..........เสือ สิงห์ กระทิง อินทรี ........ตอนที่ ๑๖........@@ โดย ลุงแผน

กระทู้สนทนา


                                                                               ..........( เสือ สิงห์ กระทิง อินทรี )........... 
 
 
 
 
        ภาคต่อ
 
 
        ตอนเดิมครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

        ตอนที่  ๑๖
 
 
.........เอก จ้องหน้าเจมส์นิ่งเมื่อได้ยินเธอเรียกเขาแบบนั้น หลังจากอึ้งไปอึดใจเขาจึงส่งปืนให้น็อตแล้วเดินเข้าในห้องนอน แม่นุ่มคลายวงแขนจากแม่แก้วขณะเสียงสะอื้นเบาลงแต่ยังหายใจขัด ๆ เพราะใจคอไม่ดี งามตาจึงนั่งลงข้าง ๆ แล้วกุมมือแม่แก้วไว้พลางยิ้มแบบปลอบใจ  เอกก้าวเข้ามาแล้วนั่งข้างแม่นุ่มวางมือลงบนมือเธอก่อนเอ่ยออกมา
 
          “แม่นุ่มเล่าเรื่องเอกให้ฟังหน่อยสิ”..
 
           
 
        เสียงกู่ดังอยู่ใกล้ ๆ  เจมส์จำได้ว่าเป็นเสียงพ่อ จึงมองหน้าน็อตแล้วหันกลับเดินลงบันได ขณะเดชกับชัยเข้ามาใต้ถุนตรงไปที่เก้าอี้วางกระเป๋าผ้าบนโต๊ะแล้วนั่งลง
 
          “เห็นแค่สามคน ไม่เห็นไอ้เบิ้ม” 
 
          เดชพูดพลางเอียงไรเฟิลในมือหงายช่องกระสุนขึ้นรั้งคานเหวี่ยงเปิดช่องแล้วล้วงกระสุนในกระเป๋าออกมาใส่ลงทีละนัดจนเต็มจึงดึงคานเหวี่ยงกลับอย่างเดิมแล้วหันไปทางเจมส์ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล
 
          “ข้างบนเป็นไงกันมั่งเจมส์”
 
            เดชถามออกมาตาชำเลืองมองบนบ้าน ชัยมองหน้าลูกสาว ยิ้มให้แล้วก้มหน้าใส่กระสุนเข้าปืนตัวเอง
 
           “ปลอดภัยจ้ะ แม่นุ่มก็อยู่นี่”
 
          ชัยเงยหน้าขึ้นแล้วมองสบตาเดชเมื่อได้ยินคำพูดเจมส์
 
          “แม่นุ่มมาได้ไง”
 
          ชัยถามเบา ๆ หันมองหน้าเจมส์ขณะเธอตอบมา
 
          “งามตา ลูกของอาคมพามา”
 
          เดชกับชัยหันมองหน้ากันก่อนมองเจมส์ 
 
          “ยุ่งละสิ แล้วตอนนี้เค้าอยู่ไหน”
 
          ชัยเอ่ยถามพลางหันไปกลางลาน
 
          “อยู่ข้างบนจ้ะ อาคมกำลังตามมาลูกน้องเค้ามาก่อน ไม่รู้โดนใครยิงอยู่ตรงรถน่ะ”
 
          “น่าจะเป็นไอ้เบิ้ม”  เดชพูดออกมา
 
          “มันกะตัดตอนไปมั่งจะได้เหลือแค่เรา”
 
          จบคำเดช ชัยพยักหน้า ทำหน้าครุ่นคิดก่อนเอ่ยเบา ๆ 
 
          “พ่อกับพ่อไม่ถูกกัน ลูกจะคิดยังไง”
 
          “หนูเข้าใจจ้ะ เรื่องนี้พ่อทำไม่ถูก แต่ถึงยังไงเค้าก็เป็นพ่อหนูอยู่ดี”
 
          เสียงงามตาตรงขั้นล่างสุดของบันไดทำทุกคนหันมอง เธอยกมือไหว้เดชกับชัยซึ่งทั้งสองรับไหว้พร้อมถอนใจเบา ๆ 
 
          “หนูไม่น่ามาเกี่ยวได้เลยนะ ลุงเป็นห่วง”
 
          ชัยเอ่ยออกมาพร้อมมองใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจของเด็กสาวขณะเธอส่ายหน้าไปมา
 
          “หนูไม่เป็นไรหรอกลุง ถ้าพ่อมาหนูจะคุยกับเค้าเอง แล้วหนูจะเป็นคนพาเค้ากลับไป”
 
          เธอพูดจบหันไปทางเจมส์แล้วเอ่ยออกมา
 
          “พี่เอกเลือดซึมออกมาน่ะต้องทำไง”
 
          เจมส์ได้ยินนิ่งอยู่นิดหนึ่งก่อนสบตาหญิงสาวแล้วตอบกลับไป
 
          “เธอช่วยล้างแผลให้หน่อยได้มั้ย กล่องยาอยู่บนโต๊ะน่ะชั้นจะรอแม่สักเดี๋ยว” 
 
          งามตามองเจมส์ หายใจเข้าลึก กลั้นไว้นิดแล้วผ่อนออกมาช้า ๆ พลางพยักหน้าหันกลับเดินขึ้นบันไดไป
 
          “แม่ล่ะพ่อ”
 
          เจมส์มองผู้เป็นพ่อซึ่งเติมกระสุนเพิ่งเสร็จก่อนเงยหน้ามองเธอแล้วเอ่ยออกมา
 
          “เข้ามาข้างหน้ากับลุงชิตน่ะ”
 
          จบคำชัยเสียงกู่ของลุงชิตดังจากชายป่าข้างลานดินก่อนเจ้าของเสียงจะออกมาจากป่าไล่ ๆ กับลำดวนพร้อมหยุดยืนข้างรถก้มมองร่างที่นอนอยู่ครู่หนึ่งก่อนเดินมาทางบ้านท่ามกลางแสงสลัวของจันทร์ครึ่งดวง 
 
          เจมส์ทำท่าโล่งใจเมื่อเห็นแม่กับลุงเข้ามาและเพิ่งเข้าใจว่าลุงเดชกับพ่ออ้อมมาด้านหลังเงียบ ๆ เพื่อดูเหตุการณ์ในบ้านซึ่งก็เจอเบิ้มกับลูกน้อง จึงส่งเสียงกู่เรียกความสนใจและได้ผลเป็นอย่างดี ยังเหลือลุงเบิ้มอีกคนที่ยังไม่เจอตัวแต่คิดว่าคงหลบไปไกลแล้วเพราะคนของเขาไม่เหลือสักคนเดียว
 
          ลำดวนทำหน้าเฉย ๆ เมื่อเข้ามาในบ้าน ตรงไปนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งใกล้ชัยขณะลุงชิตเดินตามมาวางปืนบนโต๊ะแล้วเอ่ยขึ้นมา 
 
          “อาคมกับลูกน้องนอนอยู่ปากทางนู่น ไม่น่ามีใครแล้วทางนั้น เจ้าเบิ้มล่ะ”
 
          ลุงชิตพูดพลางเอื้อมมือดึงปืนเข้าใกล้ตัวปลดแมกกาซีนออกตรวจดูกระสุนเมื่อเห็นว่าว่างเปล่าจึงวางลงแล้วคว้าแมกกาซีน กระสุนเต็มที่เหน็บหลังมาใส่ลงช่องดันเข้าจนสนิทก่อนเงยหน้ามองเดชและชัย
 
          ชัยมองลุงชิตแล้วตอบกลับมา ส่วนประโยคหลังเขาหันไปทางลำดวน
 
          “มีแต่ลูกน้องนอนอยู่ในป่าสามคน เจ้าเบิ้มไม่เห็น คงไปไกลแล้วละ ลูกอาคมอยู่ข้างบนน่ะ”
 
           ลำดวนถอนใจ ไม่พูดอะไรยกปืนวางบนโต๊ะลุกขึ้นแล้วเดินไปทางบันไดก่อนก้าวขึ้นไปข้างบน
 
          “รอฟ้าแจ้งค่อยเอาพวกนี้ไปฝังข้างหลังกับเจ้าสามคน แล้วอาคมทำไงดี”
 
          เดชพูดพลางมองไปทางลานดินก่อนหันกลับมา ชัยมองหน้าลุงชิตแล้วพูดว่า
 
          “ไม่รู้สิ คงต้องรอฟังลำดวนอีกที”
 
          
          เจมส์มองไปยังลานดิน นึกถึงชีวิตข้างหน้าว่าจะออกมารูปใด ในเมื่อความยุ่งเหยิงค่อย ๆ คลายลงทีละอย่าง ถึงแม้กว่าจะผ่านมาก็สาหัสน่าดู เธอแปลกใจตัวเองว่าทำไมทนสิ่งที่เข้ามาในไม่กี่วันนี้ได้ เพราะมันต่างกับที่เธอฝันไว้แสนไกล แต่มีอยู่อย่างหนึ่งซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงคือครอบครัวของเธอที่ยังอยู่พร้อมหน้า ถึงตอนนี้เธอนึกถึงงามตา ภายในไม่กี่นาทีข้างหน้าเธอจะเป็นอย่างไร เมื่อรู้เรื่องการตายของพ่อเธอ เจมส์ถอนใจขณะเสียงพ่อพูดกับลุงชิตออกมา
 
          “แม่นุ่มอยู่ข้างบนน่ะพี่ชิต”
 
          ลุงชิตนั่งนิ่งสีหน้าและแววตาแช่มชื่นเห็นชัดเจน เขามองหน้าชัยอยู่อึดใจจึงลุกขึ้นแล้วก้าวไปทางบันได เจมส์หันกลับพลางวิ่งตามลุงขึ้นไป เดชเอ่ยขึ้นหลังทั้งสองลับตา
 
          “เปิดไฟได้ยังวะชักเริ่มหิวหน่อย ๆ แล้ว”
 
          ชัยยิ้ม ๆ ก่อนลุกไปเปิดสวิทช์ไฟ เมื่อแสงสว่างกระจายไล่ความมืดออกไป เดชจึงพูดขึ้นมา
 
          “เสร็จตรงนี้ข้าคงต้องไปดูบ้านสักหน่อยล่ะว่ะ ยังเป็นบ้านอยู่หรือเปล่าไม่รู้”
 
          ชัยได้ยินแล้วนึกถึงสภาพบ้านเดช ซึ่งภายในไม่กี่วันวิมานหรูกลับกลายคล้ายบ้านร้างก็ไม่ปาน คิดแล้วเขาเองก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้ไม่น้อย เพียงแค่ต้องการดึงเอกและแม่นุ่มกลับมา ทำให้เรื่องไปพัวพันกับคนหลายคนและลงเอยด้วยการกลับไปใช้วิธีแบบเดิม ๆ ชัยถอนใจพลางยกมือตบไหล่เพื่อนรักเบา ๆ ก่อนพูดออกมา
 
          “เอาไว้ตอนเช้าค่อยไปด้วยกัน ตอนนี้ข้ามีเรื่องถามเอ็งว่ะเดช”
 
          เดชมองหน้าชัยไม่พูดอะไรกลับมา ชัยสบตาแล้วเอ่ยออกไป
 
          “เอ็งรู้มั้ยว่าเอกไม่ใช่ลูกเอ็ง”
 
          เดชนิ่งไปอึดใจก่อนพยักหน้าช้าๆ ชัยขมวดคิ้วนิดหนึ่งแล้วถามด้วยความสงสัย
 
          “เอ็งรู้ตอนไหน เรื่องกรุ๊ปเลือดที่โรงพยาบาลเหรอ”
 
          เดชส่ายหน้าเอ่ยออกมาเบา ๆ 
 
          “ไม่หรอก ตอนนั้นข้าแค่สงสัยว่าทำไมเลือดคนอื่นถึงใช้ไม่ได้กับทุกคน” 
 
         ชัยได้ยินแล้วจึงถามต่อไป
 
        “หรือว่าแม่นุ่มบอกเอ็ง”
 
          แมลงกลางคืนส่งเสียงเซ็งแซ่รอบป่า นกเค้าแมวคราง ฮือ ฮือ ฮือ บนกิ่งสักคล้ายยังไม่หายตกใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้น เสียงหมาหอนแว่วจากยอดเขาไกล ๆ เพิ่มความวังเวงใต้แสงจันทร์เลือนราง ลมสงัดเหมือนแกล้งใบไม้ไม่ให้ไหวติง ผ่านไปอึดใจหนึ่ง ชัยนั่งอึ้งเมื่อได้ยินเดชตอบกลับมา 
 
   
       “ตั้งแต่ข้าพาลำดวนไป ข้าไม่เคยแตะต้องลำดวนแม้แต่ปลายเล็บมือ”....
 
 
          ( มีต่อครับ )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่