[CR] บ้านหลังแรกถึงเวลารีไฟแนนซ์

เราซื้อบ้านร่วมกับแฟนเรามาได้ 3 ปี (ตั้งแต่ปี 2560) ถึงเวลาต้องรีไฟแนนซ์ (ปีนี้ 2563) ขอสารภาพว่าเราเพิ่งเข้ามาในวงการการซื้อบ้าน ตอนนั้นก็ฟังธนาคารพูดไปเข้าใจบ้าง งงบ้าง
ขอเกริ่นก่อนว่าเรากับแฟน ทำงานที่เดียวกัน ตกลงซื้อบ้าน แล้วใช้สิทธิ์พนักงาน ร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ดอกเบี้ยมา 2.90% 3ปี พอขึ้นปีที่ 4 ดอกเบี้ยจะปรับเป็น 5.75% ซึ่งคล้ายๆว่าบังคับต้องรีไฟแนนซ์ หรือ ทำเรื่องขอลดดอกเบี้ย ซึ่งตอนนั้นเราก็หาธนาคารอื่นมาเปรียบเทียบบ้าง แต่ก็รู้สึกว่าดอกเบี้ยที่อื่นสูงกว่า สุดท้ายก็มาจบที่ ธอส.เราทำเรื่องตัดบัญชีเงินเดือนของเรากับแฟน แยกตัดกัน 2 บัญชี เพราะรู้สึกว่าจะได้เป็นความรับผิดชอบของคน 2 คน อันนี้มารู้ทีหลังว่า กลายเป็นดอกเบี้ยซ้ำซ้อน เงินต้นไม่ลงสักที โอ้ยยย เสียเวลามา 3 ปี เราก้ปล่อยให้ธนาคารหักเงินเดือนค่าบ้านไปเรื่อยๆ จนถึงเวลา 3 ปี ดอกเบี้ยปรับเป็น 5.75% อื้อหือออ!! สูงอะไรขนาดนี้ ซึ่งก็รู้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่พอมาปรับจริงๆก็แทบเป็นลม เราไปขอปรับลดดอกเบี้ย ก็ได้แค่ 3.25% ซึ่งก็ยังคงสูงอยู่

ระหว่างนี้ มีสถานการณ์โควิท ที่มีมาตรการที่ พักชำระเงินต้น 3 เดือน และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย เราก็เข้าร่วมมาตรการทันที เพราะเห็นว่าช่วงลดค่าใช้จ่ายได้ รู้ซึ้งเลยถึงตอนต้องย้ายธนาคาร เราต้องโปะเงินทั้งหมดก่อนถึงจะย้ายธนาคารได้ กลายเป็นเงินก้อนที่ต้องจ่าย มาตรการนี้เค้าช่วยประชาชนจริงๆใช่ไหมคะ??
ขั้นตอนการหาธนาคารใหม่ เพื่อพึ่งพาเรื่องการผ่อนบ้านของเราต่อไป ขั้นแรก search google ค่ะ ลองโทรไปแต่ละที่ แต่ก็รู้สึกว่าข้อมูลไม่กระจ่าง หรือเราเข้าใจยากอันนี้ไม่แน่ใจ เราเลยลองไปที่ห้างแห่งหนึ่งแล้วค่อยๆเดินไปแผนกสินเชื่อของแต่ละธนาคาร ได้การบริการแตกต่างกันไป และเราก็ตัดสินใจได้คือธนาคารscb เราว่าการที่จะตัดสินใจเลือกสินเชื่อกับธนาคารไหน พนักงานสินเชื่อเป็นปัจจัยหลักเลย ให้ข้อมูลครบถ้วนดีไหม เรื่องดอกเบี้ยก็สำคัญ 
ขอแนะนำเลย พนักงานสินเชื่อธนาคารscbสาขาบิ๊กซีพระราม 2 ดูแลเอาใจใส่ดีมาก เราได้ดอกเบี้ยมา 2.75% ลดลงมาอีก เค้าบอกว่าเป็นดอกเบี้ยเฉพาะ ลูกค้าที่ใช้ การหัก payroll ธนาคารนี้ พนักงานก็อธิบายขั้นตอนอย่างละเอียด เราถามแล้วถามอีก เพราะขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก สำหรับเรานะ

1. เราไปแจ้งยกเลิก ธอส.กับสาขาริเวอร์ไซต์พลาซ่า เค้าบอกจะส่งเรื่องไปสำนักงานใหญ่ให้ ใช้เวลา อย่างน้อย 15 วัน ฟังไม่ผิดค่ะ อันนี้แค่ส่งเรื่องนะ ระหว่างนั้นเราก็ว่าธนาคารเงียบๆไป เลยลองพยายามโทรไป เพื่อขอทราบความคืบหน้า กว่าจะต่อไปติดพนักงานนั้น อย่างน้อย 30 นาที กับการรอสาย
คำตอบที่ได้จากพนักงานคือ ต้องรอพนักงานติดต่อกลับคะ เพื่อให้ไปทำเรื่องต่อที่ทำนักงานใหญ่ คือเราต้องเดินทางไปสำนักงานใหญ่ อันนี้เรารู้สึกแอบหงุดหงิดใจเพราะต้องไปสำนักงานใหญ่ที่พระราม 9 มันไกลบ้านเรามากกกก 
2.ทำเรื่องมา ธนาคารSCB พนักงานต้องนัดวันให้คนมาประเมินบ้าน อันนี้เราได้ฟรีค่าประเมิน พอตรวจบ้านเสร็จนอกนั้นก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เราก็ไม่ต้องทำอะไรนอกจากรอให้พนักงานแจ้งมา 
3.เมื่อการประเมินบ้านผ่านไปด้วยดี พนักงานก็จะสรุปยอดอนุมัติทั้งหมดมี
- ยอดตัวบ้าน
- บริการเสริมคุ้มครองสิ้นเชื่อบ้าน (บังคับทำกับ SCB ถ้าอยากได้ดอกเบี้ยที่แจ้งไว้)
- ประกันอีคคีภัย (บังคับต้องมี แต่ใช้ที่ไหนก็ได้ เราใช้ของ ธอส.เดิมที่ทำกับเอเชียอาคเนย์
เราเคยคิดว่ามีแค่ยอดตัวบ้านไม่ได้หรอ คำตามคือตามที่ วงเล็บไว้
4.วันที่ไปธอส.สำนักงานใหญ่ ก็ไปเซ็นรับทราบ แค่นั้น แล้วก็ทำเรื่องนัดให้ พนักงานธอส.กับพนักงาน scb ไปเจอกันที่กรมที่ดิน ธอส.ขอเวลาอย่างน้อย 7 วันอีก กว่าจะหาวันลงตัวเพื่อไปกรมที่ดิน
5. ที่กรมที่ดิน พนักงาน 2 ธนาคารมาเจอกัน ทำเรื่องให้เรา มาถึงก็เซ็นๆเอกสารหลายจุดอยู่ แล้วก็จ่ายเงินและรอเอกสารอันนี้นานหน่อย พนักงานแจ้งว่าต้องรอให้กรมที่ดินดูเอกสารให้  
การรีไฟแนนซ์ไปอีกธนาคารเราต้องเตรียมเงินก้อน คือ 1%ของค่าบ้าน ที่ต้องจ่ายให้กรมที่ดิน อันนี้ถ้ามีใครทราบ อยากรู้ว่าทำไมต้องจ่ายค่ะ มันเยอะมากเลยนะ
รีไฟแนนซ์ ทำช่วงสิ้นปีจ่ายไปเยอะอยู่ แต่ก็รู้สึกว่าควรต้องย้าย เราไม่ควรจ่ายให้ธนาคารที่คิดดอกเบี้ยสูงๆ
ชื่อสินค้า:   รีไฟแนนซ์ไปธนาคารไทยพาณิชย์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่