ฝันหวาน (sweet dream) 18



.


                ผลการถ่ายทอดสดแข่งขันฟุตบอลระหว่างสองทีม ปรากฏว่าลิเวอร์พูลกับแมนยูเสมอศูนย์ประตูต่อศูนย์ ทำเอาเมธีและพรนภาต่างทำหน้ามุ่ยให้กันและกัน ลุ้นแทบตาย! กว่าพวกเธอจะพากันนอนได้ก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่ง ผิดหวังทั้งคู่ ไม่มีใครสมปรารถนาในเกมนี้สักคน

                   “อดเลย” ภายใต้ความมืดของห้อง ทว่าสองคนบนเตียงนอนยังไม่พากันหลับไหล พรนภาพูดขึ้นอย่างน่าเสียดาย เธอมีสิ่งที่อยากทำ แต่ก็รู้คำตอบอยู่แล้ว ว่าคงเป็นไปได้ยาก เพราะสังคมสิ่งแวดล้อมหลาย ๆ อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ “นึกว่าแมนยูจะชนะซะอีก สงสารลิเวอร์พูลเฉย ๆ หรอก! เลยอ่อนให้ไม่ยิงประตูนำไปก่อน”

               “เหรอ! ใครกันแน่ที่ต้องสงสาร กลัวเจ็บไง อยู่สูงแล้ว เดี๋ยวหล่นตุ้บลงมาเจ็บนะ ฮา ลิเวอร์พูลเลยไม่ยิงนำไปก่อน” เมธีพูดยียวน ล้อเธอเล่นเฉย ๆ  พร้อมพลิกตัวเอื้อมมือสวมกอดเธอไว้แน่น “ว่าแต่อดอะไรคะ นภาอยากให้พี่ทำอะไรเหรอ บอกได้นะคะ พี่ทำให้นภาได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”

               “เปล่าค่า นภาแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้อยากได้อะไรหรอก นอนแล้วง่วง! ตีหนึ่งแล้วมั้ง” พูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยเพราะความง่วง แล้วก็หลับไปในที่สุด เธอสัมผัสได้กับอ้อมกอดอุ่น ๆ จากด้านหลังที่รัดแน่นกว่าเดิมของเมธี พรนภายิ้มและหลับไปในที่สุด อบอุ่นที่สุด...

              เช้าวันหยุดพรนภาตื่นเช้าเช่นทุกวัน แต่เมธีตื่นเช้ากว่า แม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม พวกเธอไม่เคยนอนตื่นสายเลยสักคน พรนภาลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน ดูนาฬิกาแปดโมงเช้า เท่ากับทุก ๆ วันที่ตื่นไปทำงาน เห็นเมธีนั่งจ่อหน้าจอคอมพิวเตอร์ กำลังเล่นเกมฟุตบอลอยู่ เล่นเกมอีกและ! นึกในใจพลางมองไปที่เขา คนก่อนก็ติดเกม คนใหม่ยังจะติดเกมอีกเหรอ แต่มันต่างกันตรงที่เมธีไม่ได้เล่นเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น แค่ในเวลาว่าง ๆ เท่านั้นเอง เช่นวันนี้ที่ไม่ได้ไปทำงาน

               เมื่อมองดูดี ๆ เขากำลังเล่นเกมฟุตบอลอยู่ ระหว่างทีมแมนยูกับลิเวอร์พูล เสียงนักพากษ์บอลในเกมก็สมจริงเหลือเกิน เสียงพี่แจ็คกี้นั่นเอง ฮา เมื่อนึกถึงใบหน้าเจ้าของเสียงในเกม เธอรู้ในทันทีว่าเขาต้องเล่นฝ่ายลิเวอร์พูลชนะแน่นอน และจะทำให้แมนยูแพ้

               “พี่เมธี! ถ้าพี่เมธีเล่นให้แมนยูแพ้นภาจะไม่คุยด้วยเลย” ทันทีที่เห็น เปิดผ้าห่มออกและพูดกับเขา ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงนอนเพื่อไปอาบน้ำในตอนเช้า

               “เอ้า!” เขามองแบบอ้อนวอน ประมาณว่าแค่ในเกมก็ขอเถอะ

               พรนภาไม่แยแสต่อสายตาอ้อนวอนคู่นั้น เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป “จำไว้นะ ถ้าเล่นให้แมนยูแพ้นภาจะงอนพี่เมธีตลอดไป” ก่อนจะอาบน้ำยังมิวายเปิดประตูโผล่หน้าและลำตัวท่อนบน อวดเรือนร่าง หน้าอกขาวเนียนของเธอออกมาคุยกับเขาอีกโผล่หน้าออกมาเตือนเขาแบบตลก ๆ มิได้จริงจังอะไร

               “ไม่องไม่อายพี่เลยนะทุกวันนี้” เมธียิ้มกริ่ม และมองตาไม่กะพริบ แล้วเธอก็รีบปิดประตูห้องน้ำดังปัง เมธีหัวเราะหึหึในลำคอก่อนจะส่ายหัวให้กับภรรยาคราวลูก และหันมาตั้งใจเล่นเกมฟุตบอลต่อ

               ไม่นานเธอก็อาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำ เดินมานั่งแต่งตัวที่โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งทุกอย่างอยู่รวมกันภายในห้องเดียว มีแยกออกไปก็แค่ห้องครัวเท่านั้น ทว่าทุกอย่างก็ถูกจัดให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย ไม่รกหูรกตา

               “จะไปไหนคะวันนี้” เมธีหันมาถามเธอ ตอนนี้เขาเลิกเล่นเกมไปแล้ว ขึ้นมานอนดูทีวีบนเตียงนอนรอเธอ “พี่ว่าอย่าพึ่งไปไหนเลยได้มั้ย รอดูสถานการณ์เดือนหน้าก่อน พี่ขี้เกียจเขียนรายงานให้บริษัทว่าไปไหนบ้าง” เขาทำสายตาละห้อย ไม่อยากออกไปไหนจริง ๆ “ถ้าเดือนหน้าและต่อ ๆ ไปมันไม่ล็อคดาวน์แล้ว ไปไหนไปกันค่ะ โอเคมั้ย สัญญา!” พร้อมชูสามนิ้วให้กับเธอ

               พรนภากำลังแต่งองค์ทรงเครื่องตัวเองอยู่หน้ากระจก มองเขาผ่านกระจกอดขำให้ไม่ได้ ก่อนจะหันมายิ้มให้กับเขา “นภาก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลย พี่เมธีร้อนตัวมาก!” พูดเสียงยาวเหมือนประชด และหันกลับมาแต่งหน้าทาครีมต่อ

               “ก็เค้ารู้ใจตัวเองไง” พูดออเซาะ หลับตาพริบ ๆ ทำหน้าทะเล้นให้เธอ มองเธอตั้งแต่หัวจดเท้า อ่านกินเธออีกแล้ว ทั้งที่อยู่ด้วยกันทุกวัน เห็นทุก ๆ อะรูขุมขนหมดแล้ว

              “พี่เมธี!” เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ หาเรื่องเมธีดีกว่า ว่างมากไม่มีอะไรทำ หาเรื่องงอนเล่น ๆ ดีกว่า

               “คะ” เขาตอบและมองเธอ เลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม นั่งเอนหลังพิงพนักเตียง เหยียดขาดูทีวีรอเธอขึ้นมานอนดูด้วยกัน “ว่า!”

               “เมื่อกี้เล่นให้ใครชนะ” พรนภาจ้องมองเขาผ่านกระจก เห็นเขานอนยิ้มหัวเราะให้กับเธอ “ตอบมา เล่นให้ใครแพ้”

               “เสมอค่ะ!” เรื่องอะไรเขาจะบอกความจริง ก็ต้องเล่นให้แมนยูแพ้สิถามมาได้

                “แน่ใจนะ!” ยิงคำถามพร้อมมองค้อนให้เขา และแอบหันมายิ้ม เมธีทำหน้าตาตกใจนิดหน่อย ยิ่งทำให้เธอชอบใจเข้าไปอีก ตลกจริง ๆ พี่เมธี

               “แน่ใจค่ะ! แต่งตัวเร็ว ๆ มา! ขึ้นมานอนข้าง ๆ พี่สิ อยากกอดแล้วเนี่ย” ทำหน้าตาทะเล้นให้อีก

               “หื่อ “เธอปฏิเสธ “เราไปไหนได้บ้างเนี่ย นภาเบื่อ ร้านกาแฟก็เก็บโต๊ะเก็บเก้าอี้กันหมด ซื้อได้แต่ต้องซื้อกลับบ้าน ไม่ให้นั่งทาน เซ็ง! โรคบ้าหนิ” แต่งตัวไปด้วยบ่นไปพร้อมแบบเซ็ง ๆ ทาครีมเสร็จก็ลุกไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดใส่ พอเปิดตู้ออกมาบานหนึ่งก็หันไปยิ้มให้กับเมธีบนเตียงนอน “เค้าไม่มีชุดใส่อ่ะ” หลับตาพริบ ๆ อมยิ้มมองคนตรงหน้าด้วยท่าทางขบขัน และมีเลศนัย

                 “โนค่ะ!” เมธียกนิ้วชี้ส่ายไปมา ตอบปฏิเสธไป ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพรนภาภรรยาสุดที่รักคิดอะไรอยู่ “ใส่เสื้อผ้าเร็ว ๆ แล้วขึ้นมานอนนี่ค่ะ” เมธีตบฝ่ามือลงบนที่นอนข้าง ๆ ตัวเอง พรนภาขมวดคิ้วถอนหายใจให้กับเขาอย่างไม่ชอบใจมาก ๆ ก่อนจะหาชุดใส่ตามคำสั่งของเขา

               พรนภาแต่งตัวเสร็จก็ขึ้นมานอนบนเตียงข้าง ๆ กับเขา เมธีอ้าแขนรับให้เธอนอนหนุนแขนของตน และโน้มใบหน้าหอมหน้าผากของเธอ “เบื่อเหรอคะ”

              “อือ” พรนภาพยักหน้า นอนหนุนแขนเมธีดูทีวีด้วยกันกับเขา วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ไม่ได้ไปไหน หยุดอยู่ห้องอีกแล้ว รายการทีวีก็เริ่มน่าเบื่อ ไม่รู้จะดูอะไรเช่นกัน ยูทูป เปิดเพลงฟังก็งั้น ๆ เธออยากไปเที่ยว อยากออกไปข้างนอก เดือนนี้ทั้งเดือนยังไม่ได้ออกไปไหนเลย อย่างน้อย ๆ ก็คาเฟ่ก็ได้

               วันหยุดแบบนี้ในหนึ่งเดือนพวกเธอต้องออกไปชาร์จแบตให้ตัวเองสักที่กันแล้ว ทำงานเหนื่อยมาทั้งเดือน มันก็ต้องเที่ยวบ้าง เติมพลังให้ตัวเอง ทว่าเดือนนี้ตั้งแต่กลับมาจากต่างจังหวัด ยังไม่ได้ไปไหนกันเลย ห้างสรรพสินค้าก็ไม่ได้ไปเดินเล่น กลัว หวาดระแวงไปหมด

               “เดี๋ยวก็ซาแล้วค่ะ นี่ก็ซาลงมากนะ ไม่พบผู้ติดเชื้อเลย ถ้าเดือนหน้าออกต่างจังหวัดได้ เราค่อยไปกันนะคะ พี่สัญญา”

               “จริงเหรอ สัญญาแล้วนะ” พรนภาแหงนหน้านิดหน่อยเพื่อมองเขา พูดน้ำเสียงจริงจัง เมธีพยักหน้ารับคำ เธอจึงกอดเขาไว้แน่นด้วยความดีใจ ขยับตัวเข้าไปใกล้ชิดเขาอีก หนุนไหล่ของเขา เมธีหันมาหอมศีรษะของเธอ

               “จริงค่ะ แต่ตอนนี้หิวแล้วหาไรทานกัน”

                “ค่ะ แต่ว่าทานข้าวเสร็จพานภาไปที่ทำงานก่อนนะ นภาต้องไปจ่ายภาษีป้ายให้คุณอรวี คุณอรวีทำเองไม่เป็น หึหึ” พูดประชดไปอย่างนั้นเอง ประชดด้วยท่าทางขำขัน ไม่ได้จะต่อว่าผู้จัดการของตนสักนิด เธอทราบดีว่าอรวีพึ่งย้ายมาประจำที่นี่ไม่ถึงปีเลย จึงยังไม่ค่อยทราบอะไรเท่าไหร่ ทำให้เธอต้องสละวันหยุดไปทำงานให้กับหล่อน

               “โอเคค่ะ”

               เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยทั้งคู่นอนดูทีวีด้วยกันสักพัก ก่อนจะออกไปหาอะไรทานแถว ๆ คอนโดของตน และไปทำธุระให้อรวีผู้จัดการของเธอ

                “พี่เมธีต้องเขียนรายงานมั้ยคะ”

               “เขียน! แต่ไม่ได้ไปไกลไง ไม่ห่วงหรอก”

               “โอเคค่า!”

               เธอแอบมองเขาอีกแล้ว ชอบแอบมองตอนเผลอทุกที และยิ้มให้กับตัวเองคนเดียว เมธีเป็นผู้ชายที่อบอุ่นมาก ขอบคุณโลกที่เหวี่ยงให้เธอได้มาเจอกับเขา สำหรับที่ผ่านมาถือว่าผ่านไป

จบบท...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่