ได้รับเชิญทางโทรศัพท์ ให้เข้ารับการตรวจวินิจฉัยโรคและความสมบูรณ์ของร่างกาย จากการตรวจเลือด
ขั้นตอนแรก เราจะถูกพาเข้าห้องเจาะเลือด พนักงานจะเจาะเลือดจากปลายนิ้วหนึ่งหยดไปส่องกล้องให้เราดู ก็พบว่ามีปัญหาเม็ดเลือดแดงไม่สมบูรณ์ และพบสารโลหะหนักในเลือด พูดคุยสักพักมีการส่งต่อให้พนักงานอีกคน
ขั้นตอนที่สองพนักงานพาไปนั่งในโซนพูดคุย พนักงานอธิบายอีกรอบถึงปัญหาหรือโรคที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่สมบูรณ์ของเลือดเรา ex. ความดัน โรคหัวใจ มะเร็ง และพยายามเน้นถึงการป้องกัน ดีกว่ารักษาในภายหลัง
เราใช้เวลาพูดคุยกันนานพอสมควร เพราะเราก็ค่อนข้างสนใจวิธีการที่ทำให้ร่างกายเรากลับมาแข็งแรง
ระหว่างพูดคุย เราวนถามบ่อยครั้งถึงค่ารักษา แต่พนักงานยังไม่บอก cost ที่แท้จริง
จนกระทั่ง ตอนจบเราบอกเราสนใจ พนักงานถึงขอดูบัตรเครดิตเรา
แว้บแรกที่ตกใจคือพนักงานขอดูบัตรเครดิตเรา เรายื่นให้ดูแล้วเค้าก็หยิบบัตรเราไปเลย ไม่ขออนุญาต เพื่อไปเช็คอะไรสักอย่าง
แว้บที่สอง พนักงานกลับมาพร้อมบอกบัตรเรามีโปร 0% 10 เดือน แต่ค่ารักษาก็เกือบสองแสน
แว้บที่สาม ที่หนักสุดและเสียความรู้สึกที่สุดในชีวิต เราบอกปฏิเสธ เพราะเราไม่สะดวกจ่ายเงินจำนวนมาก ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้จริงๆ
พนักงานคนนี้ทำกิริยาที่ไม่น่ารักมาก ทำชักสีหน้าแล้วถามเรากลับว่า หลอกเค้าทำไม ไหนบอกสนใจ คือเราตอบเค้ากลับดีๆนะว่าพี่สนใจแต่ไม่สะดวกจ่ายจริงๆ แล้วพนักงานคนนั้นก็ทำกิริยาไม่ดีอีกหลายอย่าง ทั้งชักสีหน้าและน้ำเสียงระหว่างที่เราทำแบบสอบถามให้เค้าก่อนกลับ ทั้งนี้เราได้บอกขอโทษเค้าไปที่ทำให้เสียเวลา แต่เหมือนขอโทษกับกำแพง ไร้การน้อมรับคำขอโทษใดๆจากพนักงาน
จนสุดท้าย เรากำลังเดินออกจากร้าน ได้ยินพนักงานคนนั้นพูดลับหลังให้เราได้ยินว่า "นิสัยไม่ดี" เราโกรธมาก แต่ก็ไม่รู้จะตอบโต้ยังไง 😔
เราขอจบการแชร์ประสบการณ์แย่ๆ แค่นี้ค่ะ แค่หวังให้การบริการทุกที่ ร้านหรือแพคเกจความงามหรือการแพทย์ทุกแห่ง อย่าทำแบบนี้กับลูกค้านะคะ แทนที่ในอนาคตลูกค้าจะกลับไปใช้บริการเมื่อถึงเวลาเหมาะสม กลายเป็นลูกค้ามองแบรนด์คุณแย่ไปเลย
เสียความรู้สึกกับคลินิคฟื้นฟูสุขภาพแห่งหนึ่ง
ขั้นตอนแรก เราจะถูกพาเข้าห้องเจาะเลือด พนักงานจะเจาะเลือดจากปลายนิ้วหนึ่งหยดไปส่องกล้องให้เราดู ก็พบว่ามีปัญหาเม็ดเลือดแดงไม่สมบูรณ์ และพบสารโลหะหนักในเลือด พูดคุยสักพักมีการส่งต่อให้พนักงานอีกคน
ขั้นตอนที่สองพนักงานพาไปนั่งในโซนพูดคุย พนักงานอธิบายอีกรอบถึงปัญหาหรือโรคที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่สมบูรณ์ของเลือดเรา ex. ความดัน โรคหัวใจ มะเร็ง และพยายามเน้นถึงการป้องกัน ดีกว่ารักษาในภายหลัง
เราใช้เวลาพูดคุยกันนานพอสมควร เพราะเราก็ค่อนข้างสนใจวิธีการที่ทำให้ร่างกายเรากลับมาแข็งแรง
ระหว่างพูดคุย เราวนถามบ่อยครั้งถึงค่ารักษา แต่พนักงานยังไม่บอก cost ที่แท้จริง
จนกระทั่ง ตอนจบเราบอกเราสนใจ พนักงานถึงขอดูบัตรเครดิตเรา
แว้บแรกที่ตกใจคือพนักงานขอดูบัตรเครดิตเรา เรายื่นให้ดูแล้วเค้าก็หยิบบัตรเราไปเลย ไม่ขออนุญาต เพื่อไปเช็คอะไรสักอย่าง
แว้บที่สอง พนักงานกลับมาพร้อมบอกบัตรเรามีโปร 0% 10 เดือน แต่ค่ารักษาก็เกือบสองแสน
แว้บที่สาม ที่หนักสุดและเสียความรู้สึกที่สุดในชีวิต เราบอกปฏิเสธ เพราะเราไม่สะดวกจ่ายเงินจำนวนมาก ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้จริงๆ
พนักงานคนนี้ทำกิริยาที่ไม่น่ารักมาก ทำชักสีหน้าแล้วถามเรากลับว่า หลอกเค้าทำไม ไหนบอกสนใจ คือเราตอบเค้ากลับดีๆนะว่าพี่สนใจแต่ไม่สะดวกจ่ายจริงๆ แล้วพนักงานคนนั้นก็ทำกิริยาไม่ดีอีกหลายอย่าง ทั้งชักสีหน้าและน้ำเสียงระหว่างที่เราทำแบบสอบถามให้เค้าก่อนกลับ ทั้งนี้เราได้บอกขอโทษเค้าไปที่ทำให้เสียเวลา แต่เหมือนขอโทษกับกำแพง ไร้การน้อมรับคำขอโทษใดๆจากพนักงาน
จนสุดท้าย เรากำลังเดินออกจากร้าน ได้ยินพนักงานคนนั้นพูดลับหลังให้เราได้ยินว่า "นิสัยไม่ดี" เราโกรธมาก แต่ก็ไม่รู้จะตอบโต้ยังไง 😔
เราขอจบการแชร์ประสบการณ์แย่ๆ แค่นี้ค่ะ แค่หวังให้การบริการทุกที่ ร้านหรือแพคเกจความงามหรือการแพทย์ทุกแห่ง อย่าทำแบบนี้กับลูกค้านะคะ แทนที่ในอนาคตลูกค้าจะกลับไปใช้บริการเมื่อถึงเวลาเหมาะสม กลายเป็นลูกค้ามองแบรนด์คุณแย่ไปเลย