่ปรากฏซึ่งเป็นภายนอก
 สิ่งใดที่ปรากฏ สิ่งนั้นเป็นภายนอก
 เพราะเป็นอารมณ์ของจิตที่กำลังรู้  
แม้เจตสิกประการต่างๆ ที่เกิดร่วมกับจิต  ก็ยังเป็นภายนอก 
 เพราะสิ่งที่อยู่ภายในที่สุด คือ จิต
การศึกษาเรื่องจิต 
เป็นการพิจารณาให้เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏอยู่ในขณะนี้ 
ถ้าไม่เคยคิดเลยว่าจิตอยู่ที่ไหน
 ก็ไม่สามารถรู้ลักษณะของจิตได้ 
เพราะมีจิต แต่ไม่รู้ว่าจิตอยู่ที่ไหน 
จิตเป็นสภาพรู้ เป็นธาตุรู้ เป็นอาการรู้ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน
  เมื่อเข้าใจว่าจิตเป็นสภาพธรรมที่เป็นภายใน 
 ในขณะเห็น จิตไม่ได้อยู่ข้างนอก 
สีสันวรรณะที่กำลังปรากฏเป็นภายนอก 
จิตเป็นสภาพธรรมที่อยู่ภายใน คือ
 ที่กำลังรู้สิ่งที่กำลังปรากฏทางตา 
นี้คือการอบรมเจริญปัญญา 
ที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริง
ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง 
ถ้าไม่รู้อย่างนี้ก็หาจิตไม่พบ 
 ไม่สามารถจะรู้ได้ว่านั่นแหละคือจิต 
 ที่ว่ามีจิตนั้น  ก็ไม่ได้นอกเหนือจากชีวิตประจำวันเลย  
ในขณะที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้เอง
 สิ่งที่ปรากฏให้เห็นปรากฏภายนอก 
ส่วนสภาพที่กำลังเห็นนั้นเป็นจิต   
 จิตเป็นสภาพธรรมที่เป็นอาการรู้ 
เป็นธาตุรู้สิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็นทางตา  
 นอกจากนั้นแล้ว 
ในขณะที่ได้ยิน  ได้กลิ่น  ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส 
คิดนึก เป็นกุศลบ้าง เป็นอกุศลบ้าง 
 ทั้งหมดนี้คือความเกิดขึ้นเป็นไปของจิตซึ่งเป็นสภาพธรรมที่อยู่ภายใน

-
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่