เก็บเล็กผสมน้อยเกี่ยวกับ Urostomy
1. ในกรณีของแฟนเรา เขาอายุมากเกินกว่าที่จะมาพยายามเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนแป้นด้วยตัวเอง เราจึงต้องเป็นคนทำให้ สำหรับคนไข้ที่อายุน้อยกว่านี้ น่าจะสามารถเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองได้ง่ายกว่า
2. ปัสสาวะที่ผ่านมาทาง Stoma นี้ กลิ่นเหม็นกว่าเดิมที่เราคุ้นเคยมาก แถมอาหาร และยาบางชนิด ก็จะทำให้ปัสสาวะกลิ่นฉุนของอาหาร หรือยามากกว่าปกติดอีกต่างหาก
3. ปัสสาวะจะมีเมือกขาว ๆ ผสมติดมาด้วยตลอด จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้ดื่มน้ำได้มากหรือน้อย ถ้าดื่มน้ำได้น้อย เมือกนี้จะข้น เป็นเรื่องปกติครับ มันเป็นผลพวงจากลำไส้เล็กที่ผลิตเมือกนี้ออกมา ก็ Stoma มันคือลำไส้เล็ก แต่ถูกตัดมาทำเป็นทางออกของปัสสาวะ (ทวารเบาเทียม)
4. หากปัสสาวะมีเลือดปน ตรงนี้ต้องหาหมอแล้วครับ ของแฟนผมโชคดี ไม่เคยมีปัญหานี้ อาจจะมีบ้าง เวลาผมไม่ระวังเวลาเปลี่ยนแป้น แล้วเล็บไปข่วนโดน Stoma แล้วมีเลือดออก แต่สักพักเลือดก็หยุดเอง
5. หลังจากผ่าตัดได้ 1 ปี แฟนเราเป็นโรคหัวใจล้มเหลว เลยต้องทานยาขับปัสสาวะทุกวันตอนเช้า เราเคยจำเป็นต้องเปลี่ยนแป้นตอนเช้าหลังทานยา ปรากฏว่า ปัสสาวะพุ่งตลอดเวลาเป็นน้ำพุเลยครับ เพราะยาขับปัสสาวะทำงานอยู่ ปกติเราเลือกเปลี่ยนแป้นตอนค่ำครับ เพราะปัสสาวะจะไม่ค่อยมากแล้ว เปลี่ยนแป้นได้ง่ายกว่า
6. แป้นควรต้องเปลี่ยนทุก ๆ 3-5 วัน แล้วแต่สภาพปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ควรสังเกตุบริเวณผิวหนังรอบ ๆ Stoma หลังจากลอกแป้นออก ว่าผิวหนังดูแฉะ หรือแดงมากน้อยแค่ไหน ถ้ามาก ก็ควรต้องเปลี่ยนให้บ่อยขึ้น
7. ถุงก๊อก ควรล้างทุก ๆ วัน เราเลือกล้างเวลาแฟนอาบน้ำ ถอดถุงก๊อกออก ล้างคล้าย ๆ กับการซักผ้า แต่เป็นการถูหรือเขย่าเบา ๆ เพราะถุงก๊อกเป็นพลาสติก
8. เวลาอาบน้ำ เราให้แฟนถอดถุงก๊อกออก เพื่อให้เราล้าง และแฟนเราก็อาบน้ำโดยไม่ต้องปิดบริเวณแป้นเลย และใช้น้ำล้างบริเวณแป้น และ Stoma ด้วย เพื่อความสะอาด (ตอนอยู่ที่โรงพยาบาล อาจารย์พยาบาลแนะนำว่าต้องปิดบริเวณแป้นไว้ไม่ให้เปียก แต่พนักงานขายเวชภัณฑ์บอกเราว่า ไม่จำเป็น เราเลยให้แฟนอาบน้ำได้ โดยไม่ต้องปิดบริเวณแป้นเลย) อาบน้ำเสร็จ ก็รีบซับบริเวณแป้นให้แห้งก่อน แล้วใส่ถุงก๊อกที่สะอาดกลับลงไปบนแป้นทันที แล้วจึงไปเช็ดตัวที่เหลือต่อ
9. เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กแบบน้ำ และน้ำยาปรับผ้านุ่มเด็กในการล้างถุงก๊อก โดยเทน้ำยาซักผ้าลงไปในถุงก๊อก ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย แล้วเขย่าถุงไปมา เพื่อล้างด้านใน แล้วล้างน้ำยาออกด้วยน้ำ หลังจากนั้น ก็แช่ถุงก๊อกในน้ำผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม (ซึ่งช่วยดับกลิ่นได้ดีมาก)
10. ถุงก๊อก เราใช้ 2 ถุง ต่อเวลา 2 เดือน โดยสลับกันล้าง สลับกันผึ่งให้แห้ง ถุงหนึ่งถอดออกล้าง ถุงที่ผึ่งแห้งแล้ว ก็ใส่กลับเข้า หลังจากที่แฟนเราอาบน้ำเสร็จ ครบ 2 เดือน เราทิ้งถุงก๊อกทั้ง 2 ถุงไปเลย ใช้ถุงใหม่ 2 ถุงมาแทนกัน
11. ปัสสาวะจะไหลออกมาได้ตลอดเวลา ไม่สามารถควบคุมได้ แป้นและถุงก๊อก จะเป็นตัวเก็บปัสสาวะที่ออกมาทาง Stoma ไว้ แฟนเราเขาจะรู้ตัวเอง ว่าถุงที่หน้าท้องหนักแค่ไหน และเมื่อไหร่ควรต้องไปถ่ายปัสสาวะทิ้ง
12. การถ่ายปัสสาวะทิ้งนั้น แฟนเราใช้ถุงก๊อก จึงแค่เข้าห้องน้ำ แล้วเปิดก๊อกปล่อยปัสสาวะลงไปในโถส้วม พอหมดแล้ว ก็แค่ปิดก๊อก แน่นนอนครับ บางครั้งแกลืมปิดก๊อก ปัสสาวะก็ไหลออกมาเลอะเทอะตัว ถ้าอยู่บ้าน ก็ยังเข้าห้องน้ำ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ได้ ถ้าอยู่ข้างนอก ก็ต้องกลับเข้าบ้านทันที
13. ถุงเก็บปัสสาวะตอนกลางคืน ใช้ต่อกับถุงก๊อกเวลาเข้านอน เพื่อปัสสาวะจะได้ไม่ค้างในถุงเล็กมากเกินไป ชุดกล่องถุงก๊อกจะมีตัว adaptor มาพร้อม ใช้ต่อเข้ากับถุงเก็บปัสสาวะ เพื่อเอาไปต่อกับตัวก๊อกอีกทีหนึ่ง
14. การจะต่อถุงเก็บปัสสาวะตอนกลางคืน ควรมีเก็บปัสสาวะในถุงก๊อกสักหนึ่งในสี่ของถุง หรือมากกว่า เพื่อเวลาต่อถุงเก็บปัสสาวะแล้ว ปัสสาวะจะได้เคลื่อนลงมาที่ถุงเก็บ และเกิดเป็นแรงดึงให้ปัสสาวะไหลต่อเนื่องได้ทั้งคืน ถ้าต่อถุงโดยไม่มีปัสสาวะค้าง ปัสสาวะมักจะไม่เดินลงมาในถุงเก็บ เพราะไม่มีแรงดึง
15. ผมติดตะขอไว้ข้างเตียงเพื่อแขวนถุงเก็บปัสสาวะตอนกลางคืน และผมวางปลายถุงไว้ในกล่องพลาสติกอีกทีหนึ่ง เพื่อกันปัญหาถุงรั่ว แล้วปัสสาวะไหลเลอะเทอะ หรือผมลืมปิดก๊อกในถุงเก็บ (ซึ่งเคยเกิดขึ้น)
16. มีบางครั้ง ที่ปัสสาวะไม่เดินจากถุงก๊อกเข้าไปยังถุงเก็บ ทุก ๆ คืน ผมต้องลุกเข้าห้องน้ำ ก็จะเช็คว่าปัสสาวะเดินเข้าถุงเก็บหรือไม่ ถ้าไม่ ก็จะบีบท่อยางสักหน่อย เพื่อกระตุ้นให้ปัสสาวะเดินออกจากถุงก๊อก
17. แฟนผมต้องคอยรู้ตัวตลอด เวลาต้องลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ว่าจะต้องยกถุงเก็บปัสสาวะตามไปด้วยทั้งชุด ซึ่งแกค่อนข้างจะงุ่นง่านตอนแรก ๆ แต่ตอนหลังก็คุ้นเคย
18. ถุงเก็บปัสสาวะตอนกลางคืนนี้ หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ผมใช้เดือนละ 1 ถุง ตอนเช้าก็ถ่ายปัสสาวะทิ้งไป แล้วเอาท่อจ่อใต้ก๊อกน้ำ เพื่อเติมน้ำสะอาดเข้าไปล้างด้วยการเขย่าไปมา ล้างน้ำ 2-3 รอบ รอบสุดท้าย ผมล้างด้วยน้ำยาล้างปากลีสเตอร์ลีนเลยครับ ผมถ่ายใส่ขวดบีบซอสไว้ เพื่อสะดวกเวลาบีบใส่ท่อของถุง แล้วเขย่าล้างให้ทั่ว ก่อนเททิ้ง เพื่อดับกลิ่นปัสสาวะในถุงครับ ผมเคยลองใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเหมือนกับที่ใช้แช่ถุงก๊อก ไม่รู้ทำไม มันกลายเป็นเมือก ล้างลำบากขึ้นอีก เลยใช้น้ำยาล้างปากมาตลอด
19. ชุด Urostomy ทั้งชุด สามารถรั่วไหลได้ หรือลืมปิดก๊อก เตียงนอน ตอนแรกผมปูผ้าพลาสติกใต้ผ้าปูที่นอน แต่ช่วงหลัง ผมเลือกซื้อผ้าคลุมฟูกแบบกันน้ำเลยครับ สะดวก และนุ่มนวลกว่า เวลานอน
20. หากเดินทางไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ ชุดอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องเตรียมไปให้ครบ ให้พร้อม และให้มีเกินพอตลอดระยะเวลา หรือกระทั่งเวลาต้องไปนอนโรงพยาบาล ก็ต้องเตรียมไปด้วยเช่นกัน ผมมีกระเป๋าเฉพาะเพื่อจัดใส่อุปกรณ์ Urostomy ครบชุด สำหรับเวลาไปไหนต่อไหน
21. ต้องจัดซื้อเวชภัณฑ์เก็บไว้เป็นสต็อคให้เกินพอไว้ตลอดครับ อย่าซื้อแค่ให้พอ เพราะอย่างที่บอกตอนต้น เวชภัณฑ์นี้ ขาดไม่ได้ และต้องใช้ไปตลอดชีวิต
22. แป้นหน้าท้องนี้ ไม่ได้เรียบเสมอกับหน้าท้อง แฟนผมตอนแรก ๆ ก็หาสเตย์รัดหน้าท้องแบบรัดเบา ๆ มาใส่ เพื่อไม่ให้ดูเด่น แต่ท้ายที่สุด แกก็ปล่อยมันไป ไม่ได้มาใส่ใจเรื่องนี้อีก
23. ตอนแรก ๆ ผมหาอ่านเกร็ดความรู้พวกนี้ทางเว็บภาษาไทย ไม่มีให้อ่านเลยครับ ผมโชคดีได้เจอเว็บไซต์ภาษาอังกฤษ www.inspire.com ซึ่งเป็นที่ ๆ คนไข้ หรือญาติ ได้สอบถาม แชร์ความรู้ข้อมูลกัน บางครั้งมีหมอมาช่วยตอบด้วย ได้ความรู้ ได้เรียนรู้ก็เยอะจากเว็บไซต์นี้ เสียแค่ว่าเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
24. ชีวิตวิถีใหม่นี้ ผมยอมรับว่าปรับตัวลำบาก และเหนื่อย แต่ไม่มีทางเลือกครับ ต้องทำและทำกันไปตลอดชีวิต หลายต่อหลายครั้งก็รู้สึกท้อ แต่ก็ต้องทำใจครับ บางอย่าง พอทำไปนาน ๆ เข้า ก็คุ้นเคยและลืมไปเอง
ชีวิตวิถีใหม่ หลังการผ่าตัดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ภาคที่ 3
1. ในกรณีของแฟนเรา เขาอายุมากเกินกว่าที่จะมาพยายามเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนแป้นด้วยตัวเอง เราจึงต้องเป็นคนทำให้ สำหรับคนไข้ที่อายุน้อยกว่านี้ น่าจะสามารถเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองได้ง่ายกว่า
2. ปัสสาวะที่ผ่านมาทาง Stoma นี้ กลิ่นเหม็นกว่าเดิมที่เราคุ้นเคยมาก แถมอาหาร และยาบางชนิด ก็จะทำให้ปัสสาวะกลิ่นฉุนของอาหาร หรือยามากกว่าปกติดอีกต่างหาก
3. ปัสสาวะจะมีเมือกขาว ๆ ผสมติดมาด้วยตลอด จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้ดื่มน้ำได้มากหรือน้อย ถ้าดื่มน้ำได้น้อย เมือกนี้จะข้น เป็นเรื่องปกติครับ มันเป็นผลพวงจากลำไส้เล็กที่ผลิตเมือกนี้ออกมา ก็ Stoma มันคือลำไส้เล็ก แต่ถูกตัดมาทำเป็นทางออกของปัสสาวะ (ทวารเบาเทียม)
4. หากปัสสาวะมีเลือดปน ตรงนี้ต้องหาหมอแล้วครับ ของแฟนผมโชคดี ไม่เคยมีปัญหานี้ อาจจะมีบ้าง เวลาผมไม่ระวังเวลาเปลี่ยนแป้น แล้วเล็บไปข่วนโดน Stoma แล้วมีเลือดออก แต่สักพักเลือดก็หยุดเอง
5. หลังจากผ่าตัดได้ 1 ปี แฟนเราเป็นโรคหัวใจล้มเหลว เลยต้องทานยาขับปัสสาวะทุกวันตอนเช้า เราเคยจำเป็นต้องเปลี่ยนแป้นตอนเช้าหลังทานยา ปรากฏว่า ปัสสาวะพุ่งตลอดเวลาเป็นน้ำพุเลยครับ เพราะยาขับปัสสาวะทำงานอยู่ ปกติเราเลือกเปลี่ยนแป้นตอนค่ำครับ เพราะปัสสาวะจะไม่ค่อยมากแล้ว เปลี่ยนแป้นได้ง่ายกว่า
6. แป้นควรต้องเปลี่ยนทุก ๆ 3-5 วัน แล้วแต่สภาพปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ควรสังเกตุบริเวณผิวหนังรอบ ๆ Stoma หลังจากลอกแป้นออก ว่าผิวหนังดูแฉะ หรือแดงมากน้อยแค่ไหน ถ้ามาก ก็ควรต้องเปลี่ยนให้บ่อยขึ้น
7. ถุงก๊อก ควรล้างทุก ๆ วัน เราเลือกล้างเวลาแฟนอาบน้ำ ถอดถุงก๊อกออก ล้างคล้าย ๆ กับการซักผ้า แต่เป็นการถูหรือเขย่าเบา ๆ เพราะถุงก๊อกเป็นพลาสติก
8. เวลาอาบน้ำ เราให้แฟนถอดถุงก๊อกออก เพื่อให้เราล้าง และแฟนเราก็อาบน้ำโดยไม่ต้องปิดบริเวณแป้นเลย และใช้น้ำล้างบริเวณแป้น และ Stoma ด้วย เพื่อความสะอาด (ตอนอยู่ที่โรงพยาบาล อาจารย์พยาบาลแนะนำว่าต้องปิดบริเวณแป้นไว้ไม่ให้เปียก แต่พนักงานขายเวชภัณฑ์บอกเราว่า ไม่จำเป็น เราเลยให้แฟนอาบน้ำได้ โดยไม่ต้องปิดบริเวณแป้นเลย) อาบน้ำเสร็จ ก็รีบซับบริเวณแป้นให้แห้งก่อน แล้วใส่ถุงก๊อกที่สะอาดกลับลงไปบนแป้นทันที แล้วจึงไปเช็ดตัวที่เหลือต่อ
9. เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กแบบน้ำ และน้ำยาปรับผ้านุ่มเด็กในการล้างถุงก๊อก โดยเทน้ำยาซักผ้าลงไปในถุงก๊อก ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย แล้วเขย่าถุงไปมา เพื่อล้างด้านใน แล้วล้างน้ำยาออกด้วยน้ำ หลังจากนั้น ก็แช่ถุงก๊อกในน้ำผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม (ซึ่งช่วยดับกลิ่นได้ดีมาก)
10. ถุงก๊อก เราใช้ 2 ถุง ต่อเวลา 2 เดือน โดยสลับกันล้าง สลับกันผึ่งให้แห้ง ถุงหนึ่งถอดออกล้าง ถุงที่ผึ่งแห้งแล้ว ก็ใส่กลับเข้า หลังจากที่แฟนเราอาบน้ำเสร็จ ครบ 2 เดือน เราทิ้งถุงก๊อกทั้ง 2 ถุงไปเลย ใช้ถุงใหม่ 2 ถุงมาแทนกัน
11. ปัสสาวะจะไหลออกมาได้ตลอดเวลา ไม่สามารถควบคุมได้ แป้นและถุงก๊อก จะเป็นตัวเก็บปัสสาวะที่ออกมาทาง Stoma ไว้ แฟนเราเขาจะรู้ตัวเอง ว่าถุงที่หน้าท้องหนักแค่ไหน และเมื่อไหร่ควรต้องไปถ่ายปัสสาวะทิ้ง
12. การถ่ายปัสสาวะทิ้งนั้น แฟนเราใช้ถุงก๊อก จึงแค่เข้าห้องน้ำ แล้วเปิดก๊อกปล่อยปัสสาวะลงไปในโถส้วม พอหมดแล้ว ก็แค่ปิดก๊อก แน่นนอนครับ บางครั้งแกลืมปิดก๊อก ปัสสาวะก็ไหลออกมาเลอะเทอะตัว ถ้าอยู่บ้าน ก็ยังเข้าห้องน้ำ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ได้ ถ้าอยู่ข้างนอก ก็ต้องกลับเข้าบ้านทันที
13. ถุงเก็บปัสสาวะตอนกลางคืน ใช้ต่อกับถุงก๊อกเวลาเข้านอน เพื่อปัสสาวะจะได้ไม่ค้างในถุงเล็กมากเกินไป ชุดกล่องถุงก๊อกจะมีตัว adaptor มาพร้อม ใช้ต่อเข้ากับถุงเก็บปัสสาวะ เพื่อเอาไปต่อกับตัวก๊อกอีกทีหนึ่ง
14. การจะต่อถุงเก็บปัสสาวะตอนกลางคืน ควรมีเก็บปัสสาวะในถุงก๊อกสักหนึ่งในสี่ของถุง หรือมากกว่า เพื่อเวลาต่อถุงเก็บปัสสาวะแล้ว ปัสสาวะจะได้เคลื่อนลงมาที่ถุงเก็บ และเกิดเป็นแรงดึงให้ปัสสาวะไหลต่อเนื่องได้ทั้งคืน ถ้าต่อถุงโดยไม่มีปัสสาวะค้าง ปัสสาวะมักจะไม่เดินลงมาในถุงเก็บ เพราะไม่มีแรงดึง
15. ผมติดตะขอไว้ข้างเตียงเพื่อแขวนถุงเก็บปัสสาวะตอนกลางคืน และผมวางปลายถุงไว้ในกล่องพลาสติกอีกทีหนึ่ง เพื่อกันปัญหาถุงรั่ว แล้วปัสสาวะไหลเลอะเทอะ หรือผมลืมปิดก๊อกในถุงเก็บ (ซึ่งเคยเกิดขึ้น)
16. มีบางครั้ง ที่ปัสสาวะไม่เดินจากถุงก๊อกเข้าไปยังถุงเก็บ ทุก ๆ คืน ผมต้องลุกเข้าห้องน้ำ ก็จะเช็คว่าปัสสาวะเดินเข้าถุงเก็บหรือไม่ ถ้าไม่ ก็จะบีบท่อยางสักหน่อย เพื่อกระตุ้นให้ปัสสาวะเดินออกจากถุงก๊อก
17. แฟนผมต้องคอยรู้ตัวตลอด เวลาต้องลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ว่าจะต้องยกถุงเก็บปัสสาวะตามไปด้วยทั้งชุด ซึ่งแกค่อนข้างจะงุ่นง่านตอนแรก ๆ แต่ตอนหลังก็คุ้นเคย
18. ถุงเก็บปัสสาวะตอนกลางคืนนี้ หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ผมใช้เดือนละ 1 ถุง ตอนเช้าก็ถ่ายปัสสาวะทิ้งไป แล้วเอาท่อจ่อใต้ก๊อกน้ำ เพื่อเติมน้ำสะอาดเข้าไปล้างด้วยการเขย่าไปมา ล้างน้ำ 2-3 รอบ รอบสุดท้าย ผมล้างด้วยน้ำยาล้างปากลีสเตอร์ลีนเลยครับ ผมถ่ายใส่ขวดบีบซอสไว้ เพื่อสะดวกเวลาบีบใส่ท่อของถุง แล้วเขย่าล้างให้ทั่ว ก่อนเททิ้ง เพื่อดับกลิ่นปัสสาวะในถุงครับ ผมเคยลองใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเหมือนกับที่ใช้แช่ถุงก๊อก ไม่รู้ทำไม มันกลายเป็นเมือก ล้างลำบากขึ้นอีก เลยใช้น้ำยาล้างปากมาตลอด
19. ชุด Urostomy ทั้งชุด สามารถรั่วไหลได้ หรือลืมปิดก๊อก เตียงนอน ตอนแรกผมปูผ้าพลาสติกใต้ผ้าปูที่นอน แต่ช่วงหลัง ผมเลือกซื้อผ้าคลุมฟูกแบบกันน้ำเลยครับ สะดวก และนุ่มนวลกว่า เวลานอน
20. หากเดินทางไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ ชุดอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องเตรียมไปให้ครบ ให้พร้อม และให้มีเกินพอตลอดระยะเวลา หรือกระทั่งเวลาต้องไปนอนโรงพยาบาล ก็ต้องเตรียมไปด้วยเช่นกัน ผมมีกระเป๋าเฉพาะเพื่อจัดใส่อุปกรณ์ Urostomy ครบชุด สำหรับเวลาไปไหนต่อไหน
21. ต้องจัดซื้อเวชภัณฑ์เก็บไว้เป็นสต็อคให้เกินพอไว้ตลอดครับ อย่าซื้อแค่ให้พอ เพราะอย่างที่บอกตอนต้น เวชภัณฑ์นี้ ขาดไม่ได้ และต้องใช้ไปตลอดชีวิต
22. แป้นหน้าท้องนี้ ไม่ได้เรียบเสมอกับหน้าท้อง แฟนผมตอนแรก ๆ ก็หาสเตย์รัดหน้าท้องแบบรัดเบา ๆ มาใส่ เพื่อไม่ให้ดูเด่น แต่ท้ายที่สุด แกก็ปล่อยมันไป ไม่ได้มาใส่ใจเรื่องนี้อีก
23. ตอนแรก ๆ ผมหาอ่านเกร็ดความรู้พวกนี้ทางเว็บภาษาไทย ไม่มีให้อ่านเลยครับ ผมโชคดีได้เจอเว็บไซต์ภาษาอังกฤษ www.inspire.com ซึ่งเป็นที่ ๆ คนไข้ หรือญาติ ได้สอบถาม แชร์ความรู้ข้อมูลกัน บางครั้งมีหมอมาช่วยตอบด้วย ได้ความรู้ ได้เรียนรู้ก็เยอะจากเว็บไซต์นี้ เสียแค่ว่าเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
24. ชีวิตวิถีใหม่นี้ ผมยอมรับว่าปรับตัวลำบาก และเหนื่อย แต่ไม่มีทางเลือกครับ ต้องทำและทำกันไปตลอดชีวิต หลายต่อหลายครั้งก็รู้สึกท้อ แต่ก็ต้องทำใจครับ บางอย่าง พอทำไปนาน ๆ เข้า ก็คุ้นเคยและลืมไปเอง