....ดิฉันกำลังนึกถึงเหตุการณ์ของคุณย่า คุณปู่ ที่ลูกๆ(รวมถึงพ่อของดิฉัน) ต่างคนต่างก็มีครอบครัว ยกเว้น คุณป้าที่เป็นมะเร็ง ได้ลงมาอยู่กับย่า ก่อนที่ย่าจะเสีย ปู่กับย่าได้ยกบ้านให้ลูกของคุณป้าซึ่งอยู่กับย่ามาตั้งแต่เล็กๆ เพราะเมื่อก่อนป้าจะไม่ค่อยอยู่บ้าน เพราะจะอยู่กทม. มากกว่า แต่เพิ่งจะกลับมาอยู่บ้านตอนที่ ท่านเป็นมะเร็งกลับมาอยู่กับย่าได้ประมาณ 6 เดือน ล่าสุด ย่าก็จากไปด้วยโรคชะรา
...หลังจากที่ย่าเสีย ดิฉัน ถามกับ คุณป้าว่า
ดิฉัน : ป้าจะทำยังไงต่อหลังจากรักษาหาย?
ป้า : ป้าจะกลับไป กทม. ไปทำมาค้าขายที่นู้น รีบเก็บเงิน ซื้อบ้านที่นู้น
ดิฉัน : ทำไมไม่อยู่บ้านล่ะคะ มีญาติพี่น้องก็อยู่ ใกล้ๆเวลาเจ็บป่วยขึ้นมา จะได้ไปรพ.ได้ทัน
ป้า : ไม่สะดวก จะกินอะไรก็ลำบาก ไม่ชอบชนบท
ดิฉัน : แล้วบ้านหลังนี้ล่ะคะ ถ้าป้าไปจะทำไงต่อ ?
ป้า : ก็คงปล่อย รอให้ลูกสาวป้าตัดสินใจอีกที หรืออาจจะปล่อยเช่า
ดิฉัน : ......ยิ้ม เงียบ.... ไปต่อไม่ถูก เต็มไปด้วยข้อสงสัยในใจ แต่มันเป็นสิทธิ์ของพี่สาวซึ่งเป็นผู้รับมรดกเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นอีกที
ความรู้สึกหลังจากที่ย่าเสีย เราเดินเข้าไปในบ้านย่าก็คิดถึงตอนเด็กๆ เมื่อวันรวมญาติก็จะมากันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่หลังจากนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อ เห็นมุมที่เคยเห็นย่านั่ง มุมที่มีรูปถ่ายย่า มุมที่เราเคยมานอนเล่นกับพี่สาวที่เป็นลูกป้า มุมที่เรามานอนกับย่าตอนเด็ก ขับรถผ่านบ้านย่าทุกครั้ง คิดถึงย่าทุกครั้ง
ป้าไปกทม. มันเหมือนบ้านร้าง เหมือนบ้านที่ไม่เคยมีคนอยู่มาก่อน (เราเคยถามพี่สาว ที่ย่ามอบบ้านให้ พี่เขาบอกจะไม่มีวันขายบ้านหลังนี้ อาจจะกลับมาอยู่ตอนบั้นปลายชีวิต เราก็ได้แต่หวังว่าลูกๆคนอื่นของย่ารวมถึงพ่อเรา จะมาหากันที่บ้านย่า ในวันสำคัญอีกครั้ง )
....เราเลย คิดถึงชีวิตตัวเอง เพราะเราเองก็อาจจะไม่ได้อยู่บ้าน หากเราหางานทำได้ เราอาจจะไปกทม. พี่เราก็ เป็นคนติดแฟนมาก ต่างกับเราติดพ่อแม่ งอมแงม และรักบ้านมากๆ เพราะ ตอนเราเรียนกทม.กลับบ้านมา ก็รู้สึกว่าได้เห็นมุมเก่าๆ วันเก่าๆอีกครั้งมันมีความสุขมาก ยิ่งได้กินข้าวกันพร้อมๆกัน ไปไหนกับครอบครัวก็ยิ่งมีความสุข แต่ก็อดคิดไม่ได้เหมือนกัน หากวันนึงเราไกลบ้าน แล้วหากไม่มีใครอยู่บ้านหลังนี้แล้ว
....เป็นคุณจะทำอย่างไรกับบ้านที่ เคยอยู่มาตั้งแต่เกิด แต่มีเหตุจำเป็นต้องไปทำงานไกลหรือ อยู่กับคู่ชีวิตของคุณต่างจังหวัด ขอฟังความคิดเห็นกันหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ถ้าวันนึง บ้านที่คุณพ่อคุณแม่ของคุณอยู่ แล้ววันนึงเขาจากไป คุณจะทำอย่างไรกับบ้านหลังนั้น หากตัวคุณอยู่ไกล
...หลังจากที่ย่าเสีย ดิฉัน ถามกับ คุณป้าว่า
ดิฉัน : ป้าจะทำยังไงต่อหลังจากรักษาหาย?
ป้า : ป้าจะกลับไป กทม. ไปทำมาค้าขายที่นู้น รีบเก็บเงิน ซื้อบ้านที่นู้น
ดิฉัน : ทำไมไม่อยู่บ้านล่ะคะ มีญาติพี่น้องก็อยู่ ใกล้ๆเวลาเจ็บป่วยขึ้นมา จะได้ไปรพ.ได้ทัน
ป้า : ไม่สะดวก จะกินอะไรก็ลำบาก ไม่ชอบชนบท
ดิฉัน : แล้วบ้านหลังนี้ล่ะคะ ถ้าป้าไปจะทำไงต่อ ?
ป้า : ก็คงปล่อย รอให้ลูกสาวป้าตัดสินใจอีกที หรืออาจจะปล่อยเช่า
ดิฉัน : ......ยิ้ม เงียบ.... ไปต่อไม่ถูก เต็มไปด้วยข้อสงสัยในใจ แต่มันเป็นสิทธิ์ของพี่สาวซึ่งเป็นผู้รับมรดกเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นอีกที
ความรู้สึกหลังจากที่ย่าเสีย เราเดินเข้าไปในบ้านย่าก็คิดถึงตอนเด็กๆ เมื่อวันรวมญาติก็จะมากันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่หลังจากนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อ เห็นมุมที่เคยเห็นย่านั่ง มุมที่มีรูปถ่ายย่า มุมที่เราเคยมานอนเล่นกับพี่สาวที่เป็นลูกป้า มุมที่เรามานอนกับย่าตอนเด็ก ขับรถผ่านบ้านย่าทุกครั้ง คิดถึงย่าทุกครั้ง
ป้าไปกทม. มันเหมือนบ้านร้าง เหมือนบ้านที่ไม่เคยมีคนอยู่มาก่อน (เราเคยถามพี่สาว ที่ย่ามอบบ้านให้ พี่เขาบอกจะไม่มีวันขายบ้านหลังนี้ อาจจะกลับมาอยู่ตอนบั้นปลายชีวิต เราก็ได้แต่หวังว่าลูกๆคนอื่นของย่ารวมถึงพ่อเรา จะมาหากันที่บ้านย่า ในวันสำคัญอีกครั้ง )
....เราเลย คิดถึงชีวิตตัวเอง เพราะเราเองก็อาจจะไม่ได้อยู่บ้าน หากเราหางานทำได้ เราอาจจะไปกทม. พี่เราก็ เป็นคนติดแฟนมาก ต่างกับเราติดพ่อแม่ งอมแงม และรักบ้านมากๆ เพราะ ตอนเราเรียนกทม.กลับบ้านมา ก็รู้สึกว่าได้เห็นมุมเก่าๆ วันเก่าๆอีกครั้งมันมีความสุขมาก ยิ่งได้กินข้าวกันพร้อมๆกัน ไปไหนกับครอบครัวก็ยิ่งมีความสุข แต่ก็อดคิดไม่ได้เหมือนกัน หากวันนึงเราไกลบ้าน แล้วหากไม่มีใครอยู่บ้านหลังนี้แล้ว
....เป็นคุณจะทำอย่างไรกับบ้านที่ เคยอยู่มาตั้งแต่เกิด แต่มีเหตุจำเป็นต้องไปทำงานไกลหรือ อยู่กับคู่ชีวิตของคุณต่างจังหวัด ขอฟังความคิดเห็นกันหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ