.
วันหยุดแค่ได้ออกมาจากห้องพักพรนภาก็พอใจแล้ว เพราะส่วนตัวมีนิสัยรักการท่องเที่ยวอยู่แล้ว แค่ได้ไป! ไปกันแค่สองคนก็ไป ไม่หวือหวา ไม่เน้นกิน เน้นสีสันสัมผัสบรรยากาศและเก็บภาพอย่างเดียว
นานมากตั้งแต่โควิดกลับมาอีกครั้ง เธอไม่ได้ออกไปไหนเลย วันนี้เมธีพาเธอออกมาสัมผัสบรรยากาศข้างนอกบ้าง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ พรนภาเลือกร้านกาแฟเช่นเคย แถวนี้คงไม่มีอะไรน่าเที่ยวเท่าร้านกาแฟแล้วล่ะ นอกเสียจากจะออกต่างจังหวัดซึ่งมันยังไม่ถึงเวลา และเธอก็ศึกษาไว้คร่าว ๆ แล้วว่าจะไปไหนดี ส่วนวันนี้ขอเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ไปก่อนแล้วกัน
เมธีพาเธอขับรถมาแถวบางพระ มีร้านกาแฟขนาดย่อม มีมุมให้ถ่ายภาพด้วย สวยงามไม่แพ้ร้านกาแฟขนาดใหญ่เลย ร้านพวกนี้พึ่งจะกลับมาอนุญาตให้นั่งอีกครั้งได้ เธอศึกษามาเป็นอย่างดี จึงให้เมธีพามาเมื่อถึงวันหยุดวันนี้
“อาการมันเป็นยังไงคะ ตื่นเต้นมากมั้ย ฮา” อดแซวไม่ได้เลย เห็นคนตื่นเต้นที่ได้ออกมาเที่ยวก็ตลกดี มีความสุขทุกครั้งที่เห็นพรนภามีความสุขแบบนี้ เขารู้จุดอ่อน จุดแข็ง และรู้ว่าหากทำผิดต้องง้อเธอด้วยวิธีไหนดี พรนภาตอนนี้ดูน่ารักสดใสที่สุด
“พี่เมธีอ่ะ ล้อนภาทำไม ฮ่วย ดีใจมากเลยค่ะ ได้ออกมาข้างนอกสักทีเหอะ อุดอู้มาทั้งเดือน นี่นภาแพลนไว้แล้วนะจะไปเที่ยวไหนบ้างอ่ะ” เธอพูดรัว ๆ เมธีแทบฟังไม่ทันด้วยความดีใจ ก็เธอดีใจจริง ๆ นี่นา ที่ได้ออกมาข้างนอกสักที ด้วยนิสัยชอบเที่ยวอยู่แล้ว เมธีหัวเราะเอ็นดูให้กับความเป็นเด็กในตัวของภรรยาคราวลูก
“โห่ นึกว่าลิพูลเลยนะคะ ลิพูลก็ตื่นเต้นแบบนี้แหละ ทุกทีที่พี่พาเที่ยว ฮา” ไม่พูดเฉย ๆ ยกมือขึ้นมาวางบนศีรษะของเธอด้วยความรัก ชอบทำแบบนี้กับเธอเสมอ ๆ เขารักเธอที่สุด รักเด็กคนนี้มากที่สุดในโลกเลย
“เที่ยวกับแม่เค้าเหรอ” พรนภาหุบยิ้มและหันมามองคนข้าง ๆ
“เอ๋า น้องนภาก็! สมัยนั้นอ่ะ “ ทำหน้าออดอ้อน หลับตาพริบ ๆ แบบรู้สึกผิดที่พูดถึงคนในอดีต เรื่องในอดีตขึ้นมา “ร้านอยู่แถวไหนคะ เปิดจีพีเอสเร็ว” เปลี่ยนเรื่องพูดทันที เมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจซะแล้ว
“ไม่! หลงก็หลงโลด” พรนภาไม่ยอมเปิดจีพีเอสตามที่เมธีบอก ใบหน้าเรียบเฉย แกล้งทำเฉย ๆ ที่จริงไม่ได้คิดมากอะไรเลย รู้ว่าเมธีรักเธอคนเดียวและจะไม่มีใครเพิ่มอีก
“เอ๋าน้องนภาแหมะ ฮ่วย! พี่ขอโทษค่ะ โกรธพี่เหรอคะ” เมธีสีหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกเหมือนงานจะเข้าอย่างไรไม่รู้ พอพรนภาไม่ยอมทำตามที่บอกจึงนำรถมาจอดเรียบข้างทางเพื่อเปิดจีพีเอสหาร้านกาแฟที่จะไป “พี่หมายถึงว่าไปกันสองคนกับเค้าไง สองคนกับลิพูลอ่ะ เวลาพี่กลับบ้านต่างจังหวัด พี่ถามไปเที่ยวกับพ่อมั้ยที่นั่นที่นี่ เค้าจะตื่นเต้นมาก เค้าจะมานอนที่บ้านปู่กับย่าเค้ารอพี่เลยไง”
พรนภาหัวเราะกับคำพูดของเขา เมธีก็ดูน่ารักดีเวลาตกใจ แล้วพยายามแก้ตัวหาทางหนีทีไร่แบบนี้ แลดูมีความพยายามมาก ๆ หายงอนเพราะให้คะแนนในความพยายามที่จะรักษาความรู้สึกของของเธอนี่แหละ พี่เมธีน่ารักที่สุด
เธอรู้ว่าเขาไม่ได้แกล้งพูดเพื่อเอาใจ หากแต่พูดเพื่ออยากให้เธอหายงอนจริง ๆ เป็นความพยายามที่จริงใจ ไม่ใช่แสร้งทำ เธอสัมผัสได้
“น้องหัวเราะทำไมคะ”
“เปล่าค่า นภาไม่ได้งอนพี่เมธีเด้อเมื่อกี้ พี่เมธร้อนตัวไปเอง ฮา”
“แกล้งพี่เหรอ!” พร้อมให้มะเหงกเธอเบา ๆ คราวนี้พรนภาหัวเราะลั่นรถกันเลย “ชอบแกล้งเค้าให้ตกใจอยู่เรื่อยเลย เค้าแคร์ตัวเอง รักตัวเองคนเดียวตัวเองก็รู้”
“ขอบคุณนะคะ “ หันหน้ามองเขาด้วยความรักและซาบซึ้งใจมาก เธอเองก็รักเขาไม่แพ้กัน “มานภาดูให้! นี่ไปทางนี้ เข้าซอยนี้ไป นี่ไง ขับไปอีกไม่ไกล”
“โอเค เดี๋ยวเปิดไว้เลยดีกว่า” เมธีเปิดจีพีเอสไปตามทางระหว่างขับรถไปด้วย
“มุ่งหน้าไปทางตะวันออกหนึ่งกิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย...”
สิริกำลังพูดบอกเส้นทางแก่พวกเธอสองคน เมธีขับตามไปด้วยความลุ้นระทึก เกรงว่าจะเลยซอยเสียก่อน และในที่สุดก็มาถึงจนได้
บางพระเรือ ณ ห้วยท่าไทร
เป็นร้านกาแฟผสมผสานไปกับธรรมชาติ ทิวกอไผ่ให้สัมผัสที่เย็นสบาย ประกอบกับสายน้ำเล็ก ๆ ที่เข้ากันอย่างลงตัว เป็นธรรมชาติที่ร่มรื่นมาก พร้อมเพลิดเพลินไปกับรสชาติของกาแฟที่กลมกล่อม
มีแคร่ให้นั่งชมวิวทิวทัศน์ด้วย หรือจะนั่งโซฟาภายในร้านก็ได้ มีโต๊ะให้นั่งทานกลางสายน้ำ ครอบครัวไหนมีเด็ก ๆ มาด้วย ก็ชอบใจเป็นพิเศษ เพราะเด็ก ๆ ได้เล่นน้ำ สายน้ำตื้น ๆ ที่เย็นช่ำใจมาก
นอกจากนั้นทางร้านยังจัดสถานที่ไว้ให้ถ่ายรูปด้วย ตามสไตล์ร้านคาเฟ่ที่ไหน ๆ ก็ต้องจัดสถานที่ไว้ให้ลูกค้าถ่ายรูปกันทั้งนั้น ทว่ารูปแบบก็แตกต่างกันไป เป็นที่ถูกอกถูกใจของเธอมาก ๆ ไม่ผิดหวังเลยที่อ้อนให้เมธีพามาที่นี่
เธอตื่นเต้นมาก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มาที่นี่ สงสัยจะต้องมาซ้ำอีกรอบซะแล้ว สุ่มมาตามจีพีเอส ไม่คิดว่าจะคุ้มค่าขนาดนี้ แอบเผื่อใจไว้แล้วว่าต้องผิดหวังแน่ ๆ ทว่ามาถึงไม่ใช่เลย คุ้มมาก ๆ ที่มาในวันนี้กันเลย
พวกเธอมากันแค่สองคน เลือกนั่งโต๊ะมุมในร้าน มีหมอนมีเบาะให้รองนั่งสบาย ๆ ชิว ๆ ทานเสร็จค่อยเดินหาถ่ายรูปกันก็ได้ มองไปรอบ ๆ บรรยากาศมันร่มรื่นมาก ถ้ามีเด็กสักคนมาด้วยคงจะดี ได้พาเขาไปเล่นน้ำด้วย เหมือนครอบครัวนั้น พรนภากำลังมองไปที่คู่พ่อลูกกำลังเล่นน้ำ ส่วนแม่กำลังอัดคลิปวีดีโออยู่ น้ำแค่ข้อเท้ามันก็สนุกสนานสำหรับโลกของเด็ก ๆ
“ป่ะป๊านั่งรอเลยค่ะ เดี๋ยวคุณแม่จัดการให้เอง” นั่งมองจนเผลอเรียกเมธีแบบนี้ออกมา
“แหนะแล้วก็ว่าเค้าไม่ให้เรียก ตัวเองก็เรียก” เมธียิ้ม หืย! แล้วก็ทำเป็นห้ามคนอื่น “เรียกเลยพี่ก็ชอบนะ”
“ไม่! นภาลืมคราวค่ะ ฮา เอาใหม่! คุณผู้ชายนั่งเลยค่ะ เดี๋ยวนภาไปสั่งให้นะคะ เอสเพรสโซ่ร้อนใช่มั้ยคะ” เธอจำได้ว่าเมธีกินกาแฟรสชาตินี้ หรือเขาอาจจะอยากเปลี่ยน จึงถามเพื่อความแน่ใจดีกว่า ส่วนของตนเองเมื่อเช้าทานกาแฟร้อนมาแล้ว ตอนนี้ขอรับเป็นชาไทยดีกว่า
“ขอรับ เหมียนเดิมขอรับ” พูดแล้วก็หัวเราะ แม้จะมีผู้คนที่มาใช้บริการร้านกาแฟแห่งนี้มากมาย เมียงมองมาบ้าง พวกเธอก็ไม่แคร์ ไม่สนใจ ทำไมต้องสนใจคนอื่นด้วยก็ในเมื่อพวกเธอรักกัน ความรักไม่มีช่องว่างระหว่างอายุหรอกนะ
พรนภาเดินไปสั่งกาแฟและชาเย็น พร้อมขนมหวาน และอื่น ๆ อีกมากมาย เรื่องกินไม่ใช่เรื่องใหญ่ เธอแค่อยากมาถ่ายรูปเฉย ๆ อยากมาเที่ยว แค่ได้มา ไม่ทานอะไรก็ยังได้เลยถ้าไม่เกรงใจเจ้าของร้าน
เมื่อสั่งเสร็จเรียบร้อยก็เดินกลับมานั่งรอพนักงานนำมาเสิร์ฟ นั่งเล่นมือถือรอ แอบถ่ายเขาบ้างบางครั้ง “พี่เมธีไหนขอนภาลองกล้องหน่อย นภาดาวน์โหลดมาใหม่” ขืนขอถ่ายภาพเขาดี ๆ จะได้หรือ เมธีไม่ยอมหรอก เขาไม่ชอบถ่ายรูป
“หลอกถ่ายรูปพี่อีกแล้ว” ทำไมจะรู้ไม่ทันพรนภาแค่เรื่องแค่นี้
“หูย!!! หล่อ พี่เมธีเก็บพุงดิ!” พูดแล้วก็หัวเราะ ทำเสมือนว่าที่นี่มีแค่พวกเธอสองคน “แขม่วพุงไว้ ๆ โหหล่อมาก! อ่ะดู เป็นไงฝีมือนภาถ่ายรูป หล่อใช่มั้ยละ” พูดพร้อมยื่นหน้าจอโทรศัพท์ของตนเองให้เมธีดูรูปที่เธอถ่ายให้เมื่อครู่
“พี่หล่ออยู่แล้วน้องนภา” ได้ทีแล้วเอาใหญ่เชียว พรนภานึกในใจ
“พี่เมธีมาถ่ายรูปกัน มาถ่ายรูปคู่กันหน่อย” พรนภาจัดแจงท่านั่ง เธอเป็นคนถือโทรศัพท์ถ่ายกล้องหน้า ถ่ายรูปคู่กันกับเขา โดยไม่สนใจสายตาสองคู่ที่มองอยู่ หรืออาจหลาย ๆ คู่ที่กำลังมองมายังพวกเธอ “นึง สอง สาม เอาอีก! นึง สอง สาม” พรนภากดถ่ายเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ
“ส่งเข้ามาในไลน์ให้พี่ด้วยนะคะ” เมื่อดูรูปแล้ว เมธีก็ชอบมากเช่นกัน
“ค่ะ! เอาลงเฟซบุ๊กด้วยดีกว่า” พูดแล้วก็นำมาลงโซเชี่ยลเลย ทว่าพรนภาสัมผัสได้ถึงสายตาสองคู่ สองคนโต๊ะข้าง ๆ ที่มองมายังโต๊ะของพวกเธอ ขณะนี้พนักงานก็นำเมนูที่สั่งมาเสิร์ฟให้แล้วเรียบร้อย
“พี่เมธี นภาว่าเราน่าจะเจอคนเหมือนกันแล้วล่ะ นภารู้สึกได้ว่าเขาชอบมองเรานะ” พรนภาพูดเบา ๆ ทำเป็นมองไปที่อื่น ทำเหมือนไม่ได้นินทาโต๊ะข้าง ๆ
เมธีกรอกตาไปมองตามพรนภาบอก ก็พบว่าโต๊ะข้าง ๆ ผู้ชายน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา ไม่ก็รุ่นพี่ไม่กี่ปี มานั่งทานกาแฟกับผู้หญิงดู ๆ แล้วน่าจะอายุน้อยกว่าพรนภาอีก เมื่อสายตามองไปปะทะกันเข้าอย่างจัง เมธีก็ส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ ทำให้เธอทำทีหันไปมองตาม และส่งยิ้มให้เช่นกัน
“มองผมทำไมครับ ของผมเมียนะครับไม่ใช่เด็ก ไม่ใช่ชู้ จดทะเบียนสมรสแล้วด้วย ไม่ใช่เมียน้อย ถึงเมียจะตัวน้อย ๆ ก็ตามเถอะ ฮ่า” เมธีพูดเบา ๆ ลอย ๆ พร้อมยกเอสเพรสโซ่ดื่ม ปรายตามองไปที่อื่น พรนภาหัวเราะเบา ๆ
“นภาว่าไม่น่าจะเป็นลูกสาวนะ ถ้าลูกสาวแม่ต้องมาด้วย”
“ว่าไม่ได้นะคะ ถ้าเกิดพ่อแม่เขาหย่ากันล่ะ มาเที่ยวกับพ่อสองคนไรงี้ “
“นภาฟันธงค่ะ ยังไงก็ไม่ใช่ลูกแน่นอน! ดูทรงผู้หญิงแล้วนะ อีกอย่างได้ยินผู้หญิงเรียกพี่นะ คงไม่เรียกพ่อว่าพี่หรอก” เธอได้ยินผู้หญิงเรียกผู้ชายว่าพี่จริง ๆ
“ไหนลองเรียกเสี่ยสิ เดี๋ยวเสี่ยให้ห้าพัน”
“เสียเมธีขา ฮ่า” พรนภาพูดจีบปากจีบคอล้อเลียน พร้อมหัวเราะกันสองคน โต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะให้ และพูดอะไรกันก็ไม่ทราบได้ พวกเธอไม่ได้ใส่ใจแล้วแต่จะมองกันเลย
“ทานเสร็จเราไปเดินถ่ายรูปกันมั้ยคะ พี่ถ่ายรูปให้ เอาให้สะใจสมใจอยากไปเลย”
“ค่ะ” มันแน่อยู่แล้ว เรื่องอะไรเธอจะปล่อยให้ผ่านไปเฉย ๆ ได้มาทั้งที วันนี้ต้องได้สักพันรูปกันไปเลย เพราะพี่เมธีถ่ายมาร้อยรูปใช้ได้อยู่รูปเดียว หึหึ แต่เธอก็ชอบใช้ให้ถ่ายรูปให้เสมอ ๆ เลย ตากล้องส่วนตัว ตากล้องที่แสนดีแสนรักและแสนห่วงหวงที่สุด
พอพวกเธอทานกันเสร็จจึงตกลงพากันออกไปหาถ่ายรูป ระหว่างลุกขึ้นเดิน เมธีผงกศีรษะให้กับโต๊ะข้าง ๆ พร้อมชวนไปถ่ายรูปด้วยกัน “ไปเดินถ่ายรูปกันครับ”
“อ่อ เชิญก่อนเลยครับเดี๋ยวตามไป” เขาตอบ แล้วพวกเธอก็ขอตัวเดินจากไป หาถ่ายรูปกับป้ายต่าง ๆ
“น้องนภาคะมุมนี้ดีมั้ย มุมสายน้ำค่ะ” เมธีแนะนำมุมต่าง ๆ ให้เธอ ใช้กล้องโทรศัพท์ของเขาถ่ายรูปให้เธอ เพราะเธอได้โหลดแอพพลิเคชันกล้องฟุ้งฟิ้งมาไว้ในโทรศัพท์ของเขาหมดแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องใช้กล้องจากโทรศัพท์ของเธอก็ได้
จากมุมนั้นไปมุมนี้ จากตรงนี้ไปตรงนั้น ได้หลายรูปมาก ๆ และเพลินมาก ๆ ไม่เบื่อเลย ใช้เวลาอยู่ที่นี่เกือบทั้งวัน
“พี่เมธี! “ เธอเรียกเขา ทว่าเขาก็ไม่ยอมหันมา “พี่เมธีหันมาแหมะ ฮ่วย”
“ฮ่า “ เขาหัวเราะและยอมหันมาหาเธอ “มุกนี้ใช่ไม่ได้กับป่ะป๊าอีกแล้วนะคะคุณแม่ จะแอบถ่ายเค้าอ่ะดิ รู้ทันหรอก”
“เอ้อ อย่าให้พลาดก็แล้วกัน ต้องมีวันพลาดอีกล่ะน่า หึหึ” ฝากไว้ก่อนเถอะพี่เมธี จะแอบถ่ายรูปให้ได้ “พี่เมธีสักรูปนะคะ นภาถ่ายให้ นะ! นะคะ สักรูปหน่อย”
“ก็ได้ค่ะ”
“ดีมากค่ะ ยิ้ม ๆ เก็บพุงด้วย ๆ ฮ่า นึง สอง สาม “ แล้วรีบกดกล้องรัว ๆ ให้ได้หลาย ๆ ภาพ
“พอยังคะ เรียบร้อยยัง”
“เค้าขออีกรูปนะ” พร้อมชูนิ้วชี้หนึ่งนิ้วให้กับเขา “มายืนมุมนี้ค่ะ เอ้ย! นั่งตรงเก้าอี้ตรงนี้ดีกว่า นั่งเลย ช่างภาพพรนภาถ่ายรูปให้เอง เก็บพุง ๆ นึง สอง สาม” และก็รีบกดชัตเตอร์รัว ๆ อีกที “เสร็จแล้วค่า กลับกันมั้ย”
ฝันหวาน (Sweet Dream) 24
.
วันหยุดแค่ได้ออกมาจากห้องพักพรนภาก็พอใจแล้ว เพราะส่วนตัวมีนิสัยรักการท่องเที่ยวอยู่แล้ว แค่ได้ไป! ไปกันแค่สองคนก็ไป ไม่หวือหวา ไม่เน้นกิน เน้นสีสันสัมผัสบรรยากาศและเก็บภาพอย่างเดียว
นานมากตั้งแต่โควิดกลับมาอีกครั้ง เธอไม่ได้ออกไปไหนเลย วันนี้เมธีพาเธอออกมาสัมผัสบรรยากาศข้างนอกบ้าง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ พรนภาเลือกร้านกาแฟเช่นเคย แถวนี้คงไม่มีอะไรน่าเที่ยวเท่าร้านกาแฟแล้วล่ะ นอกเสียจากจะออกต่างจังหวัดซึ่งมันยังไม่ถึงเวลา และเธอก็ศึกษาไว้คร่าว ๆ แล้วว่าจะไปไหนดี ส่วนวันนี้ขอเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ไปก่อนแล้วกัน
เมธีพาเธอขับรถมาแถวบางพระ มีร้านกาแฟขนาดย่อม มีมุมให้ถ่ายภาพด้วย สวยงามไม่แพ้ร้านกาแฟขนาดใหญ่เลย ร้านพวกนี้พึ่งจะกลับมาอนุญาตให้นั่งอีกครั้งได้ เธอศึกษามาเป็นอย่างดี จึงให้เมธีพามาเมื่อถึงวันหยุดวันนี้
“อาการมันเป็นยังไงคะ ตื่นเต้นมากมั้ย ฮา” อดแซวไม่ได้เลย เห็นคนตื่นเต้นที่ได้ออกมาเที่ยวก็ตลกดี มีความสุขทุกครั้งที่เห็นพรนภามีความสุขแบบนี้ เขารู้จุดอ่อน จุดแข็ง และรู้ว่าหากทำผิดต้องง้อเธอด้วยวิธีไหนดี พรนภาตอนนี้ดูน่ารักสดใสที่สุด
“พี่เมธีอ่ะ ล้อนภาทำไม ฮ่วย ดีใจมากเลยค่ะ ได้ออกมาข้างนอกสักทีเหอะ อุดอู้มาทั้งเดือน นี่นภาแพลนไว้แล้วนะจะไปเที่ยวไหนบ้างอ่ะ” เธอพูดรัว ๆ เมธีแทบฟังไม่ทันด้วยความดีใจ ก็เธอดีใจจริง ๆ นี่นา ที่ได้ออกมาข้างนอกสักที ด้วยนิสัยชอบเที่ยวอยู่แล้ว เมธีหัวเราะเอ็นดูให้กับความเป็นเด็กในตัวของภรรยาคราวลูก
“โห่ นึกว่าลิพูลเลยนะคะ ลิพูลก็ตื่นเต้นแบบนี้แหละ ทุกทีที่พี่พาเที่ยว ฮา” ไม่พูดเฉย ๆ ยกมือขึ้นมาวางบนศีรษะของเธอด้วยความรัก ชอบทำแบบนี้กับเธอเสมอ ๆ เขารักเธอที่สุด รักเด็กคนนี้มากที่สุดในโลกเลย
“เที่ยวกับแม่เค้าเหรอ” พรนภาหุบยิ้มและหันมามองคนข้าง ๆ
“เอ๋า น้องนภาก็! สมัยนั้นอ่ะ “ ทำหน้าออดอ้อน หลับตาพริบ ๆ แบบรู้สึกผิดที่พูดถึงคนในอดีต เรื่องในอดีตขึ้นมา “ร้านอยู่แถวไหนคะ เปิดจีพีเอสเร็ว” เปลี่ยนเรื่องพูดทันที เมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจซะแล้ว
“ไม่! หลงก็หลงโลด” พรนภาไม่ยอมเปิดจีพีเอสตามที่เมธีบอก ใบหน้าเรียบเฉย แกล้งทำเฉย ๆ ที่จริงไม่ได้คิดมากอะไรเลย รู้ว่าเมธีรักเธอคนเดียวและจะไม่มีใครเพิ่มอีก
“เอ๋าน้องนภาแหมะ ฮ่วย! พี่ขอโทษค่ะ โกรธพี่เหรอคะ” เมธีสีหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกเหมือนงานจะเข้าอย่างไรไม่รู้ พอพรนภาไม่ยอมทำตามที่บอกจึงนำรถมาจอดเรียบข้างทางเพื่อเปิดจีพีเอสหาร้านกาแฟที่จะไป “พี่หมายถึงว่าไปกันสองคนกับเค้าไง สองคนกับลิพูลอ่ะ เวลาพี่กลับบ้านต่างจังหวัด พี่ถามไปเที่ยวกับพ่อมั้ยที่นั่นที่นี่ เค้าจะตื่นเต้นมาก เค้าจะมานอนที่บ้านปู่กับย่าเค้ารอพี่เลยไง”
พรนภาหัวเราะกับคำพูดของเขา เมธีก็ดูน่ารักดีเวลาตกใจ แล้วพยายามแก้ตัวหาทางหนีทีไร่แบบนี้ แลดูมีความพยายามมาก ๆ หายงอนเพราะให้คะแนนในความพยายามที่จะรักษาความรู้สึกของของเธอนี่แหละ พี่เมธีน่ารักที่สุด
เธอรู้ว่าเขาไม่ได้แกล้งพูดเพื่อเอาใจ หากแต่พูดเพื่ออยากให้เธอหายงอนจริง ๆ เป็นความพยายามที่จริงใจ ไม่ใช่แสร้งทำ เธอสัมผัสได้
“น้องหัวเราะทำไมคะ”
“เปล่าค่า นภาไม่ได้งอนพี่เมธีเด้อเมื่อกี้ พี่เมธร้อนตัวไปเอง ฮา”
“แกล้งพี่เหรอ!” พร้อมให้มะเหงกเธอเบา ๆ คราวนี้พรนภาหัวเราะลั่นรถกันเลย “ชอบแกล้งเค้าให้ตกใจอยู่เรื่อยเลย เค้าแคร์ตัวเอง รักตัวเองคนเดียวตัวเองก็รู้”
“ขอบคุณนะคะ “ หันหน้ามองเขาด้วยความรักและซาบซึ้งใจมาก เธอเองก็รักเขาไม่แพ้กัน “มานภาดูให้! นี่ไปทางนี้ เข้าซอยนี้ไป นี่ไง ขับไปอีกไม่ไกล”
“โอเค เดี๋ยวเปิดไว้เลยดีกว่า” เมธีเปิดจีพีเอสไปตามทางระหว่างขับรถไปด้วย
“มุ่งหน้าไปทางตะวันออกหนึ่งกิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย...”
สิริกำลังพูดบอกเส้นทางแก่พวกเธอสองคน เมธีขับตามไปด้วยความลุ้นระทึก เกรงว่าจะเลยซอยเสียก่อน และในที่สุดก็มาถึงจนได้
บางพระเรือ ณ ห้วยท่าไทร
เป็นร้านกาแฟผสมผสานไปกับธรรมชาติ ทิวกอไผ่ให้สัมผัสที่เย็นสบาย ประกอบกับสายน้ำเล็ก ๆ ที่เข้ากันอย่างลงตัว เป็นธรรมชาติที่ร่มรื่นมาก พร้อมเพลิดเพลินไปกับรสชาติของกาแฟที่กลมกล่อม
มีแคร่ให้นั่งชมวิวทิวทัศน์ด้วย หรือจะนั่งโซฟาภายในร้านก็ได้ มีโต๊ะให้นั่งทานกลางสายน้ำ ครอบครัวไหนมีเด็ก ๆ มาด้วย ก็ชอบใจเป็นพิเศษ เพราะเด็ก ๆ ได้เล่นน้ำ สายน้ำตื้น ๆ ที่เย็นช่ำใจมาก
นอกจากนั้นทางร้านยังจัดสถานที่ไว้ให้ถ่ายรูปด้วย ตามสไตล์ร้านคาเฟ่ที่ไหน ๆ ก็ต้องจัดสถานที่ไว้ให้ลูกค้าถ่ายรูปกันทั้งนั้น ทว่ารูปแบบก็แตกต่างกันไป เป็นที่ถูกอกถูกใจของเธอมาก ๆ ไม่ผิดหวังเลยที่อ้อนให้เมธีพามาที่นี่
เธอตื่นเต้นมาก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มาที่นี่ สงสัยจะต้องมาซ้ำอีกรอบซะแล้ว สุ่มมาตามจีพีเอส ไม่คิดว่าจะคุ้มค่าขนาดนี้ แอบเผื่อใจไว้แล้วว่าต้องผิดหวังแน่ ๆ ทว่ามาถึงไม่ใช่เลย คุ้มมาก ๆ ที่มาในวันนี้กันเลย
พวกเธอมากันแค่สองคน เลือกนั่งโต๊ะมุมในร้าน มีหมอนมีเบาะให้รองนั่งสบาย ๆ ชิว ๆ ทานเสร็จค่อยเดินหาถ่ายรูปกันก็ได้ มองไปรอบ ๆ บรรยากาศมันร่มรื่นมาก ถ้ามีเด็กสักคนมาด้วยคงจะดี ได้พาเขาไปเล่นน้ำด้วย เหมือนครอบครัวนั้น พรนภากำลังมองไปที่คู่พ่อลูกกำลังเล่นน้ำ ส่วนแม่กำลังอัดคลิปวีดีโออยู่ น้ำแค่ข้อเท้ามันก็สนุกสนานสำหรับโลกของเด็ก ๆ
“ป่ะป๊านั่งรอเลยค่ะ เดี๋ยวคุณแม่จัดการให้เอง” นั่งมองจนเผลอเรียกเมธีแบบนี้ออกมา
“แหนะแล้วก็ว่าเค้าไม่ให้เรียก ตัวเองก็เรียก” เมธียิ้ม หืย! แล้วก็ทำเป็นห้ามคนอื่น “เรียกเลยพี่ก็ชอบนะ”
“ไม่! นภาลืมคราวค่ะ ฮา เอาใหม่! คุณผู้ชายนั่งเลยค่ะ เดี๋ยวนภาไปสั่งให้นะคะ เอสเพรสโซ่ร้อนใช่มั้ยคะ” เธอจำได้ว่าเมธีกินกาแฟรสชาตินี้ หรือเขาอาจจะอยากเปลี่ยน จึงถามเพื่อความแน่ใจดีกว่า ส่วนของตนเองเมื่อเช้าทานกาแฟร้อนมาแล้ว ตอนนี้ขอรับเป็นชาไทยดีกว่า
“ขอรับ เหมียนเดิมขอรับ” พูดแล้วก็หัวเราะ แม้จะมีผู้คนที่มาใช้บริการร้านกาแฟแห่งนี้มากมาย เมียงมองมาบ้าง พวกเธอก็ไม่แคร์ ไม่สนใจ ทำไมต้องสนใจคนอื่นด้วยก็ในเมื่อพวกเธอรักกัน ความรักไม่มีช่องว่างระหว่างอายุหรอกนะ
พรนภาเดินไปสั่งกาแฟและชาเย็น พร้อมขนมหวาน และอื่น ๆ อีกมากมาย เรื่องกินไม่ใช่เรื่องใหญ่ เธอแค่อยากมาถ่ายรูปเฉย ๆ อยากมาเที่ยว แค่ได้มา ไม่ทานอะไรก็ยังได้เลยถ้าไม่เกรงใจเจ้าของร้าน
เมื่อสั่งเสร็จเรียบร้อยก็เดินกลับมานั่งรอพนักงานนำมาเสิร์ฟ นั่งเล่นมือถือรอ แอบถ่ายเขาบ้างบางครั้ง “พี่เมธีไหนขอนภาลองกล้องหน่อย นภาดาวน์โหลดมาใหม่” ขืนขอถ่ายภาพเขาดี ๆ จะได้หรือ เมธีไม่ยอมหรอก เขาไม่ชอบถ่ายรูป
“หลอกถ่ายรูปพี่อีกแล้ว” ทำไมจะรู้ไม่ทันพรนภาแค่เรื่องแค่นี้
“หูย!!! หล่อ พี่เมธีเก็บพุงดิ!” พูดแล้วก็หัวเราะ ทำเสมือนว่าที่นี่มีแค่พวกเธอสองคน “แขม่วพุงไว้ ๆ โหหล่อมาก! อ่ะดู เป็นไงฝีมือนภาถ่ายรูป หล่อใช่มั้ยละ” พูดพร้อมยื่นหน้าจอโทรศัพท์ของตนเองให้เมธีดูรูปที่เธอถ่ายให้เมื่อครู่
“พี่หล่ออยู่แล้วน้องนภา” ได้ทีแล้วเอาใหญ่เชียว พรนภานึกในใจ
“พี่เมธีมาถ่ายรูปกัน มาถ่ายรูปคู่กันหน่อย” พรนภาจัดแจงท่านั่ง เธอเป็นคนถือโทรศัพท์ถ่ายกล้องหน้า ถ่ายรูปคู่กันกับเขา โดยไม่สนใจสายตาสองคู่ที่มองอยู่ หรืออาจหลาย ๆ คู่ที่กำลังมองมายังพวกเธอ “นึง สอง สาม เอาอีก! นึง สอง สาม” พรนภากดถ่ายเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ
“ส่งเข้ามาในไลน์ให้พี่ด้วยนะคะ” เมื่อดูรูปแล้ว เมธีก็ชอบมากเช่นกัน
“ค่ะ! เอาลงเฟซบุ๊กด้วยดีกว่า” พูดแล้วก็นำมาลงโซเชี่ยลเลย ทว่าพรนภาสัมผัสได้ถึงสายตาสองคู่ สองคนโต๊ะข้าง ๆ ที่มองมายังโต๊ะของพวกเธอ ขณะนี้พนักงานก็นำเมนูที่สั่งมาเสิร์ฟให้แล้วเรียบร้อย
“พี่เมธี นภาว่าเราน่าจะเจอคนเหมือนกันแล้วล่ะ นภารู้สึกได้ว่าเขาชอบมองเรานะ” พรนภาพูดเบา ๆ ทำเป็นมองไปที่อื่น ทำเหมือนไม่ได้นินทาโต๊ะข้าง ๆ
เมธีกรอกตาไปมองตามพรนภาบอก ก็พบว่าโต๊ะข้าง ๆ ผู้ชายน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา ไม่ก็รุ่นพี่ไม่กี่ปี มานั่งทานกาแฟกับผู้หญิงดู ๆ แล้วน่าจะอายุน้อยกว่าพรนภาอีก เมื่อสายตามองไปปะทะกันเข้าอย่างจัง เมธีก็ส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ ทำให้เธอทำทีหันไปมองตาม และส่งยิ้มให้เช่นกัน
“มองผมทำไมครับ ของผมเมียนะครับไม่ใช่เด็ก ไม่ใช่ชู้ จดทะเบียนสมรสแล้วด้วย ไม่ใช่เมียน้อย ถึงเมียจะตัวน้อย ๆ ก็ตามเถอะ ฮ่า” เมธีพูดเบา ๆ ลอย ๆ พร้อมยกเอสเพรสโซ่ดื่ม ปรายตามองไปที่อื่น พรนภาหัวเราะเบา ๆ
“นภาว่าไม่น่าจะเป็นลูกสาวนะ ถ้าลูกสาวแม่ต้องมาด้วย”
“ว่าไม่ได้นะคะ ถ้าเกิดพ่อแม่เขาหย่ากันล่ะ มาเที่ยวกับพ่อสองคนไรงี้ “
“นภาฟันธงค่ะ ยังไงก็ไม่ใช่ลูกแน่นอน! ดูทรงผู้หญิงแล้วนะ อีกอย่างได้ยินผู้หญิงเรียกพี่นะ คงไม่เรียกพ่อว่าพี่หรอก” เธอได้ยินผู้หญิงเรียกผู้ชายว่าพี่จริง ๆ
“ไหนลองเรียกเสี่ยสิ เดี๋ยวเสี่ยให้ห้าพัน”
“เสียเมธีขา ฮ่า” พรนภาพูดจีบปากจีบคอล้อเลียน พร้อมหัวเราะกันสองคน โต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะให้ และพูดอะไรกันก็ไม่ทราบได้ พวกเธอไม่ได้ใส่ใจแล้วแต่จะมองกันเลย
“ทานเสร็จเราไปเดินถ่ายรูปกันมั้ยคะ พี่ถ่ายรูปให้ เอาให้สะใจสมใจอยากไปเลย”
“ค่ะ” มันแน่อยู่แล้ว เรื่องอะไรเธอจะปล่อยให้ผ่านไปเฉย ๆ ได้มาทั้งที วันนี้ต้องได้สักพันรูปกันไปเลย เพราะพี่เมธีถ่ายมาร้อยรูปใช้ได้อยู่รูปเดียว หึหึ แต่เธอก็ชอบใช้ให้ถ่ายรูปให้เสมอ ๆ เลย ตากล้องส่วนตัว ตากล้องที่แสนดีแสนรักและแสนห่วงหวงที่สุด
พอพวกเธอทานกันเสร็จจึงตกลงพากันออกไปหาถ่ายรูป ระหว่างลุกขึ้นเดิน เมธีผงกศีรษะให้กับโต๊ะข้าง ๆ พร้อมชวนไปถ่ายรูปด้วยกัน “ไปเดินถ่ายรูปกันครับ”
“อ่อ เชิญก่อนเลยครับเดี๋ยวตามไป” เขาตอบ แล้วพวกเธอก็ขอตัวเดินจากไป หาถ่ายรูปกับป้ายต่าง ๆ
“น้องนภาคะมุมนี้ดีมั้ย มุมสายน้ำค่ะ” เมธีแนะนำมุมต่าง ๆ ให้เธอ ใช้กล้องโทรศัพท์ของเขาถ่ายรูปให้เธอ เพราะเธอได้โหลดแอพพลิเคชันกล้องฟุ้งฟิ้งมาไว้ในโทรศัพท์ของเขาหมดแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องใช้กล้องจากโทรศัพท์ของเธอก็ได้
จากมุมนั้นไปมุมนี้ จากตรงนี้ไปตรงนั้น ได้หลายรูปมาก ๆ และเพลินมาก ๆ ไม่เบื่อเลย ใช้เวลาอยู่ที่นี่เกือบทั้งวัน
“พี่เมธี! “ เธอเรียกเขา ทว่าเขาก็ไม่ยอมหันมา “พี่เมธีหันมาแหมะ ฮ่วย”
“ฮ่า “ เขาหัวเราะและยอมหันมาหาเธอ “มุกนี้ใช่ไม่ได้กับป่ะป๊าอีกแล้วนะคะคุณแม่ จะแอบถ่ายเค้าอ่ะดิ รู้ทันหรอก”
“เอ้อ อย่าให้พลาดก็แล้วกัน ต้องมีวันพลาดอีกล่ะน่า หึหึ” ฝากไว้ก่อนเถอะพี่เมธี จะแอบถ่ายรูปให้ได้ “พี่เมธีสักรูปนะคะ นภาถ่ายให้ นะ! นะคะ สักรูปหน่อย”
“ก็ได้ค่ะ”
“ดีมากค่ะ ยิ้ม ๆ เก็บพุงด้วย ๆ ฮ่า นึง สอง สาม “ แล้วรีบกดกล้องรัว ๆ ให้ได้หลาย ๆ ภาพ
“พอยังคะ เรียบร้อยยัง”
“เค้าขออีกรูปนะ” พร้อมชูนิ้วชี้หนึ่งนิ้วให้กับเขา “มายืนมุมนี้ค่ะ เอ้ย! นั่งตรงเก้าอี้ตรงนี้ดีกว่า นั่งเลย ช่างภาพพรนภาถ่ายรูปให้เอง เก็บพุง ๆ นึง สอง สาม” และก็รีบกดชัตเตอร์รัว ๆ อีกที “เสร็จแล้วค่า กลับกันมั้ย”