สวัสดีและแล้วเราก็เล่ามาถึงวันที่ 12 วันสุดท้ายของการเดินทางแล้ว
เช้าวันที่ 8 ธันวาคม ลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำเหมือนเช้าวันอื่นๆ กับอากาศที่เย็นพสมควรสิบกว่าองศา แต่ความรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว มันก็เลยรู้สึกยังไงไม่รู้ แต่ก็ทุกอย่างมันเริ่มแล้วก็ต้องจบลง เหมือนทริบล่องเหนือหาลมหนาวของผม เช้านี้ผมตื่นมาดูบรรยากาศที่ แคมป์หมาบ้าใจดี ที่บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เมื่อคืนเข้ามาถึงที่นี่ตอนมืดเลยไม่ค่อยเห็นอะไรมากนัก แต่เช้านี้พอฟ้าเริ่มสาง เริ่มเห็นวิว เห็นบรรยากาศรอบตัว ว้าววววว...เลย วิวดีมามีเขาหินปูนตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า รอบเป็นสวน เป็นไร่บรรยากาศน่ามานอนพักปล่อยอารมณ์ ยิ่งถ้าเป็นช่วงเพราะปลูกมันจะชอุ่มสวยกว่าตอนนี้อีกเยอะ เพราะตอนนี้ที่มาเขากำลังลงแปลงดอกไม้ใหม่ ก็ยังดูแห้งๆหน่อยแต่ด้วยบรรยากาศตอนเช้าอากาศดีๆ แค่นี้ก็พอที่จะเก็บความทรงจำได้แล้ว
หลังจากนั้นผมก็กลบมาหน้าเต็นท์เพื่อทำพิธีบูชายัญแสงแรกของผมเหมือนทุกๆวัน
หลังดื่มด่ำบรรยากาศกับกาแฟเสร็จ ผมก็เก็บของที่ต้องล้างทำความสะอาดไปล้าง เพราะที่นี่เป็นแบบห้องน้ำรวม หลังล้างของเสร็จผมก็แวะไปนั่งทานอาหารเช้าเพราะเมื่อคืนผมเช้าเต็นท์และเครื่องนอนและมื้อเช้า ผมนั่งรอมื้อเช้าวันนี้คือข้าวต้ม ผมก็เก็บบรรยากาศไปเรื่อยจนข้าวต้มมา ผมก็กำลังจะเริ่มทาน ถ้าใครที่นี่แล้วไม่เจอเจ้าถิ่นตัวนี้เข้ามาหาแสดงว่าคุณเหมือนยังมาไม่ถึง พี่สามสีแมวเจ้าถิ่นที่ทุกคนที่มาต้องเจอพี่เขา พี่เขาเดินมาสำรวจผมกับมื้อเช้ามื้อนี้ ผมก็เกรงใจเลยตักหมู่สับให้พี่เขาไปชิ้นหนึ่ง ปรากฏว่าพี่เขาแค่ดมๆแล้วก็เดินไป คุณป้าที่เป็นคนทำข้าวต้มให้ก็บอกว่า เขาชอบอาหารทะเลนั้นพี่เขาเดินมาทักทายด้วยเฉยๆ ผมก็เลยอ๋อครับ จากนั้นผมก็เลยนั่งทานข้าวต้มดูบรรยากาศจนอิ่มเรียบร้อยก็กลับไปที่เต็นท์เพื่อเอาของไปทำกิจส่วนตัวประจำวันและทยอยเก็บของบ้างส่วนก่อน
หลังจากกลับมาจากทำกิจส่วนตัวประจำวันก็เก็บข้าวของสัมภาระทั้งหมดขึ้นรถและผูกมัดรัดตรึง ตรวจเช็คความพร้อมเพื่อเตรียมตัวออกเดินยาวกลับกรุงเทพฯในวันนี้ เสร็จแล้วก็มาจ่ายค่าที่พักเมื่อคืนและเก็บรูปอีกหน่อยก่อนออกเดินทาง
วันนี้ GPS ให้ผมวิ่งออกจากเนินมะปราง ไปออกทางเพชรบูรณ์แถวทางบ้านเขาค้อแล้ววิ่งตัดลงนครสวรรค์ ก่อนไปตัดเข้าทางหลักแถวๆสิงห์บุรี เพื่อกลับกรุงเทพฯ ระหว่างทางผมก็จอดเก็บรูปเป็นระยะๆ จนถึงแถวเพชรบูรณ์ผมแวะพักปั้มน้ำมันเพื่อเติมน้ำมัน ถังแรกของวันนี้และพักรถ ตรงนี้ค่าน้ำมัน 70 บาท และนั่งพักอยู่อีกสักพักถึงออกเดินทางต่อ จากนั้นก็ขี่ยาวจนน้ำมันเตะขีดแดงแถวนครสวรรค์ผมจึงเข้าปั้มอีกครั้งแต่ปั้มนี้ผมไม่ได้เติมน้ำมัน เพราะใช้น้ำมันจากถังสำรองที่ติดรถมาด้วยและแวะทานข้าวที่ร้านข้าวในปั้มนี้ ค่าข้าวเที่ยงหมดไปอีก 85 บาท
หลังจากกินข้าวจนอิ่มนั่งพักแล้วก็ออกเดินทางต่อก็ขี่ยาวมาจนน้ำมันเตะขีดแดงอีกครั้งแถวๆอยุทธยา ผมก็แวะพักรถอีกครั้ง ครั้งนี้ผมเติมน้ำมันที่เหลือในถังสำรองจนหมดก่อนจะเติมที่ปั้มเพิ่มอีกหน่อยจนเต็มถัง ปั้นนี้เติมน้ำมันเพิ่มอีก 35 บาท
จากนั้นก็นั่งพักอีกพักหนึ่ง จึงออกเดินทางต่อผมขี่มาถึงบ้านแถวศรีนครินทร์ตอนมืดเพราะขาเข้ากรุงเทพฯตอนเย็นรถแน่นเหมือนปกติเลยกว่าจะขี่มาถึงบ้าน และก่อนเข้าบ้านผมแวะเติมน้ำมันอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวไปทำงานวันพรุ่งนี้อีก 70 บาท จากนั้น ก็ขี่เข้าถึงบ้านอย่างมีสวัสดิภาพ และเข้าบ้านอย่างมีประสิทธิผลตอนสองทุ่มกว่าเกือบๆ สามทุ่มเล่นเอาเหมื่อยมากกก...
สำหรับทริปนี้ผมสนุกและมีความสุขมากอีกหนึ่งทริป มีความทรงจำดีๆอีกหลายเรื่องราว มันเป็นประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้และทั้งหมดนี้คือบันทึกการเดินทางของผู้ชายหน้ามึนคนหนึ่ง ที่หาความสุขใส่ตัวในแบบของตัวเอง และถ้ามีเรื่องราวใหม่ผมจะมาเล่าให้ฟังใหม่ และสำหรับทริปนี้ขอบคุณครับที่หลงมาอ่านทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ.....สวัสดีครับ......
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 8
ค่าอาหารทั้งหมด 85 บาท
ค่าน้ำมัน 175 บาท
ค่าที่พักแคมป์หมาบ้าใจดี (ค่าเช่าเต็นท์เครื่องนอนและอาหารเช้า) 550 บาท
รวม 810 บาท ระยะทาง 374 กม.
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป 5,939 บาท
รวมระยะทาง 2,103 กิโลเมตร
ทริปตามหาลมหนาว 7 อุทยานแห่งชาติจังหวัดน่าน ฉลอง 10 ขวบน้ององุ่น (มุ่งบางกอก วันที่ 12)
ค่าอาหารทั้งหมด 85 บาท
ค่าน้ำมัน 175 บาท
ค่าที่พักแคมป์หมาบ้าใจดี (ค่าเช่าเต็นท์เครื่องนอนและอาหารเช้า) 550 บาท
รวม 810 บาท ระยะทาง 374 กม.
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป 5,939 บาท
รวมระยะทาง 2,103 กิโลเมตร