รีวิวข้อมูล 14 วิตามินสำหรับคนอยากผิวขาวใสหรือลดริ้วรอย
ช่วงนี้คนถามเข้ามาค่อนข้างเยอะว่า อยากผิวขาวสวย ผิวใส ลดริ้วรอย กินอะไรเสริมดี
ที่เห็นบ่อยก็มีหลายตัวเหลือเกิน วิตามินซี คอลลาเจน กลูตา สารสกัดเมล็ดองุ่น ฯลฯ จำนวนมาก

แบบนี้จะเชื่อยังไงดีละ เพราะทุกตัวสรรพคุณก็เหมือนๆกันหมด 
เลือกซื้อทุกตัวก็คงจะไม่ไหว คงจะกินทีเป็นกำมือแน่นอน แถมกินเยอะก็บ่นกันมาอีกว่ากลัว ตับไตพังกัน  

โดยส่วนตัวก็สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะก็ทานวิตามินบางตัวอยู่เป็นประจำ
เคยคิดอยากมารีวิวเขียนบทความเรื่องนี้มานานแล้วแต่ติดงาน เลยไม่มีเวลาเท่าไร

ช่วงนี้พอมีเวลาเลยไปนั่งๆอ่านหาข้อมูลมาดู เป็นมหากาพย์รีวิวข้อมูลวิจัยของอาหารเสริมวิตามินสำหรับผิว ซึ่งจริงๆถ้าไปเปิดดูจะพบว่ามีเยอะกว่าที่เห็นมากเป็นร้อยๆชนิดเลยก็ว่าได้ครับ แต่วันนี้จะเลือกเฉพาะที่หาซื้อได้ง่ายหรือคนแนะนำให้ใช้กันบ่อยๆดีกว่าครับ 
ส่วนใครไม่อยากอ่านแบบละเอียดข้ามไปดูด้านล่างเลยได้ครับที่คอมเม้นท์แรก

แล้วมารีวิวแบบนี้จะเชื่อได้ยังไงกัน หรือเราควรเลือกเชื่ออย่างไรดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ต้องบอกเลยว่า ก็ควรเชื่อจากงานวิจัยที่เค้าได้ทดสอบทดลองกันมาแล้ว ว่าเห็นผลอย่างไรกันบ้าง
ที่สำคัญงานวิจัยต้องน่าเชื่อถือด้วยนะ ไม่ใช่เอาคุณเอ คุณบี มาสองคน ใช้เปรียบเทียบกันแค่นี้มันไม่ได้ ต้องเป็นวิจัยที่ค่อนข้างมีคุณภาพ ต้องลองกับคนหลายๆคนแล้วมันเห็นผลจริงๆว่าการทานวิตามินพวกนี้มันได้ผลนะ แบบนี้สิถึงน่าเชื่อ อย่างไรก็ตามงานวิจัยกลุ่มความสวยความงามก็อาจจะไม่ได้มีความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์เท่ากับงานวิจัยของยารักษาโรค แต่อย่างน้อยก็มีข้อมูลให้เรามาพิจารณาเลือกใช้กันได้นะครับ ดังนั้นบทความนี้ก็ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองนะครับ ว่าจะเชื่อหรือไม่

**บทความนี้ไม่มียี่ห้อหรือแบรนด์แนะนำนะครับ บอกแค่สารสกัดที่อยู่ในวิตามินแต่ละชนิดว่ากินแล้วให้ผลอย่างไร 
ในส่วนวิธีการเลือกดูแบรนด์ว่ายี่ห้อไหนดี หรือตัวผมเองเลือกทานอย่างไร
ส่วนตัวก็มีเทคนิคการเลือกอยู่ครับ แต่ค่อนข้างละเอียดเลยไม่ได้ลงในบทความนี้นะครับ

มาปูความรู้กันนิดนึงก่อนจะเข้าเรื่อง เราจะได้รู้ว่าวิตามินแต่ละตัวว่ามันออกฤทธิ์ตรงจุด น่าเชื่อถือตามหลักการหรือเปล่า 
หลักๆแล้วถ้าเรื่องผิวส่วนตัวก็คงแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ ต้องการให้ผิวขาวกระจ่างใส และ กลุ่มลดริ้วรอยเหี่ยวย่น

ผิวเหี่ยวย่นเกิดจากอะไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีหลายทฤษฎีที่บอกถึงต้นกำเนิดของความแก่ แต่ที่มีข้อมูลมากที่สุดในปัจจุบัน คือเรื่อง อนุมูลอิสระ หรือ free radicals ซึ่งตัวอนุมูลอิสระนี้เองเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายและเซลล์ต่างๆเกิดการเสื่อมสภาพและแก่ลง 
 
ในช่วงหนุ่มสาวผลของอนุมูลอิสระต่อร่างกายค่อนข้างจะน้อยเพราะร่างกายยังมี กระบวนการซ่อมและทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น, ได้รับสารเคมี อาหารบางชนิด (ปิ้ง ทอด ย่าง) แสงแดด การพักผ่อนไม่เพียงพอ แอลกอฮอล์ น้ำตาล คาเฟอีน ความเครียด รังสี การสะสมของอนุมูลอิสระจะเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าการซ่อมแซมมาก ร่างกายจึงกําจัดได้ไม่ทัน 
 
อนุมูลอิสระนี้เองจะทําลายคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นสารสําคัญใน ผิวหนังของเราที่ทําให้ผิวคงความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และตึงตัว การสะสมของอนุมูลอิสระ จะทําให้ผิวมีรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอย นอกจากนี้ อนุมูลอิสระนั้นจะรบกวนเซลล์ทําให้เซลล์ผิดปกติจนอาจกลายเป็นมะเร็งได้ 
ผิวดำคล้ำเกิดจากอะไร 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก็เกิดจากการที่ผิวหนังเร่งสร้างเม็ดสี (melanin) มาปกป้องอันตรายผิวจากแสงแดด ที่สำคัญคือแสงอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดด สังเกตง่ายๆเลยเวลาเราโดนแดดนานๆ หรืออาบแดด แสงแดดจะไปกระตุ้นเอนไซม์ tyrosinase ทำให้ผิวหนังผลิตเม็ดสีออกมามากขึ้น ผิวเราจึงมีสีดำคล้ำขึ้นนั่นเอง ทุกคนคงจะเคยเจอกันอยู่แล้วนะครับ แล้วทำไมมนุษย์เรามันต้องสร้างเม็ดสีมาปกป้องผิวเรากันล่ะครับ มันก็เพราะ UV จะไปทำให้ผิวเราเกิดอนุมูลอิสระขึ้น ทำให้ไปทำลาย DNA ของเรา เมื่อ DNA ของเราเพี้ยนไป มันก็เกิดการพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้อีกนั่นเอง โดยสรุปก็คือผิวหนังเราสร้างเม็ดสีมาเพื่อป้องกันรังสีที่เป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดมะเร็งนั่นเองครับ แบบนี้ก็ปล่อยให้ผิวดำเลยก็ดีกว่าสิจะได้ไม่เป็นมะเร็ง ถูกต้องเลยครับ เพราะเค้าศึกษากันมาแล้วว่าคนผิวขาวมีโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังได้มากกว่าคนผิวสีครับ
แล้วเราจะป้องกันผิวเหี่ยวย่นได้ยังไง 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้ จึงลดความชราและช่วยปรับสมดุลให้แก่ร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ ปรับสมดุลระบบต่างๆในร่างกายให้ทำงานดีขึ้น การซ่อมแซม DNA ได้ดีมากขึ้นก็ลดโอกาสการเกิดมะเร็ง (ตามหลักการนะครับ) โดยอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระก็มีอยู่มากเลยครับ เช่น ผัก ธัญพืช ปลา แล้วก็ผลไม้ตระกูลเบอรี่ครับ ไม่จำเป็นต้องทานวิตามินเสริมเสมอไปนะครับ
ถ้าอยากผิวขาวต้องทำอย่างไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ต้องไปยับยั้งการสร้างเมลานิน โดยมีหลายทาง ที่นิยมมากที่สุดก็คือไปหาสารที่ใช้ยับยั้ง tyrosinase enzyme เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีทำให้ผิวดูขาวขึ้นนั่นเอง เพราะการยับยั้ง tyrosinase ค่อนข้างปลอดภัย ไม่ค่อยส่งผลข้างเคียงต่อระบบอื่นๆในร่างกายครับ

ใครสนใจวิตามินอื่นๆนอกจากในนี้ลองไปอ่านในหนังสือ ebook ได้ครับ
เดียวมาแจกฟรีให้ขอหลังไมค์ได้ครับ  กำลังเขียนและปรับปรุงให้เรื่อยๆ

กระทู้อื่นๆ
3 ข้อข้องใจเกี่ยวกับแคลเซียมและกระดูก กินแล้วดีหรือไม่?
https://pantip.com/topic/40431896
5 เทคนิคการเลือกซื้อคอลลาเจนที่คุณต้องรู้ 
https://pantip.com/topic/40439113
 

By DR.Boy SMED

References
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.jstage.jst.go.jp/article/ras/7/0/7_41/_pdf/-char/en
https://www.cdc.gov/cancer/skin/basic_info/risk_factors.htm
https://www.webmd.com/food-recipes/features/10-super-foods#3
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/30133125/
https://bit.ly/3aprc72
https://bit.ly/2Kl2bPP
https://mayocl.in/2J0iUHx
https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/14756366.2018.1545767
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5946307/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6010116/
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/29895343/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6098779/
https://www.tandfonline.com/doi/abs/10.1271/bbb.80421
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5579659
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/31880030/
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/27537554/
https://onlinelibrary.wiley.com/doi/abs/10.1002/ptr.1537
https://www.researchgate.net/publication/14117527_The_potential_role_of_lycopene_for_human_health
https://www.researchgate.net/publication/5441731_Cutaneous_concentration_of_lycopene_correlates_significantly_with_the_roughness_of_the_skin
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6561714/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5413479/
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/27088927/
https://www.naturalmedicinejournal.com/journal/2012-02/astaxanthin-review-literature
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5946307/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3583886/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5522662/
https://journals.sagepub.com/doi/full/10.1177/2156587217743640
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5807419/
https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/1541-4337.12539
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6723188
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2756298/
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/30698882/
https://journals.sagepub.com/doi/pdf/10.1177/147323000503300301
https://www.mdpi.com/2076-3921/9/10/1011/pdf
https://www.dermatologytimes.com/view/anti-aging-effects-niacinamide
https://journals.sagepub.com/doi/pdf/10.1080/10915810500434183
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4976416/
https://lpi.oregonstate.edu/mic/health-disease/skin-health/vitamin-E
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/18492193/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6029968/
https://onlinelibrary.wiley.com/doi/abs/10.1111/j.1467-2494.2005.00274.x