"กระรอกแดงยูเรเซีย" กระรอกน่ารัก มีขนบนหูที่ชี้ตั้งขึ้น
🐿
#กระรอกแดงยูเรเซีย
(Eurasian red squirrel) หรือมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sciurus vulgaris เป็นสัตว์ฟันแทะในวงศ์กระรอก (Sciuridae) ที่มีเสน่ห์และพบได้ทั่วไปในยูเรเซีย (ทวีปยุโรปและเอเชียเหนือ)
🐿️มีสีขนที่หลากหลาย ตั้งแต่ สีแดงสดใส ไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม สีเทา หรือแม้กระทั่งเกือบดำ โดยสีจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ โดยทั่วไปจะมีสีแดงอมน้ำตาลในฤดูร้อน และอาจมีสีเทามากขึ้นในฤดูหนาว ส่วนท้องจะมีสี ขาวหรือครีม เสมอ
🐿มี หางเป็นพวงฟูใหญ่ เกือบจะยาวเท่าลำตัว ซึ่งช่วยในการทรงตัวและนำทางเมื่อกระโดดตามต้นไม้ รวมถึงช่วยให้ความอบอุ่นในขณะนอนหลับ
🐿มีลักษณะเด่นคือ พู่ขนยาวที่หู (Ear tufts) ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะในฤดูหนาว
🐿ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักประมาณ 250 - 340 กรัม ความยาวลำตัวประมาณ 20 - 25 เซนติเมตร
พบได้ทั่วทั้ง ยุโรป และ เอเชียเหนือ
อาศัยอยู่ในป่าหลายประเภท ทั้งป่าสน ป่าผลัดใบ และป่าผสม รวมถึงพื้นที่สีเขียวในเมือง เช่น สวนสาธารณะและสวน
สร้างรังที่เรียกว่า เดรย์ (Drey) โดยใช้กิ่งไม้และใบไม้เป็นรูปทรงโดม หรืออาจใช้โพรงไม้เก่า ๆ ที่นกหัวขวานเจาะไว้
เป็นสัตว์กินพืชเป็นหลัก อาหารหลักคือ เมล็ดจากต้นไม้ เช่น เมล็ดสน เฮเซลนัท รวมถึงกินเปลือกไม้ เห็ด รา ดอกไม้ รากพืช และบางครั้งก็กินแมลงหรือไข่นก
ในฤดูใบไม้ร่วงจะทำการ ซ่อนเสบียง โดยฝังถั่วและเมล็ดพืชไว้ใต้ดินหรือตามรอยแยกของต้นไม้ ซึ่งบางครั้งการลืมที่ซ่อนก็ช่วยในการแพร่กระจายเมล็ดพันธุ์และฟื้นฟูระบบนิเวศป่า
เป็นสัตว์ที่ ออกหากินในเวลากลางวัน โดยจะกระฉับกระเฉงเป็นพิเศษในช่วงเช้าและช่วงบ่ายแก่ ๆ
ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ สันโดษ ยกเว้นในช่วงฤดูผสมพันธุ์
ไม่จำศีล แต่จะลดกิจกรรมลงในช่วงฤดูหนาวและใช้เสบียงที่สะสมไว้
มักมีฤดูผสมพันธุ์สองครั้งต่อปี คือ ปลายฤดูหนาว (กุมภาพันธ์-มีนาคม) และ ฤดูร้อน (มิถุนายน-กรกฎาคม)
การตั้งท้อง: ใช้เวลาประมาณ 38-39 วัน
ลูกอ่อน: ออกลูกเฉลี่ยครอกละ 3 ตัว ลูกกระรอกจะอยู่ในการดูแลของแม่เพียงลำพัง
The Earth
"กระรอกแดงยูเรเซีย" กระรอกน่ารัก มีขนบนหูที่ชี้ตั้งขึ้น 🐿
🐿
#กระรอกแดงยูเรเซีย
(Eurasian red squirrel) หรือมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sciurus vulgaris เป็นสัตว์ฟันแทะในวงศ์กระรอก (Sciuridae) ที่มีเสน่ห์และพบได้ทั่วไปในยูเรเซีย (ทวีปยุโรปและเอเชียเหนือ)
🐿️มีสีขนที่หลากหลาย ตั้งแต่ สีแดงสดใส ไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม สีเทา หรือแม้กระทั่งเกือบดำ โดยสีจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ โดยทั่วไปจะมีสีแดงอมน้ำตาลในฤดูร้อน และอาจมีสีเทามากขึ้นในฤดูหนาว ส่วนท้องจะมีสี ขาวหรือครีม เสมอ
🐿มี หางเป็นพวงฟูใหญ่ เกือบจะยาวเท่าลำตัว ซึ่งช่วยในการทรงตัวและนำทางเมื่อกระโดดตามต้นไม้ รวมถึงช่วยให้ความอบอุ่นในขณะนอนหลับ
🐿มีลักษณะเด่นคือ พู่ขนยาวที่หู (Ear tufts) ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะในฤดูหนาว
🐿ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักประมาณ 250 - 340 กรัม ความยาวลำตัวประมาณ 20 - 25 เซนติเมตร
พบได้ทั่วทั้ง ยุโรป และ เอเชียเหนือ
อาศัยอยู่ในป่าหลายประเภท ทั้งป่าสน ป่าผลัดใบ และป่าผสม รวมถึงพื้นที่สีเขียวในเมือง เช่น สวนสาธารณะและสวน
สร้างรังที่เรียกว่า เดรย์ (Drey) โดยใช้กิ่งไม้และใบไม้เป็นรูปทรงโดม หรืออาจใช้โพรงไม้เก่า ๆ ที่นกหัวขวานเจาะไว้
เป็นสัตว์กินพืชเป็นหลัก อาหารหลักคือ เมล็ดจากต้นไม้ เช่น เมล็ดสน เฮเซลนัท รวมถึงกินเปลือกไม้ เห็ด รา ดอกไม้ รากพืช และบางครั้งก็กินแมลงหรือไข่นก
ในฤดูใบไม้ร่วงจะทำการ ซ่อนเสบียง โดยฝังถั่วและเมล็ดพืชไว้ใต้ดินหรือตามรอยแยกของต้นไม้ ซึ่งบางครั้งการลืมที่ซ่อนก็ช่วยในการแพร่กระจายเมล็ดพันธุ์และฟื้นฟูระบบนิเวศป่า
เป็นสัตว์ที่ ออกหากินในเวลากลางวัน โดยจะกระฉับกระเฉงเป็นพิเศษในช่วงเช้าและช่วงบ่ายแก่ ๆ
ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ สันโดษ ยกเว้นในช่วงฤดูผสมพันธุ์
ไม่จำศีล แต่จะลดกิจกรรมลงในช่วงฤดูหนาวและใช้เสบียงที่สะสมไว้
มักมีฤดูผสมพันธุ์สองครั้งต่อปี คือ ปลายฤดูหนาว (กุมภาพันธ์-มีนาคม) และ ฤดูร้อน (มิถุนายน-กรกฎาคม)
การตั้งท้อง: ใช้เวลาประมาณ 38-39 วัน
ลูกอ่อน: ออกลูกเฉลี่ยครอกละ 3 ตัว ลูกกระรอกจะอยู่ในการดูแลของแม่เพียงลำพัง
The Earth