JJNY : อ.แปดริ้วมึนตร.ชี้ข้อมูลวงจรปิดล่องหน│ยอดใช้น้ำมันม.ค.-ก.พ. 64ร่วง12.7%│'ฮาน เลย์'อยู่ไทยต่อ2ด.│กะเหรี่ยงหนีตาย

อาจารย์แปดริ้วร้อง ‘ชวน’ สอบ ‘ส.ส.พปชร.’ รัวหมัดใส่ มึนตร.ชี้ข้อมูลวงจรปิดล่องหน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6234334

อาจารย์แปดริ้วร้อง ‘ชวน’ สอบ ‘ส.ส.พปชร.’ รัวหมัดใส่ เผยถูกทำร้ายเพราะคิดนโยบายหาเสียงช่วยคู่แข่งพ่อส.ส. ไม่เคยมีความขัดแย้ง มึนตร.ชี้ข้อมูลวงจรปิดล่องหน
 
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่รัฐสภา นายนพพร ขุนค้า อาจารย์สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ เข้ายื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร ผ่านน.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ คณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร
 
เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมนายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ กรณีถูกทำร้ายร่างกายที่ร้านอาหาร 13 november เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เพราะเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายกระทำความผิดว่าด้วย “ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ.2563” หมวด 2 จริยธรรมอันเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกและกรรมาธิการ
 
นายนพพร กล่าวว่า ตนมาเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม การกระทำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เห็นว่าเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ให้รู้ว่าบ้านเมืองนี้มีขื่อมีแป อยู่ภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญ จึงอยากให้ทางสภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับตนในฐานะผู้ถูกทำร้ายร่างกาย และเพื่อสร้างความกระจ่างและรักษาเกียรติภูมิของสภาผู้แทนราษฎรในสายตาของประชาชน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคมในวงกว้าง ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่ามีหลักฐานอย่างเพียงพอ
 
ด้านน.ส.ผ่องศรี กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายชวนให้มาเป็นผู้รับเรื่อง โดยหนังสือฉบับนี้จะได้ลงรับและไปดำเนินการตามขั้นตอนของคณะกรรมการจริยธรรม โดยจะมีการตรวจสอบข้อมูลทั้งผู้ร้องว่ามีเอกสารตามระเบียบถูกต้องหรือไม่ นอกจากนั้นจะส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการกลั่นกลองข้อมูล แลเข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการ ซึ่งจะมีการตรวจสอบข้อมูลโดยเชิญผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาให้ข้อมูล เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เมื่อผ่านอนุกรรมการก็จะส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง หากคณะกรรมการรับเรื่องแล้วจะดำเนินการภายใน 60 วัน นับจากวันที่ทางคณะกรรมการรับเรื่อง ซึ่งทางสภาจะตรวจสอบด้วยความถูกต้องและความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
 
จากนั้นนายนพพร กล่าวว่า ยังมีอาการเจ็บที่หน้าอกจากการถูกถีบอยู่ ขอยืนยันไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายชัยวัฒน์ ทุกคนไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องนายชัยวัฒน์ ตนเจอก็ยกมือสวัสดี เพราะเป็นผู้ใหญ่ของจังหวัด ในวันเกิดเหตุไปเจอนายชัยวัฒน์ที่ร้านอาหาร ขณะนั้นกำลังไปห้องน้ำ เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน นายชัยวัฒน์เรียกตนไปถามเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ผ่านมาว่า ได้ไปช่วยหาเสียงให้จ.อ.ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ อดีตผู้สมัครนายกฯอบจ.ฉะเชิงเทรา ที่เป็นคู่แข่งพ่อของนายชัยวัฒน์ ใช่หรือไม่ ซึ่งตนยอมรับว่าได้คิดนโยบายหาเสียงให้ แต่ไม่ได้ช่วยหาเสียง เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐไปช่วยใครหาเสียงไม่ได้ แต่การเมืองผ่านไปแล้ว ต้องยอมรับความเห็นต่าง
 
ในวันเกิดเหตุ ผมต้องใช้สติให้เหตุการณ์ผ่านพ้นไป โดยไม่มีการตอบโต้ๆใด มีแต่พูดว่า พี่ครับๆ พี่ฟังผมก่อนครับ ถึงจะผ่านพ้นมาได้ แต่สภาพจิตใจยังเป็นกังวล เพราะผมเป็นอาจารย์ตัวเล็กๆในจังหวัด เป็นคนต่างถิ่นมาสอบบรรจุได้ที่จ.ฉะเชิงเทรา”นายนพพร กล่าว
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลเรื่องการถูกทำร้ายซ้ำอีกหรือไม่ หลังจากออกมาให้ข่าว มีการถูกข่มขู่จากฝ่ายคู่กรณีอีกหรือไม่ นายนพพร กล่าวว่า ยังไม่มี แต่มีคนเป็นห่วง เชื่อว่าบ้านเมืองมีขื่อแปร จะทำกันแบบไม่เคารพกฎหมายคงอยู่กันไม่ได้ เชื่อว่า กฎหมายบ้านเมืองยังใช้ได้ ส่วนข้อมูลจากภาพกล้องวงจรปิดในร้านอาหารที่เกิดเหตุตั้น ได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองฉะเชิงเทราว่า ข้อมูลไม่เหลือแล้ว เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ถูกถอดออกไป เหลือแต่ตัวกล้อง คงต้องใช้พยานบุคคล เหตุการณ์ขณะนั้นร้านใกล้ปิด เปิดไฟสว่างชัดเจน คนทั้งร้านมอง แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร เพราะนายชัยวัฒน์เป็นผู้ใหญ่ในจังหวัด ไม่มีใครกล้ามาห้ามปราม ต้องใช้พยานบุคคล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกคนที่เห็นเหตุการณ์ไปสอบแล้ว รวมถึงตนด้วย และเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ตนและนายกสมาคมทนายความไปสอบถามผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เรื่องภาพจากกล้องวงจรปิด ทางผกก.ยืนยันว่า ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด อาจหาไม่เจอ ต้องใช้พยานบุคคลยืนยัน
 
เมื่อถามว่ามองหรือไม่ข้อมูลที่จากกล้องที่หายไป อาจไปเชื่อมโยงกับคู่กรณีหรือไม่ นายนพพรกล่าวว่า ไม่กล้าปรักปรำ แต่เป็นสิ่งที่ตั้งข้อสงสัยคือ เรี่องความปลอดภัยสาธารณะในร้านอาหาร ต้องตั้งคำถามว่า ชาวฉะเชิงเทรายังมีความปลอดภัยหรือไม่ ร้านที่เกิดเหตุมีกล้องทุกมุม ตนไปประจำคิดว่า ถ้าบริเวณห้องน้ำมีกล้องอยู่จะได้ภาพชัดเจน เพราะเป็นจุดเกิดเหตุครั้งยอมรับว่า กังวลจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะนายชัยวัฒน์เป็นส.ส.ฝ่ายรัฐบาล  กลัวว่าคดีจะล่าช้า อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุนายชัยวัฒน์ยังไม่มีการติดต่อใดๆมา ตนไม่ได้อาฆาตมาดร้าย แต่ต้องทำในฐานะประชาชนคนหนี่ง หากถูกคุกคามแล้วไม่กล้ามาร้องทุกข์ก็คิดว่า บ้านเมืองคงอยู่กันลำบาก ต้องมาร้องเรียน
 
ต่อข้อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งส่วนตัว นายนพพร กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวต้องมีความขัดแย้งทะเลาะกันมาก่อน แต่เหตุการณ์คนไม่รู้จักกัน นายชัยวัฒน์ก็ไม่รู้จักกับตน เคยเจอกันตามงานบุญ งานบวชแต่อยู่คนละโต๊ะ ไม่เคยต่อว่าต่อเถียงอะไรกัน แต่ยอมรับลูกศิษย์ตนอยู่ฝั่งนายชัยวัฒน์เป็นจำนวนมาก
 
เมื่อถามว่า จะฝากอะไรถึงพล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายนพพร กล่าวว่า กราบเรียนพล.อ.ประวิตรในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า ขอความเป็นธรรมจริงๆ ตนไม่ได้ไประรานนายชัยวัฒน์จนทำให้โมโห แต่อยู่ดีๆก็เกิดเหตุไม่คาดคิดถึง ถือว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตเลย หากพล.อ.ประวิตรยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ไม่ควรแสดงความคิดเห็นดีกว่า
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จแล้ว นายนพพรได้เปิดเสื้อโชว์บาดแผลที่หน้าอก ที่ยังมีรอยแดงอยู่ให้ผู้สื่อข่าวดู โดยระบุว่ารอยที่เกิดไม่ได้เกิดจากพระที่คล้องคอ แต่โดนถีบที่หน้าห้องน้ำ ร้านอาหาร 4-5 ครั้ง ขณะนี้อาการยังเจ็บอยู่ เวลาตะโกนสอนหนังสือก็ยังเจ็บอยู่ แต่ที่ชัดเจนคือ แผลบริเวณใบหน้าที่ถูกชก มีปัญหาตอนเคี้ยวอาหาร เหมือนช้ำใน
 

 
ติดเชื้อโควิด-19 ฉุดยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงม.ค.-ก.พ. 64 ร่วง 12.7%
https://www.thansettakij.com/content/Macro_econ/473984
 
ติดเชื้อโควิด-19 ฉุดยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 64 ลดลง 12.7%
  
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 2 เดือนของปี 2564 (มกราคม-กุมภาพันธ์)  ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.7% โดยกลุ่มเบนซินลดลง 6.7% ,กลุ่มดีเซลลดลง 3.7% ,น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลง 79.8% ,น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 34% ,น้ำมันก๊าดลดลง 9.9% ,LPG เพิ่มขึ้น 1.3% และ NGV ลดลง 42% เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ที่ส่งผลให้การใช้ในเดือนมกราคม 2564 ต่ำกว่าปกติ
  
ทั้งนี้ การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.6 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 6.7%) โดยการใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.7 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 11.8%) สำหรับกลุ่มแก๊สโซฮอล์ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 28.9 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 6.6%) เมื่อพิจารณาแยกชนิดน้ำมัน พบว่า แก๊สโซฮอล์ อี85 ปริมาณการใช้ลดลงมากที่สุดโดยลดลงมาอยู่ที่ 0.7 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 39.4%) รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 ปริมาณการใช้อยู่ที่ 7.2 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 20.5%)
 
และแก๊สโซฮอล์ อี 20 ปริมาณการใช้อยู่ที่ 6.0 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 10.2%) ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 95 ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.0 ล้านลิตร/วัน (เพิ่มขึ้น 6.8%) ความต้องการใช้กลุ่มเบนซินที่ลดลงเป็นผลมาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งในช่วงต้นปี 2564 ส่งผลให้ภาครัฐต้องออกมาตรการควบคุมพื้นที่ในเดือนมกราคม 2564
 
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 65.2 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 3.7%) เช่นเดียวกับกลุ่มเบนซินที่ปริมาณการใช้ในเดือนมกราคม 2564 อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี7 มีปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 39.2 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 26.6%) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 22.9 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.0 ล้านลิตร/วัน
  
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.2 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 79.8%) เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและการโดยสารเครื่องบินได้รับผลกระทบหนักอย่างต่อเนื่อง
  
การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 16.0 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 1.3%) โดยปริมาณการใช้ในภาคปิโตรเคมีมีการใช้มากที่สุดอยู่ที่ 6.5 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 18.5%) เนื่องจากการขยาย Line ผลิตปิโตรเคมี ถัดมาเป็นภาคอุตสาหกรรมมีการใช้อยู่ที่ 1.9 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 2.5%) ขณะที่ภาคขนส่งมีการใช้ลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 1.8 ล้านกก./วัน (ลดลง 30.9%) รองลงมาเป็นภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.8 ล้านกก./วัน (ลดลง 1.2%)
  
การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 2.9 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 42.0%) โดยเป็นผลต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถ NGV ที่ยังคงลดลง
 
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 915,751 บาร์เรล/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 4.6%) โดยการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงมาอยู่ที่ 890,885 บาร์เรล/วัน (ลดลง 3.3%) ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าลดลงมาอยู่ที่ 45,598 ล้านบาท/เดือน (ลดลง 23.1%) เนื่องจากปริมาณนำเข้าและราคาน้ำมันดิบที่ลดลง สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐานน้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) ลดลงมาอยู่ที่ 24,866 บาร์เรล/วัน (ลดลง 36.2%) คิดเป็นมูลค่านำเข้ารวมอยู่ที่ 1,428 ล้านบาท/เดือน (ลดลง 37.1%)
 
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 175,871 บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้น 0.4%) คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 9,799 ล้านบาท/เดือน (ลดลง 12.8%)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่