นกกระจาบ Diuca-finch สร้างรังบนธารน้ำแข็ง

กระทู้สนทนา

.
1.
.

.
© BBC
.

.

บนเทือกเขาแอนดิส
ท่ามกลางธารน้ำแข็งที่เยือกแข็ง
ซึ่งแทบจะไม่มีอะไรเหลือรอด/มีชีวิตอยู่ได้
แต่มีนกขนสีเทาอมฟ้าตัวเล็กและอวบอ้วน
กลับวางไข่และเลี้ยงดูลูกนกของพวกมัน

พวกมันเป็นนกเพียงชนิดเดียว
ที่นอกเหนือจากนกเพนกวินจักรพรรดิ
ที่รู้จักกันดีถึงการทำรังบนน้ำแข็ง
ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมที่สุด
สำหรับการเลี้ยงดูลูกอ่อน
นกกระจาบ Diuca-finch ปีกขาว
(Diuca speculifera)
อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าบนภูเขาสูง
ในอาร์เจนตินา โบลิเวีย ชิลี และเปรู
นกกระจาบ diuca-finch
เป็นนกตระกูล Emberizidae ขนาดใหญ่
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า
นกนึ้พวกผสมพันธุ์กัน
ในเขต Arctic tundra
และมีเพียงนกกระจาบ diuca finch เท่านั้น
ที่รู้ว่าจะต้องสร้างรัง
บนน้ำแข็งที่เย็นจัดเท่านั้น
.

2.
.

.
นกกระจาบปีกสีขาวทำรังบนน้ำแข็ง © BBC
.

.

พฤติกรรมที่ผิดปกติของนกชนิดนี้
ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2003
โดย Douglas Hardy นักธรณีศาสตร์
University of Massachusetts Amherst
ระหว่างการเดินทางไปยัง
เทือกเขาแอนดิสของเปรู

Douglas Hardy รู้สึกตกใจมาก
เมื่อพบรังนกที่ยังสมบูรณ์หลายรัง
เกาะอยู่บนธารน้ำแข็ง
ที่สูงเกือบ 19,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล
หนึ่งในนั้นมีไข่นกที่ถูกทอดทิ้ง
และเมื่อกลับไปที่ธารน้ำแข็งแต่ละครั้ง
Douglas Hardy ก็เห็นรังมากขึ้น
และสามารถถ่ายภาพรังนกพวกนี้ได้

เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว
Spencer ลูกชายวัย 9 ขวบ
ได้ร่วมมือกับพ่อตัวยการใช้เวลาหลายชั่วโมง
ในการค้นหาภาพถ่ายและระบุสายพันธุ์
ด้วยการช่วยเหลือของหนังสือ
เมื่อพ่อกลับมาจากพื้นที่ทำงานวิจัย
พร้อมขนนกที่พบรอบ ๆ
รังนกกระจาบ diuca-finch
ครอบครัว Hardys ก็ได้รับคำตอบ
ที่เป็นข้อสรุปจากผู้เชี่ยวชาญนกของ Smithsonian Institution
ที่ระบุว่ารังพวกนี้เป็นของ
นกกระจาบ Diuca-finch

ในปี 2008
Douglas Hardy ได้ตีพิมพ์บทความ
เกี่ยวกับการค้นพบใน
Wilson Journal of Ornithology
เอกสารชิ้นนี้ผู้ร่วมเขียนคือ
ลูกชายนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โดย Douglas Hardy ได้เดินทาง
ไปยังเทือกเขาแอนดิสหลายครั้ง
แต่มักจะพบแต่เพียงรังนกที่ถูกทิ้งร้าง

จนกระทั่งในปี 2014
Douglas Hardy ได้ค้นพบ
รังนกที่ยังคงใช้งานอยู่
เป็นครั้งแรกบนธารน้ำแข็ง
รังนกที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่
ในรูปของถ้วยที่ทำจากหญ้ากิ่งไม้และขนนก
และสามารถรับน้ำหนักได้ถึงครึ่งปอนด์
ด้านล่างมีความหนาประมาณ 10 นิ้ว
และนั่นคือ ฉนวนสำหรับไข่ที่วางไว้รอฟัก

ในปี 2016 ทีมงานสารคดีของ BBC
ได้บันทึกภาพถ่ายครั้งแรก
ของนกกระจาบ diuca-finch
ที่ทำรังบนหน้าผาน้ำแข็ง
ใน Quelccaya Ice Cap
บริเวณเทือกเขาแอนดิส ของเปรู
.

3.
.

.
นกกระจาบปีกสีขาวทำรังบนน้ำแข็ง
© Douglas Hardy
.

.

แม้ว่าการฟักไข่และเลี้ยงลูกนก
บนน้ำแข็ง จะเป็นเรื่องผิดปกติ
แต่ก็มีนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด
ที่เจริญเติบโตได้ในอากาศหนาวเย็น
มักจะรู้จักกันในชื่อ chionophiles
(มาจากภาษากรีก
คำว่า chion แปลว่า หิมะ
และ -phile แปลว่า คนรัก)
พวกนกที่พบมากที่สุด
ที่อยู่รอดในแหล่งที่อยู่อาศัยเหล่านี้คือ
นก Passerines หรือ นก songbirds
แต่ก็ยังมีนกชนิดอื่น ๆ เช่น
Golden eagle of the falcon order
และนกอีกาทั่วไป
นกวงศ์อีกาและนกกระลิงเขียด
นกสายพันธุ์ ptarmigan
หลายสายพันธุ์ที่สามารถปรับตัว
ให้เข้ากับความหนาวเย็นได้เป็นอย่างดี

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด
ที่อยู่กับความหนาวเย็น เพื่อความอยู่รอด
เช่น สัตว์มีขนยาว เช่น วัวกระทิง มิงค์
กวาง กวางเรนเดียร์ แพะภูเขา ibex
เลียงผา และ Big Horn Sheep
ซึ่งปกคลุมลำตัวพวกมันด้วยขน
ที่งอกยาวกว่าปกติในช่วงฤดูหนาว
ช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ในการควบคุมอุณหภูมิ
ที่แตกต่างกับช่วงที่อากาศร้อน

สัตว์เหล่านี้นอนบนน้ำแข็งโดยตรง
หรือใช้อากาศเย็นที่ระบายออกจากธารน้ำแข็ง
เพื่อทำให้ลำตัวพวกมันเองเย็นลงกว่าปกติ
แต่ยังมีสัตว์ชนิดอื่น ๆ
ใช้น้ำแข็งในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อความอยู่รอด
เช่น หมี เสือดาวหิมะ และวูฟเวอรีน
ที่เดินทางข้ามธารน้ำแข็งและหิมะ
เพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่น ไม่ให้ศัตรูของพวกมัน
ตื่นตัวและจะได้หลบหนีไป

แต่ด้วยธารน้ำแข็งที่กำลังหดตัวลง
เพราะภาวะโลกร้อน
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จำนวนมาก
ที่อาศัยน้ำแข็งหิมะและอุณหภูมิที่หนาวเย็น
จะเริ่มพบว่าพื้นที่อยู่อาศัยของพวกมันลดลง
และพวกมันบางส่วนอาจถูกคุกคาม
จนสูญพันธุ์ไปได้ในระยะยาว
.

เรียบเรียง/ที่มา

https://bit.ly/2V9mXDU
https://bbc.in/3mj1NPx
https://bit.ly/3mipWWH
https://bit.ly/33pBaRT
https://bit.ly/3q9UdcE
https://bit.ly/36hjLMS
https://bit.ly/3q5ZhP4
https://bit.ly/2Vau7rE
.

.
4.
.

.
5.
.

.
6.
.

.
7.
.

.
8.
.

.
9.
.

.
10.
.

.
11.
.

.
12.
.

.
ลิง Japanese macaques
อยู่ได้ในอุณหภูมิ −15°C
มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมน้อยชนิดมาก
ที่ทนอากาศหนาวเย็นระดับนี้ได้
.

.
13.
.

.
วัว musk ox สืบสายพันธุ์มาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง
เมื่อ 10,000 ปีก่อน เมื่อโลกร้อนขึ้นกว่าเก่า
ธารน้ำแข็งลดลง ทำให้พวกมันต้องอพยพ
ไปหาที่หนาว หรือลดปริมาณขนหนาลง
.

.
14.
.