คบกับแฟน6ปีจะเลิกหรือไปต่อดีใจนึงรักผูกพันธ์ อีกใจก็เอือมกับพฤติกรรมที่แก้ไม่ได้!

เรากับแฟนอายุ26ปี คบกันมาเข้าปีที่6แล้ว อยู่กันกันมา5ปีแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้มีปัญหาหลายเรื่องชีวิตเราไม่มีใครจึงทำให้ไม่มีคนให้ปรึกษา(แม่เสียไปปีที่แล้ว ม่วนพ่อไม่ได้ติดต่อตั้งแต่เล็กพ่อแม่แยกทางกัน) เรามาเจอแฟนคนนี้ก็ได้รับการดูทั้งจากแฟนและครอบครัวแฟนมาอย่างดีจนเป็นครอบครัวจริงๆ แต่พอเรามีปัญหากับลูกชายเค้า เราก็ยังไม่กล้าบอกครอบครัวเขาเพราะลึกก็มีระยะห่างทางสายเลือด  เริ่มจากแฟนเรามีพฤติกรรมแปลกตอนคบกันได้3ปี เขาเริ่มใส่เสื้อใน ใส่บาร์ และใส่กางเกงในลูกไม้ผู้หญิง เราก็เห็นตลกไม่คิดอะไรก็ปล่อย จนเขาเริ่มหนักขึ้นใส่ตลอด ใส่ไปทำงานใส่ตลอดเวลาจนมองเห็นเราก็รู้สึกแย่ๆมากขึ้น เราเลยเริ่มบอกเขาว่าไม่โอเค มันผิดปกติ และต่อให้นี้เป็นตัวเธอชั้นก็รับไม่ได้ เอาเป็นว่าถ้าตะคบชั้นต่อเลิกพฤติกรรมนี้ซะ เอาไปทิ้งให้หมด ผ่านไป 1 ปี เรามาจับได้เห็นเสื้อในอยู่ในกระเป๋าทำงาน เราปี๊ดและเป็นเรื่องก็ขอเลิก ซึ่งเขาก็มาง้อตาม เราใจอ่อนก็ให้อภัยและบอกว่าอย่ามีอีกนะ ตามเดิม จนปัจุบัน เราซื้อบ้าน (กู้เดี่ยวเป็นชื่อเรา) เราแยกกันนอน แยกกันใช้ของ ล่าสุดเราเห็นกางเกงในลูกไม้ เราก็รู้สึกแต่เราเหนื่อยที่จะพูดเลยปล่อย
ตอนนี้เราไม่กล้าเปิดเข้าไปห้องเขา กลัวเจอเสื้อในมากๆ  ... นี้คือปัจจัย1 ที่เราไม่โอเค

ปัจจัยที่2 ต่อมา เราเริ่มเอือมในส่วนของการใช้เงิน คือแฟนเราพื้นฐานครอบครัวปานกลาง ระดับดี มีหน้าตา มีครบ ตรงข้ามเรา เราจนมากลำบากมากับแม่ พื้นฐานนิสัยเราเลยเป็นคนคิดเยอะ ทำงานเก็บเงินวางแผน พยามยามสร้างทุกอย่างด้วยตัวเอง และเราเลยกู้ซื้อรถ 2ปีที่ และผ่อนเอง ย้ำจ่ายเองทุกอย่าง แต่เมื่อก่อนเราอาศัยคอนโดแม่แฟน เราจึงคิดว่าแฟนไม่ต้องช่วยผ่อนหรอก แค่จ่ายค่าน้ำมันเวลาใช้ก็พอเพราะแฟนใช้เป็นหลัก จนผ่านไป การงานเราเริ่มดีขึ้นเลยกู้ซื้อบ้าน  กู้เดี่ยว แต่จดทะเบียนสมรสกันแล้ว (ทุกอย่างเราพยายามกู้คนเดียวเพราะเรากลัวอนาคตไม่แน่นอนและอีกอย่างเราผ่อนคนเดียว) ซึ่งทุกอย่างผ่อนมาได้ปกติด้วยตัวเรา ถามว่าแล้วแฟนข่วยเรื่องอะไร ช่วยเรื่องกิน น้ำมัน งานบ้านงานเรือน ไปรับ ส่ง ทุกวัน ตามนี้ค่ะ เราเลยทำงานได้แบบเต็มที่ 

ผ่านไปเหมือนจะดีแล้ว แฟนเหมือนอยากมีส่วนในการช่วยลดภาระ เขาจึงเลือกจะช่วยผ่อนรถให้เราต่อ ซึ่งเลยบอกว่าได้เพราะเธอใช้ถ้าผ่อนจนปิดได้เรายกให้เป็นชื่อเธอเลย  อยู่มาวันนึงเขาก็มาบอกจะกู้เอาเงินสดมาปิดเลย เราไม่เห็นด้วยอย่างแรงเพราะ มันจะเสียดอกสองทาง แต่ก็ไม่สามารถห้ามเขาได้ เขาก็ไปกู้และได้เงินมา ซึ่งยอดปิดรถ300k แต่เขากู้มา600k เพราะอยากแต่งบ้านต่อเติมครัว เราก็โอเคเดี๋ยวช่วยผ่อนในส่วนแต่งบ้าน ทีนี้ผ่านไปมา ก็เกิดเปลี่ยนใจไม่ปิดรถและเอาเงินไปใช้แต่งบ้านประมาณ2แสน ส่วนที่เหลือเราไม่รู้ เราให้อิสระในการบริหาร เพราะคิดว่ามันเป็นสิทธิของเขา ก็ปล่อยผ่าน จนมาวันนึงงานเราเริ่มมีปัญหา สถานการณ์โควิดเข้ามายอดขายตก ค่าคอมลดลงฮวบ เราเลยกังวล อ่อลืมบอกแฟนจ่ายค่างวดรถเราทุกเดือนนะ เพราะยังไม่ได้ปิด  

เราก็เลยถามแฟนว่าเงินที่กู้มาเหลือเท่าไหร่ เราไปปิดรถกันไหมจะลดภาระ จะได้เหลือแค่บ้าน เพราะเรากลัวเขาใช้เงินหมด คำตอบที่ได้คือ เงินเหลืออยู่60,000 เราตกใจมากๆ ก็ปี๊ดถามไปไหน เขาตอบไม่รู้ก็ใช้แต่งบ้านใช้ซื้อนู่นนี้ ไล่คำตอบไม่ได้  เพราะเขาไม่ได้จดว่าซื้ออะไรไป เราก็ร้องไห้เครียดมาก เท่ากับเรามีหนี้ รถ + บ้าน ส่วนแฟนหนี้สหกรณ์ (แฟนเป็นราชการ) เราก็เลยหาทางแก้ เลยบอกเอาเงินที่เหลือมา จะเก็บเอง แฟนบอกว่าอยู่ในบิทคอย เรายิ่งจี้ดดดดด  เพราะมันถอนออกว่าต้องใช้เวลา และแฟนเล่นบิทคอยโดยไม่ปรึกษาหรือคุยกับเราสักคำ เราเสียใจมากๆ

เราเลยไปหย่า พอหย่าเสร็จก็คุยว่าจะยังอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม แต่ขอสบายใจเรื่องเงิน ปรากฎว่าเรื่องถึงแม่แฟนเพราะเราต้องไปเปลี่ยนนามสกุลที่ทะเบียนบ้านแม่แฟน (ทะเบียนบ้านอยู่ตั้งแต่คบกัน) แม่แฟนก็กล่อมให้กลับมาจดทะเบียนเหมือนเดิม ใจเราก็อ่อนเหมือนเดิม

สรุป ความรู้สึกตอนนี้เราค่อนข้างเอือม และเบื่อ แต่เราไม่รู้ว่ารักหรือผูกพันธ์ ที่ตัดเขาไม่ได้ ข้อดีคือเขาทำให้ทุกอย่าง ใช้ง่าย ให้ทำไรทำหมด งานบ้านงานเรือน(ยกเว้นงานช่าง) ทำกับข้าว มารับมาส่ง ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ เหมือนเดิม เรื่องผู้หญิงไม่มี เรื่องผู้ชายไม่รู้ แอบคิดตอนใส่เสื้อเสื้อในแหละ ณ ตอนนี้เราไม่เคยเช็คอะไร ไม่จู้จี้จุกจิก เราให้พื้นที่กันและกัน คือโดยรวมมันเหมือนจะดี แต่ก็ไม่ดี เรารู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกบางครั้งอยากเลิก อยากอยู่คนเดียว แต่ก็กลัวการอยู่คนเดียว เราชินที่มีเขา ตอนนี้เหมือนเรารอให้เขาเป็นฝ่ายหมดรักแล้วบอก เราพร้อมไปตลอด แต่เขาก็ดีทุกอย่าง แต่ใจอยากหย่า อีกรอบแต่ไม่อยากให้ครอบครัวเขารู้ เราเหนื่อยที่ต้องอธิบาย เพราะคนสองคนมันมีรายละเอียดมากเกินจะอธิบาย ตอนนี้เราเองสับสนกับความรู้สึก เราไม่มีใครและไม่อยากมีใคร เราอยากหาความสุขในชีวิตจริงๆ แต่ตอนนี้เราพะวงหน้าพะวงหลัง เพราะแฟนเหลือเงินที่จะผ่อนรถได้แค่10งวด รถเหลืออีก 5ปี  แล้วเงินเดือนแฟนก็ไม่เยอะ คือตอนน้ีมันมีปัญหาเรื่องเงินแหละหลักๆ เราอยากรู้ว่าถ้าทุกคนที่มาอ่านเป็นเราจะเลือกทำอย่างไรต่อหลังจากนี้ ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่