เรื่องราวของหนูเป็นปัญหาทางครอบครัวและคนนอก เรื่องการเงิน รวมอยู่ในเรื่องนี้ทั้งหมดและมีต่อนะคะเรื่องจริงทั้งหมด

สวัสดีค่ะ หนูชื่อ แอม อายุ 22 จะมาเล่าเรื่องราว ชีวิตที่เจอมากับตัว ภายในครอบครัว และคน นอก ปัญหาชีวิตหนู มีมาแต่สมัย ตา กับ ยาย แล้ว แต่ครั้งนี้ มันเกิดขึ้นหนู ทุกช่วงเวลา หนูจะเล่าเริ่มจาก แม่ป่วยก่อน และเรื่องของพ่อ

ช่วงปี 2019 เป็นช่วงที่ หนูกับแม่ลำบากกัน พ่อทำงานซ่อมรองเท้า แถมพระราม2 พ่อมีนิสัย ติดเหล้า ชอบด่า ตี หนูกับแม่ ชอบบังคับ ชอบโกหก และ หนูก็ไม่แบบนั้น หนูเคยโดนพ่อตี มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เพราะเรื่องไปเที่ยงห้างกับพี่แล้วกลับดึก จนต้องเดินกลับกับพี่สาว พอเราสองคนถึง บ้าน  แม่ก็ถามว่าไปไหน มา  โดนแน่ พ่อกำลังตามหา พอ พ่อถึงบ้าน ก็พูดว่า ไปไหนทำไม่มาหาพ่อ ตอนนั้น หนู น่าจะ ป2-3นี่แหละ โดนพ่อใช้ไม้กวาดตี จนร่างกาย เป็นรอยไม้ช้ำแดง มันเป็นบาดแผล จิตใจหนูมาตลอด แม่ก็อยากช่วยหนูถ้าช่วยแม่ก็จะโดนพ่อ ตบ ตีไปด้วย แม่เลยต้องยอม หนูกับพี่สาว อยู่ด้วยกันมากับพ่อกับแม่อยู่บ่อยครั้ง บ้างที่แม่ก็โดนลูกหลง บ้างครั้งเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะ พ่อตีแม่ตบแม่จนช้ำก็มี พี่ชาย ก็ห้าม ก็โดนพ่อจบเหมือนกัน นับตั้งแต่วันนั้น พ่อก็เป็นคน ที่ ไม่มีใครอยากจะรักด้วย เพราะด้วยนิสัย ของพ่อ ผ่านมาปี 2018 ปีนี้เป็นช่วงแม่รู้สึกตัวไม่ดี หนูจบม.3มา ก็ทำงานไม่ทน กดดัน อย่างที่พี่ชายบอก แหละ หนูอยู่บ้านตา เวียนไปมาช่วยพ่อทำงาน ซ่อมรองเท้าติดหนี้นอกระบบ รายวัน มีครั้งนึง แม่เริ่มนั่งจับใต้เต้านม จับลูบๆ ไปมา เหมือนมีก้อนแข็งๆ หนูเลย บอกแม่ว่าไปหาหมอก่อนนะแม่ ให้หมอตรวจเช็คดูว่าเป็นอะไร หนูก็ภาวนาอย่าให้แม่เป็นอะไรมาก หลังจากที่แม่พบหมอ ว่าเป็นก้อนเนื้อ เฉยๆ แม่ก็ต้องลางานไปผ่าตัด ช่วงก่อนนี้ ก่อนที่แม่จะสังเกตมีก้อนเนื้อ ช่วงนั้นหนูไปทำงานกับแวะไปนอนบ้านตลอด ทุกครั้ง ช่วงนั้นแม่อยากนอนกับหนูอยากให้หนูดูแล แม่มองหน้าหนู เศร้าๆ หนูเลยต้องยอมโทรไปบอกน้ากับตาว่านอนกับแม่นะ ตากับน้าก็โอเค หลังจากตัองไปโรงบาลอีก รอบนึง คุณ หมอก็ เอกซเรย์ แม่หนู ก็บอกพบก้อนเนื้อ หนูไม่รู้ว่าแม่เป็น ก้อนเนื้ออะไร แม่ก็ไม่รู้ หรืออาจจะรู้แต่ไม่บอกหนู พอถึงวันนัดหมอ เช็คห้อง ที่ว่างอยู่ แม่ก็ได้ห้องพิเศษ มา ซึ่งแม่หนูใช้สิทธิ ข้าราชการ เบิกจ่ายฟรี เพราะทำงาน กวาดถนน เพราะหลังจากนัดวันผ่าตัด หนูกรอแม่ข้างบน จนแม่ผ่าตัดเสร็จ แม่ก็แบบเจ็บ ตอนอยู่ห้องผ่า คือจะรอให้แม่หนูตื่นพักฟื้นตัวก่อน เพราะอาจจะมีอาการแทรกซ้อน  เดี๋ยวหนูมาเล่าต่อนะคะ
2 พอหลังจากนั้น แม่พักฟื้นตัวได้2 อาทิตย์กว่า  อยู่โรงบาลมี กายภาพบำบัดร่างกาย ประมาณนี้แม่ก็กลับมาเดินได้ พอแม่กลับมาได้ปกติ ก็ต้องมีแวะไปโรงบาลเพื่อตรวจเช็คอาการ และหลังจากนั้นก็จะมีการเริ่ม ให้ คีโม เพราะคุณหมอ ได้ มานั่งคุยกับหนูว่า คนไข้ เป็นมะเร็งเต้านมระยะที่3 หนูก็ตกใจทำไรไม่ถูกได้แต่เป็นกำลังใจให้แม่ พอหลังจากแม่ออกจากโรงบาลได้ หนูก็ต้องเป็นคนดูแลแม่ เช็ดตัว หาซื้อกับข้าว มาให้แม่ หนูมี พี่น้อง 3คน หนูเป็นคนเล็กๆ หนูมีเวลาอยู่กับแม่มาตลอด พี่ชาย พี่สาวก็แวะมาเยี่ยมครั้งสองครั้ง พอหลังจากนั้นมา เริ่มให้คีโม ช่วงเข้าปี 2019 หนูพยายามจะจำเรื่องราวที่คิดว่า หนูไว้ในใจมาตลอดนะคะ ช่วงปีนั้น แม่เริ่มให้คี โม รอบแรกอาการก็ดีๆปกติ แต่มีปัญหาเรื่องต้องการใช้เงิน พ่อหนูเมาไม่มีเงินให้แม่กินข้าว หนูจำเป็นต้องเอามือถือมัดจับไว้ เพื่อเอาเงินมาให้แม่ไปโรงบาลวัน พรุ่งนี้ พี่ชายก็มายืมเงินแม่ จังหวคที่หนูต้องไปมัดจับ พอดี หนูเลยเสียสละ เพื่อแม่ สมัยช่วง คีโม เป็นอะไรที่แย่มาก เพราะจะไม่มีเงินกินข้าวกันหนูก็ต้องเสียสละให้แม่กินข้าวก่อน ทุกครั้ง มีครั้งนึง แม่ ได้โบนัส ปีมา แม่สัญญาจะซื้อมือถือใหม่ให้หนู ช่วงเราสองคนไปตลาดกัน หนูไปซื้อมือถือ แม่ก็ยังเดินได้ ปกติ ก็ไปซื้อกับข้าวมา ทำเพราะอยากกิน หนูไปรับช่วยถือของและเรียกแท็กซี่มารับ นั่งทำกับข้าวกับแม่ปกติ พอวันถัดมา  พ่อบอกอยากกลับบ้านอุตรดิตถ์ ก็พากันกลับบ้านแบบเร่งเรียบ แม่ก็เดินไม่ไหว มีบ้างจังหวังแม่โมโหที่หนูเดินเร็วๆ
พอถึงวันรุ่งเช้าของวันถัดไปก็มาถึงบ้าน ย่า พ่อหนูก็ทำตัวเหมือนเดิม กินเหล้าเมา ชวนเพื่อนมากิน กินจนเงินจะหมดจังหวังนั้น พ่อเมาค้าง บอกให้หนูกับแม่เก็บของรีบกลับบ้านกรุงเทพๆ คือทำอะไร ไม่มีคำ ว่า นัดล่วงหน้า เลยถ้าไปเลยก็ต้องไป พอหนูนั่งเล่นrov อยู่ว่าหนูไม่ฟัง พ่อลุกขึ้นมากระทืบหนู แม่เห็นก็ห้าม และก็ร้องให้ เหตุผลอะไรถึงกระทืบหนู หนูจะขวางมีด แม่ กับ ย่า มาห้าม ตอนนั้นร้อง ให้หนักมาก จน ต้องไปหาป้า บอกว่าพ่อตีพ่อกระทืบหนู เมาแล้วมาทำร้ายอีก หนูจะกลับกรุงเทพฯอย่างเดียว ด้วย อารมณ์โมโหและชั่ววูบ ไม่ได้คำนึงถึง แม่ที่กำลังป่วย แม่โทรมาร้องให้ บอกว่า หนูต้องรอแม่ดูแลใครจะดูแลแม่ หนูก็ได้แต่นั่งเงียบสงบ และก็กลับบ้านย่าไปหาแม่ แม่ก็กอดหนู ร้องให้กับหนู  มีต่อนะคะ

3
พอหลังจากวันนั้น หนูกับแม่ กลับบ้าน กัน มาถึงบ้านห้องพัก เหมือนเคย หาข้าวให้แม่กิน พาไปโรงบาล พอ วันสองวันถัดมา หนูทะเลาะกับพี่สาว ไม่มาหาแม่ไม่มาเยี่ยม แวะมาขอตังทั้งที่แม่ป่วย พอพึ่งรู้ว่าแม่ได้เงินโบนัส กับมาโวยวายไม่แบ่งหนูไม่ให้หนูแม่ตามใจไอแอม ทำไมหนูไม่ได้ หนูเลยพูด ไม่สมควรได้ แม่กำลังป่วยอยู่ก็ต้องเก็บเงินสำรองไว้หาหมอ จะมาขูดเลือดขูดเนื้อแม่อีกนะ คนที่ควรจะให้เงินต้องเป็น มีครั้งนึง พี่สาวไปเที่ยว พัทยากับเพื่อนคือช่วงนั้นแม่ป่วยอยู่ และอยู่โรงบาล พี่สาวก็สนุกเอาแต่สนุกมีความสุขทั้งทีแม่ป่วย ไปเที่ยวได้แต่แค่ ตื่นมา 6-7โมง เพื่อมาหาแม่ไม่ได้ เพราะพี่สาวเข้างาน 10-11 โมง เพราะเราโมโห ไปเที่ยว สุขสบายคนเดียว พอไม่มีตังมาขอแม่ พอแม่ของบ้างก็มาพูด อย่างนู้นอย่างนี้กับ หนูเลยโกรธพี่สาวมาก ก็เลยโกรจมาเลื่อยๆ อาทิตย์ผ่านไป คุณเริ่มให้ คีโม ตัวใหม่แรงกว่าเดิม ทั้งขั้นทำให้แม่หนูเดินไม่ได้ต้องใช้รถเข็น พอให้ตีโมครั้งนี้ แม่กับมีอาการที่แย่ลง หงุดหงิดง่าย ไม่อยากอาหาร กินน้อย ครั้งนี้ ก็ไปตรวจ เอกซเรย์ พบก้อนเนื้ออีกก้อน มันทับเส้น ที่กระดูกสันหลังนี้เป็นสาเหตุที่แม่เดินไม่ได้  หนูก็ร้องให้หนัก เพราะมันเป็นผ่าตัดใหญ่มาก ถึงขั้นเป็นห่วงมากๆ เริ่มกระจายข่าว ให้พ่อ พี่ชาย พี่สาว ตากับน้า ญาติพี่น้อง ฝ่ายทางพ่อ เพื่อนแม่ ก็พากันมาเยี่ยม ปลอบใจ เพราะต้องเตรียมตัว อาทิตย์นึง ก่อนจะอยู่ช่วงวันผ่าตัด  คือช่วงนั้นหมอให้หาเงินมาประมาณ หมื่นๆต้นเพื่อไป อัลตร้าซาวด์ แถว เยาวราช โรงบาลเอกชน จำไม่ได้ แต่ด้วยไม่มีเงิน คุณหมอ ก็รอไม่ให้เลยต้องให้นอนโรงบาลเพื่อใช้สิทธิ์ คุณหมอก็ช่วยเต็มกำลัง  จนได้ผ่าตัดใหญ่ วันผ่าตัดใหญ่ต้องให้ พ่อ หรือพี่ชาย พี่สาวมาเซ็นรับรองการผ่าตัดหนูไม่สามารถเซ็นได้เพราะ ว่า ด้วย เรื่องอายุไม่ถึง 20ปี พ่อก็เซ็นคุณหมอถามพ่อรู้เรื่องเกี่ยวการผ่าตัดการตรวจเจอครั้งนี้ พ่อสายหน้าหนูต้องตอบแทบเพราะหนูอยู่กับแม่มาตลอด ครั้งนี้ก็โกรธพ่อทุกครั้ง ว่า พึ่งมารู้ตัวเหรอว่า แม่ป่วยหนัก พึ่งมารักอะไรมาดูแลอันตอนนี้ ก่อนหน้านี้ทำไมไม่ดูแล แม่ทั้งที่แม่รักพ่อมาก หนูก็ทำไรไม่ได้ พอถึงวันผ่าตัดคือใหญ่ คือเป็นวันที่หนูเศร้าที่สุด  เป็นทั้งวันเกิด หนูและวันรอแม่ผ่าตัดเสร็จหนูรอแม่จนจะเที่ยงคืน แม่ก็ไป อยู่ ห้อง ไอซียู  ห้องสำหรับดูแลคนไข้ใกล้ชิด เข้าได้11โมง บายโมง หกโมง จำได้ประมาณนี้ เพราะเข้าห้องไอซียูไป หนูก็เห็นแม่นอนบนเตียงให้ออกซิเจน แม่ยังไม่ฟื้น เลยกลับบ้านไป แล้ว พรุ่งนี้มาเยี่ยมแม่ใหม่
4
พอวันรุ่งขึ้น เข้าไปห้อง ไอซียู เห็นแม่นั่งดูดน้ำในแก้วได้ ตาใสแป๋ว หนูเลยเข้าไปหาแม่ถามว่าเป็นไงบ้างเจ็บปวดตรงไหน แม่บอกนิดหน่อย พอหมดเวลาเยี่ยม หนูก็ลงไปกินข้าวแล้วกลับมารอแม่ รอบบายโมงเค้าเปิด พบว่า แม่หายใจแรง เลยถามว่าคุณหมอแม่หนูเป็นอะไร น้ำท่วมปอด ดื่มน้ำเยอะไป ทำให้ร่างกายอ่อนล่า หายใจไม่สะดวกหายใจติดขัด อาการแทบทรุด แอมเลยเห็นแล้วอยากจะร้องให้ มากกก พ่อก็แวะมาเยี่ยมแม่อยู่ทุกครั้ง มาพูดว่าแม่ป่วยหนัก พูดกับหนูเหมือนไม่รู้เนอะ หนูรู้ก่อนพ่อมาตั้งแต่แม่ป่วยวันแรกแล้ว พ่ออย่าเป็นเข้าใจอะไรตอนนี้ หนูก็รอๆแม่ๆ ญาติพี่น้องมาเยี่ยม อยู่ห้อง ไอซียูได้ อาทิตย์นึง คุณหมอโยกย้ายแม่หนูไปอยู่ ห้อง ศักยภาพหญิง อยู่ใกล้ๆข้างทางเข้าออกใกล้ๆหมอ แม่บ่นว่า อยากกินน้ำส้มมาตลอด ตั้งแต่อยู่ห้อง ไอซียู ก็แอบให้ แม่อยากลิ้มรสน้ำที่มีรสชาติสดชื่น ให้นิดนึง อยู่ห้องศักยภาพหญิงก็ให้แม่ดื่มนิดนึง นั่งเล่นกับแม่ เป็นผ้าแพมเพิส ให้แม่ตลอดทุกช่วงเวลารักษา แม่อยู่ห้องศักยภาพหญิงได้อาทิตย์นึง พอถึงวัน อังคารที่ 17 กันยายน 2561 ได้รับทราบข่าวจากคุณพยาบาลว่า คนไข้ หัวใจหยุดเต้น หนูแทบทรุด รีบ ไปหาแม่ด่วนที่โรงบาลคุณหมอ ปั้มหัวใจ ยื้อชีวิตได้แค่วันเดียว แม่อยากเจอพี่ชายอยากเจอพ่อ หนูนั่งรอแม่ครั้งสุดท้ายตอนจะใกล้สีทุ่ม บอกกับแม่ว่า แม่หนูกลับบ้านก่อนนะ กระซิบที่ข้างหู แม่ กลับบ้านก่อนนะ พอหนูกลับบ้านช่วงตี 1ตี2 หนูนอนไม่หลับได้ยินเสียงอะไร เคาะมาจากด้านนอกไม่ได้เอะใจอะไร พอรู้ว่าแม่เสียแล้วก็แทบจะเป็นบ้าร้องให้ไม่หยุด พี่ชายพี่สาวก็ต้องลางานเพื่อมาหาแม่ทั้งหมดทุหคนมาหมด ทุกคนๆมาหมดทุกคนเลย หลังจากย้ายแม่ไป วัด พรหมรังษี ก็มีเรื่องราวเกิดขึ้น ราวฉาว อีกเยอะเลย เกี่ยวกับเงินแม่ที่ทำเป็นชื่อหนู หนูจะมาเล่าต่อให้ฟัง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่