
คิดถึงทุกคนมาก ตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา นี่ก็เป็นรีวิวชิ้นที่ 8 ของผมพอดี เรามีนัดกันปีละครั้ง ไม่รู้ว่ายังมีใครรอไส้อั่วของผมมั้ย คือ...อันที่จริงผมไม่กล้าเรียกมันว่ารีวิวเพราะมันยาวอย่างกับไส้อั่วไง 555+
ภาพทุกใบยังคงใช้ Iphone6 ถ่ายอยู่เพราะหนูไม่มีปัญญาถอยเครื่องใหม่ คุณภาพของรูปก็ตามอายุการใช้งาน รูปเยอะมาก ถ้าบางรูปหายไปจากหน้าก็Refreshหน้าจอใหม่ล่ะกัน 555+
เพราะงั้น...ไม่ต้องรีบอ่านให้จบกันก็ได้นะจ๊ะ เอาเวลาไปทำอะไรมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองกันไปก่อนก็ได้ ส่วนถ้าหากใครมีเวลาเหลือเฟือเพราะติดโควิดอยู่ อ่านรีวิวนี้จบใน 5 นาทีแล้วไม่รู้จะทำอะไร จะลองทรมานตัวเองโดยการแวะไปอ่านงานอื่นๆต่อ ก็ชูนิ้วกลางขึ้นมาแล้วจิ้มเบาๆตรงนี้เลย...
“ภูกระดึง (เกือบ)ถึงที่ตาย” >>
https://pantip.com/topic/39622790
“นั่งรถไฟ ไปดู..."ผี"...ที่เชียงดาว” >>
https://pantip.com/topic/37548826
“เจอผี...ที่เวียงจันทร์” >>
http://pantip.com/topic/33113878
“แบกเป้ลำพัง...ไปลาววังเวียง” >>
http://pantip.com/topic/33074302
“ดราม่า!...หลวงพระบาง” >>
http://pantip.com/topic/34466332
“คนที่...5” >>
http://pantip.com/topic/34528419
“ปีนัง...ปัง! ปัง! โป๊ะ!” >>
https://pantip.com/topic/35690354
โอเค!!! หนีบรองเท้าแตะให้แน่น สวมหมวกฟาง แบกเป้ขึ้นบ่ากันพร้อมแล้วนะ!
วันนี้...ผมจะพาทุกคนไปออกทะเลกัน!!!
งั้น...Let’Go…Alohaaa!!!
ลุย!!!
...
. . . .

“เฮ้ย! เดี๋ยวๆ! พี่! ใจเย็นๆคุยกันก่อนมั้ย?!!!”
ชายแปลกหน้าในมือกำ“มีด”สาวเท้าก้าวเดินเข้ามาประชิดจนผมไม่ทันได้ตั้งตัว
“โอ้ยยยยยย!!!”
ความกลัวพุ่งกระฉูดตามแรงกระแทกของมีดที่เข้ามา เลือดสีแดงของผมกระเซ็นตามแรงปะทะจนเปรอะใบมีดข้างหน้า
ความเจ็บปวดแล่นเข้าจับขั้วหัวใจ รับรู้ได้ทันทีถึงความแหลมคมที่พุ่งแหวกปักคา อยู่ใต้ผิวหนังของผมในวินาทีนี้
ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ที่ยืนดูผมอย่างตกใจ ในขณะที่บางคนเผลอร้องออกมา บางคนเผลอทำหน้าหวาดผวา
เหตุการณ์ตรงหน้าเกิดขึ้นชั่วพริบตา
เร็วเกินกว่า...ใครจะเข้ามาช่วยเหลือผมได้
ใช่...
ผมถูกแทง!!!
มีเรื่องราวมากมายที่ผมคาดหมายว่าจะเจอบนเกาะช้าง
แต่...การถูกแทงครั้งแรกในชีวิตอย่างนี้!!!
ไม่เคยมีอยู่ในหัวมาก่อนเลย...
ใช่!!!
“ผมกำลังถูกแทง...ที่เกาะช้าง”
...

หลายเดือนก่อนถูกแทง...
“วันที่ 13”
“13 พฤศจิกา!!!”
“ซิบหายล่ะ!!!”
ผมเผลอแหกปากเสียงดังออกมา หลังจากตรวจเช็ควันเวลาที่ผมจะBackpackครั้งต่อไปอยู่ในร้านกาแฟ ของบ่ายแก่ๆวันหนึ่ง พร้อมนั่งหน้าหดประหนึ่งช่องแคบมะละกา เมื่อคิดถึงกำหนดการที่รู้สึกไม่ค่อยชอบขี้หน้ากับมันสักเท่าไหร่
ใช่...ผมเกลียดวันที่ 13 ไง!!!
ทางการแพทย์เรียกโรค “Triskaidekaphobia” (ทริสไคเดคาโฟเบีย) เป็นโรคของคนที่กลัวเลข 13 เฮียๆ!!!
“Dr. Caroline Watt” นักจิตวิทยาจากมหา’ลัย เอดินเบิร์กเนี่ย เค้ากล่าวเอาไว้ว่า วันศุกร์ที่ 13 มีแนวโน้มที่ความกลัวและความฟุ้งซ่าน จะทวีความรุนแรงมากกว่าทุกวันในรอบสัปดาห์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมักจะมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุในวันที่ 13 มากอย่างน่าตกใจ!!!
แต่...Dr. Caroline Watt ก็ไม่ได้เป็นน้าเขยน้องเมียเพื่อนพ่อของผมไง แค่งานวิจัยของเธอคงไม่ได้ทำให้ผมเชื่อมากเท่าไหร่ ถ้าไม่ประกอบกับในชีวิตจริงของผมมีหลายครั้งที่ความจังราย มักจะเกิดขึ้นซ้ำๆอย่างไม่มีที่มาที่ปายในวันที่ 13 นี้
“13...ซิบหาย...”
“อิ๊บอ๋าย?”
“พูดไรของเมิงวะ? ถอดแมสออกก่อนดิ!” ผมรีบเอานิ้วชี้ไปที่หน้ากากอนามัยสีชมพู เพื่อเป็นสัญญาณว่าให้ถอดหน้ากากออกก่อนมั้ย

“ศักดิ์” (นามสมมติ) ชายผู้มาในชุดสีชมพูทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะพี่แกเค้าเพิ่งไปนอนค้างที่คอนโดแฟนมา เลยยืมเสื้อผ้าแฟนมาใส่ ชมพูทั้งตัวจนไม่รู้ว่าคนรึขนมสายไหม สีแสบตาเหลือเกิน นี่ถ้าไม่เห็นมันเดิน ยืนอยู่นิ่งๆเฉยๆ ผมว่าน่าจะมีคนเผลอเอาน้ำแดงรึม้าลายมาถวายมันแน่ๆเลยล่ะ คนรึศาลพระภูมิวะ อย่างกะมีใครเอาผ้าสามสีมาผูกไว้ 555+
ซึ่ง...ชายหน้าโหดแต่อยู่ในโหมดคิตตี้ตรงหน้า กำลังวิตกจริตกับ “โควิด 19” ชนิดที่ว่า กลัวจนเข้าไปถึงระดับโครโมโซม กำลังโหมบีบแอลกอฮอล์ใส่มือมาถูตั้งแต่นิ้วโป้งยันข้อศอก ถูจนแขนพี่แกแทบจะถลอกออกหมดล่ะ ติดแอลกอฮอล์ล้างมือชนิดที่ถ้ามันเทกรอกปากลงไปล้างลำไส้ได้ มันคงจะทำทันทีอย่างไม่ลังเลใจ
ด้วยความต้องมาเห็นเพื่อนเป็นกังวลกับไวรัสโควิด ที่มีชีวิตอยู่ได้ถึง 48 ชั่วโมงในอากาศ การแชร์องค์ความรู้จากรอยหยักหนาๆอันแสนชาญฉลาดในกบาลที่ผมมี ในฐานะเพื่อนที่แสนดีอาจทำให้มันสบายใจขึ้นมาได้

ผม : เมิง...เมิงกลัวโควิดอะไรนี่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ?
ศักดิ์ : กลัวดิเมิง! อเมริกาแม่มเจอติดเชื้อวันนึงเป็นหมื่นๆจะไม่กลัวได้ไง
ผม: เอางี้! มีผลวิจัยการป้องกันโควิดจากประเทศสเปน อยากฟังมั้ย?
ศักดิ์ : จริงดิ! ดีๆ! ว่าไง?
ผม : เค้าว่ากันว่า...ให้หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าสีสดในสถานการณ์โควิด สีแดง สะท้อนแสงไรนี่ห้ามเลย
ศักดิ์ : ทำไมวะ...อ๋อ...เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องการปล่อยรังสี รึแสงฆ่าไวรัสแบบโฆษณาสีทาบ้านไรนี่ใช่มะ?!
ผม : ปล่าว...โคมันชอบวิดสีแดง ใส่สีแดงเดี๋ยวจะโดนโควิด
แฮร่!!! 555+
…

ศักดิ์ : “อิเอีย”
ผม : “อิเกีย” ...เมิงจะไปซื้อตู้กับข้าวเหรอวะ?
เพื่อความชัดเจนของบทสนทนา ชายชุดชมพูขยับแมสปิดปากเผยให้เห็นไรหนวดบนหน้า...ก่อนจะพูดช้าๆออกมา...
ศักดิ์ : กรูพูดว่า...
“อิเชี่ย!!!”
555+
…
แน่นอนว่า...หลายบรรทัดข้างบนคงไม่ได้มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตสักเท่าไหร่ แต่มันมีประโยชน์มากต่อใจ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เพื่อนของผมมันเลิกวิตกจริตไปได้พักนึง
“สรุป! รอบนี้เมิงจะไปเที่ยวเกาะช้างสินะ” ขนมสายไหมสีชมพูเงยหน้าถามผมช้าๆ
“และ...จะต้องไปเที่ยววันที่ 13 ที่เมิงเกลียดนักเกลียดหนาใช่มั้ย?” ขนมสายไหมชื่อ ศักดิ์ (นามสมมติ) พูดพลางดูดชาเขียวปั่นอึกใหญ่
“เออ...ใช่...”
ศักดิ์เลิกวิตกจริตไป แต่ความวิตกจริตนั้น กำลังย้ายบั้นท้ายแน่นๆของมันเข้ามานั่งในกบาลของผมแทนในทันที

“ว่าแต่...เมิงจะกลัวไปทำไมวะ วันที่ 13” ศักดิ์ (นามสมมติ...เออ...รู้!!!) ถามขึ้นทันที
“กาลกิณี”
ผมถอนหายใจหนึ่งทีก่อนเอ่ยคำง่ายๆ แต่ความหมายสุดลึกล้ำออกไปอย่างขุ่นข้องใจ
“กาลกิณี?! เดี๋ยวนะ? เมื่อกี้เมิงพูดว่าไรนะ?...กาลกิณี!”
“ฟังกรูนะ...”
“แอส...โลกใบนี้ไม่มีอะไรกาลกิณีกว่าเมิงแล้ว!!! 555+”
ชายชุดชมพูโพล่งเสียงดังพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทำให้ผมอดที่จะรู้สึกแย่ที่ว่า...ผมกำลังถูกมันจาบจ้วงจ๊วบจ๊าบ ละลาบละล้วงละเมิดสิทธิความเป็น “สิริมงคล” ในตัวผมเองไม่ได้ ไปไหนมาไหน ก็มีแต่คนนิยมชื่นชมว่าผมเป็นเหมือนตัวเงินตัวทองเรียกโชคเรียกลาภมาให้ จะมายัดเยียดความกาลกิณีแบบ “อิเจี๊ยบ เลียบด่วน” กับผมแบบนี้ ผมรับไม่ด้ายยยย!!!
ม้ายยยยยยยยยยยยยยยย!!!
ศักดิ์ : เมิงคงลืมไปแล้วสินะว่า...ทุกทริปที่ผ่านมา หลังจากเมิงไปแล้วที่ที่เมิงไป เค้าเกิดปุ๊ปปั๊ปรับโชคกันขนาดไหน
ผม : เกิด...เกิดอะไร...
ศักดิ์ : กรูรวบตึงให้เมิงเลยแล้วกัน...
แล้วมันก็นั่งระลึกชาติอยู่ประมาณ 2.486 วินาที ก่อนที่จะเริ่มขุดความวินาศสันตะโรมากมายของผมออกมาญาปนกิจกัน
ศักดิ์ : หึ! เมิงจำวันที่เมิงไป “เชียงดาว” มาได้มะ?
ผม : จำได้ดิ! ใครจะลืมลง ที่กรูไป “ล่าผี” ไง!

ศักดิ์ : จำได้มั้ย...หลังจากเมิงกลับมาไม่กี่วัน...
ผม : มัน...ทำไม...

เสียงแอร์ดัง...หึ่งงงง~ หึ่งงงงงง~
ศักดิ์ : ไฟไหม้ซิบหายกันหมด!!! เมิงจำได้มั้ย!!!
ผม : เอ่อ...บังเอิญไง...เมิง...ห่ะ...ห่ะ...
ศักดิ์ : แล้วปีถัดมา...เมิงไปที่ไหนมานะ?
ผม : ปีถัดมา...ถัดมา...อ๋อ! “ภูกระดึง” ไง!!! ใครจะไปลืมลง ปวดเข่าซิบหาย กลับมาขาตายอยู่เป็นเดือนๆอ่ะ! 555+

ศักดิ์ : จำได้มั้ยว่า...พอเมิงกลับมาแล้วภูกระดึงเค้ามีความสุขกันแค่ไหน...
ผม : คือ...อะไร...

เสียงแอร์ดัง...หึ่งงงง~ หึ่งงงงงง~
ผม : บังเอิ๊ญ!!! บังเอิญง๊ายยยยยย!!!
ศักดิ์ : เมิงจะทำเสียงสูงทำไมเนี่ย!!! ม้าย! ไม่! ถ้า 2 เคสนี้เมิงบอกบังเอิญ งั้นขอเชิญเคสถัดไป!!!
ผม : พอเถอะพ่อคุณณณณณณ!!!
ศักดิ์ : เมิงจำได้มั้ย ปีที่แล้ว...ตอนกรูแพลนว่าจะไป...ญี่ปุ่น
ผม : อ๋อ...ที่กรูส่งหุ่นโมเดลเข้าประกวดก่อนไปเที่ยวไหนสักที่อ่านะ!!!

ศักดิ์ : นั่นล่ะๆ! ที่เมิงบอกเมิงเพิ่งเคยส่งโมเดลประกวด...ครั้งแรกในชีวิตไง งานของประเทศญี่ปุ่นที่กรูแซวว่า...ถ้าเมิงได้รางวัลขึ้นมา เดี๋ยวไปเจอกันที่ญี่ปุ่น ไม่ต้องเสียค่าเครื่องบินไปเองไง
ผม : แล้ว...
ศักดิ์ : แล้ว...กรูไม่ได้ไป...เพราะอะไร...จำได้มั้ย?
ผม : อ่า...

เสียงแอร์ดัง...หึ่งงงง~ หึ่งงงงงง~
ศักดิ์ : “พายุเข้าญี่ปุ่น รุนแรงสุดในรอบ 60 ปี!!!” นี่เมิงแค่ส่งโมเดลประกวดงานของประเทศญี่ปุ่นนะ ถ้าเมิงไปเหยียบแผ่นดินประเทศเค้าจริงๆจะขนาดไหน 555+
ผม : กรูว่าพอเถอะ...กรูจะร้องไห้แล้วนะ...555+
ศักดิ์ : เมิงนี่แม่มไม่ใช่กาลกิณีระดับจุลภาคแล้วว่ะ แบบเมิงอ่ะนะ...เค้าเรียก “กาลกิณีระดับมหภาค!!!” ไม่ใช่แค่กาลกิณีจากระดับตำบลหมู่บ้าน เมิงมันกาลกิณีระดับประเทศเลยล่ะ 555+
ศักดิ์ (นามสม...โว้ย! รู้แล้ว!) ชายในชุดสีชมพูตรงหน้าทำท่ากลั้นขำจนผมอดรู้สึกเอ็นดู จนอยากจะเอารองเท้าแตะช้างดาวชุบเกล็ดขนมปังไปทาถูทาถู ที่บ้องหูมันสักทีสองทีซะให้ได้
...
ผม : “อิเกีย”
ศักดิ์ : เมิงอยากได้ตู้กับข้าวเหรอวะ?
ผม : กรูหมายถึง...
“อิเชี่ย!!!”
“เลิกย้ำสักทีได้มั้ยเนี่ย!!!” ฮือออออออออออ~
...
“เอาน่า...ยังไงซะ...เกาะช้างก็ยังไม่เป็นไร”

สามวัน...หลังจากประกาศผ่าน Facebook ออกไป...
...
. . . .
[CR] เมื่อฉันถูก "แทง" ที่...เกาะช้าง!!! (ตกหมึก ดำน้ำ กับลมหายใจสุดท้ายที่บางเบ้า)
คิดถึงทุกคนมาก ตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา นี่ก็เป็นรีวิวชิ้นที่ 8 ของผมพอดี เรามีนัดกันปีละครั้ง ไม่รู้ว่ายังมีใครรอไส้อั่วของผมมั้ย คือ...อันที่จริงผมไม่กล้าเรียกมันว่ารีวิวเพราะมันยาวอย่างกับไส้อั่วไง 555+
ภาพทุกใบยังคงใช้ Iphone6 ถ่ายอยู่เพราะหนูไม่มีปัญญาถอยเครื่องใหม่ คุณภาพของรูปก็ตามอายุการใช้งาน รูปเยอะมาก ถ้าบางรูปหายไปจากหน้าก็Refreshหน้าจอใหม่ล่ะกัน 555+
เพราะงั้น...ไม่ต้องรีบอ่านให้จบกันก็ได้นะจ๊ะ เอาเวลาไปทำอะไรมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองกันไปก่อนก็ได้ ส่วนถ้าหากใครมีเวลาเหลือเฟือเพราะติดโควิดอยู่ อ่านรีวิวนี้จบใน 5 นาทีแล้วไม่รู้จะทำอะไร จะลองทรมานตัวเองโดยการแวะไปอ่านงานอื่นๆต่อ ก็ชูนิ้วกลางขึ้นมาแล้วจิ้มเบาๆตรงนี้เลย...
“ภูกระดึง (เกือบ)ถึงที่ตาย” >>https://pantip.com/topic/39622790
“นั่งรถไฟ ไปดู..."ผี"...ที่เชียงดาว” >>https://pantip.com/topic/37548826
“เจอผี...ที่เวียงจันทร์” >> http://pantip.com/topic/33113878
“แบกเป้ลำพัง...ไปลาววังเวียง” >>http://pantip.com/topic/33074302
“ดราม่า!...หลวงพระบาง” >>http://pantip.com/topic/34466332
“คนที่...5” >> http://pantip.com/topic/34528419
“ปีนัง...ปัง! ปัง! โป๊ะ!” >> https://pantip.com/topic/35690354
โอเค!!! หนีบรองเท้าแตะให้แน่น สวมหมวกฟาง แบกเป้ขึ้นบ่ากันพร้อมแล้วนะ!
วันนี้...ผมจะพาทุกคนไปออกทะเลกัน!!!
งั้น...Let’Go…Alohaaa!!!
ลุย!!!
...
. . . .
“เฮ้ย! เดี๋ยวๆ! พี่! ใจเย็นๆคุยกันก่อนมั้ย?!!!”
ชายแปลกหน้าในมือกำ“มีด”สาวเท้าก้าวเดินเข้ามาประชิดจนผมไม่ทันได้ตั้งตัว
“โอ้ยยยยยย!!!”
ความกลัวพุ่งกระฉูดตามแรงกระแทกของมีดที่เข้ามา เลือดสีแดงของผมกระเซ็นตามแรงปะทะจนเปรอะใบมีดข้างหน้า
ความเจ็บปวดแล่นเข้าจับขั้วหัวใจ รับรู้ได้ทันทีถึงความแหลมคมที่พุ่งแหวกปักคา อยู่ใต้ผิวหนังของผมในวินาทีนี้
ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ที่ยืนดูผมอย่างตกใจ ในขณะที่บางคนเผลอร้องออกมา บางคนเผลอทำหน้าหวาดผวา
เหตุการณ์ตรงหน้าเกิดขึ้นชั่วพริบตา
เร็วเกินกว่า...ใครจะเข้ามาช่วยเหลือผมได้
ใช่...
ผมถูกแทง!!!
มีเรื่องราวมากมายที่ผมคาดหมายว่าจะเจอบนเกาะช้าง
แต่...การถูกแทงครั้งแรกในชีวิตอย่างนี้!!!
ไม่เคยมีอยู่ในหัวมาก่อนเลย...
ใช่!!!
“ผมกำลังถูกแทง...ที่เกาะช้าง”
...
หลายเดือนก่อนถูกแทง...
“วันที่ 13”
“13 พฤศจิกา!!!”
“ซิบหายล่ะ!!!”
ผมเผลอแหกปากเสียงดังออกมา หลังจากตรวจเช็ควันเวลาที่ผมจะBackpackครั้งต่อไปอยู่ในร้านกาแฟ ของบ่ายแก่ๆวันหนึ่ง พร้อมนั่งหน้าหดประหนึ่งช่องแคบมะละกา เมื่อคิดถึงกำหนดการที่รู้สึกไม่ค่อยชอบขี้หน้ากับมันสักเท่าไหร่
ใช่...ผมเกลียดวันที่ 13 ไง!!!
ทางการแพทย์เรียกโรค “Triskaidekaphobia” (ทริสไคเดคาโฟเบีย) เป็นโรคของคนที่กลัวเลข 13 เฮียๆ!!!
“Dr. Caroline Watt” นักจิตวิทยาจากมหา’ลัย เอดินเบิร์กเนี่ย เค้ากล่าวเอาไว้ว่า วันศุกร์ที่ 13 มีแนวโน้มที่ความกลัวและความฟุ้งซ่าน จะทวีความรุนแรงมากกว่าทุกวันในรอบสัปดาห์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมักจะมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุในวันที่ 13 มากอย่างน่าตกใจ!!!
แต่...Dr. Caroline Watt ก็ไม่ได้เป็นน้าเขยน้องเมียเพื่อนพ่อของผมไง แค่งานวิจัยของเธอคงไม่ได้ทำให้ผมเชื่อมากเท่าไหร่ ถ้าไม่ประกอบกับในชีวิตจริงของผมมีหลายครั้งที่ความจังราย มักจะเกิดขึ้นซ้ำๆอย่างไม่มีที่มาที่ปายในวันที่ 13 นี้
“13...ซิบหาย...”
“อิ๊บอ๋าย?”
“พูดไรของเมิงวะ? ถอดแมสออกก่อนดิ!” ผมรีบเอานิ้วชี้ไปที่หน้ากากอนามัยสีชมพู เพื่อเป็นสัญญาณว่าให้ถอดหน้ากากออกก่อนมั้ย
“ศักดิ์” (นามสมมติ) ชายผู้มาในชุดสีชมพูทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะพี่แกเค้าเพิ่งไปนอนค้างที่คอนโดแฟนมา เลยยืมเสื้อผ้าแฟนมาใส่ ชมพูทั้งตัวจนไม่รู้ว่าคนรึขนมสายไหม สีแสบตาเหลือเกิน นี่ถ้าไม่เห็นมันเดิน ยืนอยู่นิ่งๆเฉยๆ ผมว่าน่าจะมีคนเผลอเอาน้ำแดงรึม้าลายมาถวายมันแน่ๆเลยล่ะ คนรึศาลพระภูมิวะ อย่างกะมีใครเอาผ้าสามสีมาผูกไว้ 555+
ซึ่ง...ชายหน้าโหดแต่อยู่ในโหมดคิตตี้ตรงหน้า กำลังวิตกจริตกับ “โควิด 19” ชนิดที่ว่า กลัวจนเข้าไปถึงระดับโครโมโซม กำลังโหมบีบแอลกอฮอล์ใส่มือมาถูตั้งแต่นิ้วโป้งยันข้อศอก ถูจนแขนพี่แกแทบจะถลอกออกหมดล่ะ ติดแอลกอฮอล์ล้างมือชนิดที่ถ้ามันเทกรอกปากลงไปล้างลำไส้ได้ มันคงจะทำทันทีอย่างไม่ลังเลใจ
ด้วยความต้องมาเห็นเพื่อนเป็นกังวลกับไวรัสโควิด ที่มีชีวิตอยู่ได้ถึง 48 ชั่วโมงในอากาศ การแชร์องค์ความรู้จากรอยหยักหนาๆอันแสนชาญฉลาดในกบาลที่ผมมี ในฐานะเพื่อนที่แสนดีอาจทำให้มันสบายใจขึ้นมาได้
ผม : เมิง...เมิงกลัวโควิดอะไรนี่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ?
ศักดิ์ : กลัวดิเมิง! อเมริกาแม่มเจอติดเชื้อวันนึงเป็นหมื่นๆจะไม่กลัวได้ไง
ผม: เอางี้! มีผลวิจัยการป้องกันโควิดจากประเทศสเปน อยากฟังมั้ย?
ศักดิ์ : จริงดิ! ดีๆ! ว่าไง?
ผม : เค้าว่ากันว่า...ให้หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าสีสดในสถานการณ์โควิด สีแดง สะท้อนแสงไรนี่ห้ามเลย
ศักดิ์ : ทำไมวะ...อ๋อ...เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องการปล่อยรังสี รึแสงฆ่าไวรัสแบบโฆษณาสีทาบ้านไรนี่ใช่มะ?!
ผม : ปล่าว...โคมันชอบวิดสีแดง ใส่สีแดงเดี๋ยวจะโดนโควิด
แฮร่!!! 555+
…
ศักดิ์ : “อิเอีย”
ผม : “อิเกีย” ...เมิงจะไปซื้อตู้กับข้าวเหรอวะ?
เพื่อความชัดเจนของบทสนทนา ชายชุดชมพูขยับแมสปิดปากเผยให้เห็นไรหนวดบนหน้า...ก่อนจะพูดช้าๆออกมา...
ศักดิ์ : กรูพูดว่า...
“อิเชี่ย!!!”
555+
…
แน่นอนว่า...หลายบรรทัดข้างบนคงไม่ได้มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตสักเท่าไหร่ แต่มันมีประโยชน์มากต่อใจ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เพื่อนของผมมันเลิกวิตกจริตไปได้พักนึง
“สรุป! รอบนี้เมิงจะไปเที่ยวเกาะช้างสินะ” ขนมสายไหมสีชมพูเงยหน้าถามผมช้าๆ
“และ...จะต้องไปเที่ยววันที่ 13 ที่เมิงเกลียดนักเกลียดหนาใช่มั้ย?” ขนมสายไหมชื่อ ศักดิ์ (นามสมมติ) พูดพลางดูดชาเขียวปั่นอึกใหญ่
“เออ...ใช่...”
ศักดิ์เลิกวิตกจริตไป แต่ความวิตกจริตนั้น กำลังย้ายบั้นท้ายแน่นๆของมันเข้ามานั่งในกบาลของผมแทนในทันที
“ว่าแต่...เมิงจะกลัวไปทำไมวะ วันที่ 13” ศักดิ์ (นามสมมติ...เออ...รู้!!!) ถามขึ้นทันที
“กาลกิณี”
ผมถอนหายใจหนึ่งทีก่อนเอ่ยคำง่ายๆ แต่ความหมายสุดลึกล้ำออกไปอย่างขุ่นข้องใจ
“กาลกิณี?! เดี๋ยวนะ? เมื่อกี้เมิงพูดว่าไรนะ?...กาลกิณี!”
“ฟังกรูนะ...”
“แอส...โลกใบนี้ไม่มีอะไรกาลกิณีกว่าเมิงแล้ว!!! 555+”
ชายชุดชมพูโพล่งเสียงดังพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทำให้ผมอดที่จะรู้สึกแย่ที่ว่า...ผมกำลังถูกมันจาบจ้วงจ๊วบจ๊าบ ละลาบละล้วงละเมิดสิทธิความเป็น “สิริมงคล” ในตัวผมเองไม่ได้ ไปไหนมาไหน ก็มีแต่คนนิยมชื่นชมว่าผมเป็นเหมือนตัวเงินตัวทองเรียกโชคเรียกลาภมาให้ จะมายัดเยียดความกาลกิณีแบบ “อิเจี๊ยบ เลียบด่วน” กับผมแบบนี้ ผมรับไม่ด้ายยยย!!!
ม้ายยยยยยยยยยยยยยยย!!!
ศักดิ์ : เมิงคงลืมไปแล้วสินะว่า...ทุกทริปที่ผ่านมา หลังจากเมิงไปแล้วที่ที่เมิงไป เค้าเกิดปุ๊ปปั๊ปรับโชคกันขนาดไหน
ผม : เกิด...เกิดอะไร...
ศักดิ์ : กรูรวบตึงให้เมิงเลยแล้วกัน...
แล้วมันก็นั่งระลึกชาติอยู่ประมาณ 2.486 วินาที ก่อนที่จะเริ่มขุดความวินาศสันตะโรมากมายของผมออกมาญาปนกิจกัน
ศักดิ์ : หึ! เมิงจำวันที่เมิงไป “เชียงดาว” มาได้มะ?
ผม : จำได้ดิ! ใครจะลืมลง ที่กรูไป “ล่าผี” ไง!
ศักดิ์ : จำได้มั้ย...หลังจากเมิงกลับมาไม่กี่วัน...
ผม : มัน...ทำไม...
เสียงแอร์ดัง...หึ่งงงง~ หึ่งงงงงง~
ศักดิ์ : ไฟไหม้ซิบหายกันหมด!!! เมิงจำได้มั้ย!!!
ผม : เอ่อ...บังเอิญไง...เมิง...ห่ะ...ห่ะ...
ศักดิ์ : แล้วปีถัดมา...เมิงไปที่ไหนมานะ?
ผม : ปีถัดมา...ถัดมา...อ๋อ! “ภูกระดึง” ไง!!! ใครจะไปลืมลง ปวดเข่าซิบหาย กลับมาขาตายอยู่เป็นเดือนๆอ่ะ! 555+
ศักดิ์ : จำได้มั้ยว่า...พอเมิงกลับมาแล้วภูกระดึงเค้ามีความสุขกันแค่ไหน...
ผม : คือ...อะไร...
เสียงแอร์ดัง...หึ่งงงง~ หึ่งงงงงง~
ผม : บังเอิ๊ญ!!! บังเอิญง๊ายยยยยย!!!
ศักดิ์ : เมิงจะทำเสียงสูงทำไมเนี่ย!!! ม้าย! ไม่! ถ้า 2 เคสนี้เมิงบอกบังเอิญ งั้นขอเชิญเคสถัดไป!!!
ผม : พอเถอะพ่อคุณณณณณณ!!!
ศักดิ์ : เมิงจำได้มั้ย ปีที่แล้ว...ตอนกรูแพลนว่าจะไป...ญี่ปุ่น
ผม : อ๋อ...ที่กรูส่งหุ่นโมเดลเข้าประกวดก่อนไปเที่ยวไหนสักที่อ่านะ!!!
ศักดิ์ : นั่นล่ะๆ! ที่เมิงบอกเมิงเพิ่งเคยส่งโมเดลประกวด...ครั้งแรกในชีวิตไง งานของประเทศญี่ปุ่นที่กรูแซวว่า...ถ้าเมิงได้รางวัลขึ้นมา เดี๋ยวไปเจอกันที่ญี่ปุ่น ไม่ต้องเสียค่าเครื่องบินไปเองไง
ผม : แล้ว...
ศักดิ์ : แล้ว...กรูไม่ได้ไป...เพราะอะไร...จำได้มั้ย?
ผม : อ่า...
เสียงแอร์ดัง...หึ่งงงง~ หึ่งงงงงง~
ศักดิ์ : “พายุเข้าญี่ปุ่น รุนแรงสุดในรอบ 60 ปี!!!” นี่เมิงแค่ส่งโมเดลประกวดงานของประเทศญี่ปุ่นนะ ถ้าเมิงไปเหยียบแผ่นดินประเทศเค้าจริงๆจะขนาดไหน 555+
ผม : กรูว่าพอเถอะ...กรูจะร้องไห้แล้วนะ...555+
ศักดิ์ : เมิงนี่แม่มไม่ใช่กาลกิณีระดับจุลภาคแล้วว่ะ แบบเมิงอ่ะนะ...เค้าเรียก “กาลกิณีระดับมหภาค!!!” ไม่ใช่แค่กาลกิณีจากระดับตำบลหมู่บ้าน เมิงมันกาลกิณีระดับประเทศเลยล่ะ 555+
ศักดิ์ (นามสม...โว้ย! รู้แล้ว!) ชายในชุดสีชมพูตรงหน้าทำท่ากลั้นขำจนผมอดรู้สึกเอ็นดู จนอยากจะเอารองเท้าแตะช้างดาวชุบเกล็ดขนมปังไปทาถูทาถู ที่บ้องหูมันสักทีสองทีซะให้ได้
...
ผม : “อิเกีย”
ศักดิ์ : เมิงอยากได้ตู้กับข้าวเหรอวะ?
ผม : กรูหมายถึง...
“อิเชี่ย!!!”
“เลิกย้ำสักทีได้มั้ยเนี่ย!!!” ฮือออออออออออ~
...
“เอาน่า...ยังไงซะ...เกาะช้างก็ยังไม่เป็นไร”
สามวัน...หลังจากประกาศผ่าน Facebook ออกไป...
...
. . . .
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้