ตามที่เราเห็นๆกัน ข้อเสียของรถไฟฟ้า (บ้านเรา) ค่าโดยสารค่อนข้างแพง ใช้เวลาการก่อสร้างนาน บางที่รางเสร็จแล้วกว่าจะ ลงระบบอะไรต่างๆหรือรอรถไฟฟ้ามาลงใช้เวลา รอเพิ่มไปอีก
แล้วทำไมเราถึงไม่สร้างทางลอยฟ้า 2 เลนน์ ที่เป็นพื้นถนนเพื่อให้เฉพาะรถสาธารณะใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรถเครื่องยนต์หรือรถพลังงานไฟฟ้าในอนาคตก็ได้ และเป็นระบบปิดนะครับ ไม่ใช่แบบทางด่วน ที่รถขึ้นลงได้ ก็น่าจะสร้างได้รวดเร็วและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่องงานระบบด้วย โดยผมคิดแค่คร่าวๆว่า ขนาดรถเมล์ ต้องเจอปัญหารถติดทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำรอบไม่ได้เยอะ ยังเก็บราคาที่ 12-25 บาท (ข้อมูลปี 2563) ถ้าเราตัดปัญหาด้านรถติด ผู้ประกอบการก็น่าจะทำราคาได้ ถูกกว่าหรือเท่าเดิมรึเปล่าครับ
ผมลองมาคิดข้อดีข้อเสียของระบบทางยกระดับสำหรับรถสาธารณะ ได้ดังนี้
-----ข้อดี-----
-สร้างไว
-ประหยัดค่าก่อสร้าง ค่าวางระบบ ค่าตัวเครื่องที่สามารถผลิตได้เอง หรือไม่ก็นำเข้าก็ยังน่าจะถูกกว่า
-พนักงานขับและเก็บค่าโดยสาร (ซึ่งอาจจะตัดออกก็ได้) ค่าแรงน่าจะถูกกว่า และยังไงแล้วรถไฟฟ้าตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นแบบระบบไร้คนขับอยู่แล้ว (ยกเว้นสายสีทอง)
-ค่าบำรุงรักษาน่าจะถูกกว่า
-ถ้าเราคิดล่วงหน้าไว้ เราสามารถสร้างทางให้อำนวยกับการระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ไว้ได้เลย ถึงวันนั้นในอนาคตเราสามารถอัพเกรดระบบเพิ่มเติมได้ ซึ่งก็จะตัดเรื่องของค่าจ้างพนักงานขับรถลงไปอีก
----ข้อเสีย----
-รองรับปริมาณคนได้น้อย ซึ่งหากจะรองรับได้มาก ต้องเพิ่มเที่ยว หรือหาก เพิ่มขนาดรถให้เทียบเท่าก็คงยากเพราะอาจะต้องใช้ถึง 5-7 คันถึงเทียบเท่า 1 ขบวน ซึ่งปัจจัยมาจากเป็นเส้นทางสายหลักในปัจจุบัน สายรถไฟฟ้าไม่ได้ครอบคลุมทุกที่ ถ้าในอนาคตเราสร้างทางรถเมล์ยกรถดับให้ครอบคลุม ปัญหาผู้ใช้งานล้นรถโดยสารอาจจะน้อยลงเพราะได้เฉลี่ยผู้โดยสารไปสายอื่นๆร่วมด้วย แต่ในพื้นที่ใจกลาง คนโดยสารก็ยังเยอะอยู่ดี
-ใช้อารมคนขับควบคุมความความเร็ว ซึ่งข้อนี้ถูกหักล้างโดยปัจจุบัน รถไฟฟ้าในไทยยกเว้นสายสีทอง ก็ไม่ใช่ระบบไร้คนขับ และก็ไมสามารถควบคุมเวลาตามตารางได้อย่างเที่ยงตรง ซึ่งในระยะแรกหากเราพยายามความคุมความถี่รถ ให้ถี่ขึ้น ผู้ใช้บริการก็น่าจะมีความพึ่งพอใจ(ในเรื่องเวลาการรอ)เทียบเท่ารถไฟฟ้านะครับ
-ใช้แรงงานเยอะขึ้น เพราะความเป็นระบบน้อยกว่ารถไฟฟ้า ซึ่งหากได้รับการบริการเทียบเท่าก็อาจจะต้องใช้คนที่มากกว่า
สรุปสุดท้าย ผมมองว่าทำไมรถไฟฟ้าซึ่งมีความเป็นระบบมากกว่า เราก็น่าจะประหยัดต้นทุนด้านบุคลากร ค่าจ้างได้มากกว่า และรถไฟฟ้ารองรับคนต่อเที่ยวได้มากกว่า ทำไมมันถึงได้แพงกว่ารถเมล์ปรับอากาศทั่วไปจังครับ ความเป็นระบบถ้ามันมีแล้วต้นทุนดำเนินการมันสูงกว่าใช้มนุษย์ ผมก็คิดแบบย้อนยุคให้มันกลับมาสู่เบสิคก็ได้
ทำไมเราไม่สร้างทางลอยฟ้าที่มีแต่รถเมล์ ทดแทนรถไฟฟ้า ??
แล้วทำไมเราถึงไม่สร้างทางลอยฟ้า 2 เลนน์ ที่เป็นพื้นถนนเพื่อให้เฉพาะรถสาธารณะใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรถเครื่องยนต์หรือรถพลังงานไฟฟ้าในอนาคตก็ได้ และเป็นระบบปิดนะครับ ไม่ใช่แบบทางด่วน ที่รถขึ้นลงได้ ก็น่าจะสร้างได้รวดเร็วและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่องงานระบบด้วย โดยผมคิดแค่คร่าวๆว่า ขนาดรถเมล์ ต้องเจอปัญหารถติดทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำรอบไม่ได้เยอะ ยังเก็บราคาที่ 12-25 บาท (ข้อมูลปี 2563) ถ้าเราตัดปัญหาด้านรถติด ผู้ประกอบการก็น่าจะทำราคาได้ ถูกกว่าหรือเท่าเดิมรึเปล่าครับ
ผมลองมาคิดข้อดีข้อเสียของระบบทางยกระดับสำหรับรถสาธารณะ ได้ดังนี้
-----ข้อดี-----
-สร้างไว
-ประหยัดค่าก่อสร้าง ค่าวางระบบ ค่าตัวเครื่องที่สามารถผลิตได้เอง หรือไม่ก็นำเข้าก็ยังน่าจะถูกกว่า
-พนักงานขับและเก็บค่าโดยสาร (ซึ่งอาจจะตัดออกก็ได้) ค่าแรงน่าจะถูกกว่า และยังไงแล้วรถไฟฟ้าตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นแบบระบบไร้คนขับอยู่แล้ว (ยกเว้นสายสีทอง)
-ค่าบำรุงรักษาน่าจะถูกกว่า
-ถ้าเราคิดล่วงหน้าไว้ เราสามารถสร้างทางให้อำนวยกับการระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ไว้ได้เลย ถึงวันนั้นในอนาคตเราสามารถอัพเกรดระบบเพิ่มเติมได้ ซึ่งก็จะตัดเรื่องของค่าจ้างพนักงานขับรถลงไปอีก
----ข้อเสีย----
-รองรับปริมาณคนได้น้อย ซึ่งหากจะรองรับได้มาก ต้องเพิ่มเที่ยว หรือหาก เพิ่มขนาดรถให้เทียบเท่าก็คงยากเพราะอาจะต้องใช้ถึง 5-7 คันถึงเทียบเท่า 1 ขบวน ซึ่งปัจจัยมาจากเป็นเส้นทางสายหลักในปัจจุบัน สายรถไฟฟ้าไม่ได้ครอบคลุมทุกที่ ถ้าในอนาคตเราสร้างทางรถเมล์ยกรถดับให้ครอบคลุม ปัญหาผู้ใช้งานล้นรถโดยสารอาจจะน้อยลงเพราะได้เฉลี่ยผู้โดยสารไปสายอื่นๆร่วมด้วย แต่ในพื้นที่ใจกลาง คนโดยสารก็ยังเยอะอยู่ดี
-ใช้อารมคนขับควบคุมความความเร็ว ซึ่งข้อนี้ถูกหักล้างโดยปัจจุบัน รถไฟฟ้าในไทยยกเว้นสายสีทอง ก็ไม่ใช่ระบบไร้คนขับ และก็ไมสามารถควบคุมเวลาตามตารางได้อย่างเที่ยงตรง ซึ่งในระยะแรกหากเราพยายามความคุมความถี่รถ ให้ถี่ขึ้น ผู้ใช้บริการก็น่าจะมีความพึ่งพอใจ(ในเรื่องเวลาการรอ)เทียบเท่ารถไฟฟ้านะครับ
-ใช้แรงงานเยอะขึ้น เพราะความเป็นระบบน้อยกว่ารถไฟฟ้า ซึ่งหากได้รับการบริการเทียบเท่าก็อาจจะต้องใช้คนที่มากกว่า
สรุปสุดท้าย ผมมองว่าทำไมรถไฟฟ้าซึ่งมีความเป็นระบบมากกว่า เราก็น่าจะประหยัดต้นทุนด้านบุคลากร ค่าจ้างได้มากกว่า และรถไฟฟ้ารองรับคนต่อเที่ยวได้มากกว่า ทำไมมันถึงได้แพงกว่ารถเมล์ปรับอากาศทั่วไปจังครับ ความเป็นระบบถ้ามันมีแล้วต้นทุนดำเนินการมันสูงกว่าใช้มนุษย์ ผมก็คิดแบบย้อนยุคให้มันกลับมาสู่เบสิคก็ได้