คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
https://pione.co.th/ipl-solutions/isotretinoin-for-acne/
ผลข้างเคียงของการรับประทานยารักษาสิวกลุ่มนี้ ได้แก่
– พบว่าผู้ป่วยที่กินยารักษาสิวอย่างต่อเนื่อง มีอาการผิวแห้ง ปากแห้ง และตาแห้ง ซึ่งพบได้ในผู้ป่วยเกือบทุกราย โดยเฉพาะถ้าให้ยาในปริมาณสูง สำหรับผิวและริมฝีปากผู้ป่วยควรทาครีม หรือสีผึ้งวาสลีน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและบรรเทาอาการ ในผู้ป่วยที่สวมใส่เลนส์สัมผัส (Contact Lenses) ควรงดสวมชั่วคราวในระหว่างการใช้ยานี้ หรือหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ
– ผู้ป่วยประมาณร้อยละ 15 พบว่ามีอาการปวดเมื่อยบริเวณหลังและกล้ามเนื้อ
– ยาชนิดนี้ สามารถก่อให้เกิดความพิการอย่างรุนแรงต่อทารกในครรภ์ได้ เมื่อให้ยานี้ในผู้ป่วยสตรีมีครรภ์หรือตั้งครรภ์ในระหว่างที่รับยา แพทย์จึงต้องเน้นย้ำให้ผู้ป่วยคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัดในช่วงที่รับการรักษา และภายหลังหยุดยาไปแล้วอย่างน้อย 1 เดือนจึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้
– ผลข้างเคียงในระบบทางเดินอาหาร กล่าวคือ อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร และบางรายมีตับอักเสบได้ แต่พบไม่บ่อย
– ความผิดปกติของระดับไขมันในเลือด ผู้ป่วยร้อยละ 25-45 พบว่ามีปริมาณไขมันไตรกลีเซอร์ใรด์ (Triglyceride) สูงขึ้น และผู้ป่วยร้อยละ 31 อาจมีปริมาณไขมันคอเลสเตอรอล (Cholesterol) ในเลือดเพิ่มขึ้น
– อารมณ์แปรปรวนและซึมเศร้า แต่พบได้ไม่บ่อย
– ความผิดปกติของกระดูกในระยะยาว ซึ่งพบได้น้อยมาก
– แผ่นกระดูกปิดก่อนกำหนด มีผลให้กระดูกจะสั้นกว่าปกติ จึงไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
ข้อแนะนำเพิ่มเติมก่อนใช้ยากลุ่มนี้: เราควรเจาะเลือดเพื่อตรวจระดับไขมันในเลือด ตรวจนับเม็ดเลือด (Complete Blood Count) และตรวจการทำงานของตับ (Liver Function Test) ไว้ก่อน และตรวจติดตามผลอีกครั้งหลังใช้ยาไปแล้ว 4 และ 8 สัปดาห์ เพื่อประเมินระดับไขมันที่สูงขึ้น และความผิดปกติของตับที่อาจเกิดขึ้นได้
ความหมาย ข้อ 4 คือ ถ้าผู้หญิงกิน ห้ามตั้งครรภ์ เพราะส่งผลต่อเด็ก
ผลข้างเคียงของการรับประทานยารักษาสิวกลุ่มนี้ ได้แก่
– พบว่าผู้ป่วยที่กินยารักษาสิวอย่างต่อเนื่อง มีอาการผิวแห้ง ปากแห้ง และตาแห้ง ซึ่งพบได้ในผู้ป่วยเกือบทุกราย โดยเฉพาะถ้าให้ยาในปริมาณสูง สำหรับผิวและริมฝีปากผู้ป่วยควรทาครีม หรือสีผึ้งวาสลีน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและบรรเทาอาการ ในผู้ป่วยที่สวมใส่เลนส์สัมผัส (Contact Lenses) ควรงดสวมชั่วคราวในระหว่างการใช้ยานี้ หรือหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ
– ผู้ป่วยประมาณร้อยละ 15 พบว่ามีอาการปวดเมื่อยบริเวณหลังและกล้ามเนื้อ
– ยาชนิดนี้ สามารถก่อให้เกิดความพิการอย่างรุนแรงต่อทารกในครรภ์ได้ เมื่อให้ยานี้ในผู้ป่วยสตรีมีครรภ์หรือตั้งครรภ์ในระหว่างที่รับยา แพทย์จึงต้องเน้นย้ำให้ผู้ป่วยคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัดในช่วงที่รับการรักษา และภายหลังหยุดยาไปแล้วอย่างน้อย 1 เดือนจึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้
– ผลข้างเคียงในระบบทางเดินอาหาร กล่าวคือ อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร และบางรายมีตับอักเสบได้ แต่พบไม่บ่อย
– ความผิดปกติของระดับไขมันในเลือด ผู้ป่วยร้อยละ 25-45 พบว่ามีปริมาณไขมันไตรกลีเซอร์ใรด์ (Triglyceride) สูงขึ้น และผู้ป่วยร้อยละ 31 อาจมีปริมาณไขมันคอเลสเตอรอล (Cholesterol) ในเลือดเพิ่มขึ้น
– อารมณ์แปรปรวนและซึมเศร้า แต่พบได้ไม่บ่อย
– ความผิดปกติของกระดูกในระยะยาว ซึ่งพบได้น้อยมาก
– แผ่นกระดูกปิดก่อนกำหนด มีผลให้กระดูกจะสั้นกว่าปกติ จึงไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
ข้อแนะนำเพิ่มเติมก่อนใช้ยากลุ่มนี้: เราควรเจาะเลือดเพื่อตรวจระดับไขมันในเลือด ตรวจนับเม็ดเลือด (Complete Blood Count) และตรวจการทำงานของตับ (Liver Function Test) ไว้ก่อน และตรวจติดตามผลอีกครั้งหลังใช้ยาไปแล้ว 4 และ 8 สัปดาห์ เพื่อประเมินระดับไขมันที่สูงขึ้น และความผิดปกติของตับที่อาจเกิดขึ้นได้
ความหมาย ข้อ 4 คือ ถ้าผู้หญิงกิน ห้ามตั้งครรภ์ เพราะส่งผลต่อเด็ก
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบความหมายของข้อความในใบนี้
ผมคิดว่า มันน่าจะหมายถึง สตรีที่คุมกำเนิดอยู่ ควรรับประทานยาตัวนี้อย่างระมัดระวัง (อาจจะหมายถึงยาลดสิวบางชนิด อาจลดประสิทธิภาพของยาคุม) ครับ
แต่แฟนผมตีความว่า "สตรีต้องทำการคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัด" ถ้าหากรับประทานยา(ลดสิว)ตัวนี้อยู่